‘ป๊อด’กับ’มิตซูโอะ’ โดย ปราปต์ บุนปาน

ในเครดิตบนปกเทป/ซีดีอัลบั้มชุด “แดดส่อง” ของวงดนตรี “โมเดิร์นด็อก” ที่ออกวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2547

“ธนชัย อุชชิน” หรือ “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” นักร้องนำ/ผู้นำของวง ได้เขียนขอบคุณหลายๆ คนที่สนับสนุนการทำงานของเขา

น่าสนใจว่า ถัดจาก “ทุกคนที่บ้าน” ซึ่งเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่ป๊อดเขียนขอบคุณ

ชื่อถัดมาที่นักร้องดังระบุเอาไว้ ก็คือ “พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก”

Advertisement

ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับคนที่ติดตามผลงานของโมเดิร์นด็อกและวิธีคิดในการทำงาน-วิถีการใช้ชีวิตของป๊อดมาอย่างต่อเนื่อง

เพราะเขาถึงขั้นเคยไปบวชเรียนกับ “พระอาจารย์ชาวญี่ปุ่น” ที่ “วัดสุนันทวนาราม” จังหวัดกาญจนบุรีมาแล้ว

ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ภายหลังการลาสิกขาของอดีตพระมิตซูโอะ เมื่อปี 2556 ลูกศิษย์อย่างป๊อดจะให้คำอธิบายกับตนเองอย่างไร? ต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

Advertisement

แต่เมื่อไม่มีใครชวนป๊อดคุยเรื่องนี้ในพื้นที่สาธารณะ ผมจึงไม่มีโอกาสได้รับทราบคำอธิบายดังกล่าว

กระทั่งได้มาอ่านหนังสือรวมบทสัมภาษณ์บุคคลคัดสรรว่าด้วย การเมือง ศาสนา เซ็กซ์ บันเทิง และการใช้ชีวิต ชื่อ “ดื่มไดอะล็อก” ของ “ใบพัด นบน้อม” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน

จึงพบว่าในหนังสือเล่มนี้มีบทสัมภาษณ์ “เมืองนอก-เมืองใน ธนชัย อุชชิน” รวมอยู่ด้วย (ตัวบทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกที่นิตยสารเพลย์บอย ไทยแลนด์ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2016)

ที่น่าตื่นเต้น ก็คือ ใบพัดได้ชวนป๊อดสนทนาถึงประเด็นเกี่ยวกับอดีตพระมิตซูโอะเอาไว้อย่างเข้มข้นพอสมควร

ส่งผลให้ผู้อ่านได้รับทราบถึงท่าทีของศิลปินดังที่มีต่อการลาสิกขาของอดีตพระอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ดังนี้

“-ตอนที่ทราบข่าวว่าท่านมิตซูโอะลาสิกขา มันกระเพื่อมในใจรุนแรงมั้ย”

“เอาจริงๆ แล้วผมนิ่งมากเลยนะ ด้วยความสัตย์จริง ไม่ตกใจเลย แล้วผมรู้สึกว่าท่านกำลังสอนเราอีกหนึ่งอย่างด้วยซ้ำ ตอกย้ำให้เราเห็นเรื่องอนิจจัง เพราะท่านบอกเสมอว่าทุกอย่างไม่แน่นอน”

“-คิดว่าการที่พระรูปหนึ่งบวชมานาน เป็นถึงครูบาอาจารย์ เป็นวิปัสสนาจารย์ทางธรรม อยู่ดีๆ ก็มาสึกเพราะเห็นสตรีดีกว่านิพพาน คิดว่าเป็นความล้มเหลวมั้ย”

“เอาจริงๆ แล้วสิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกดีเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ของเรา เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก การที่เรามีความรู้สึก มีประสาทสัมผัส เราควรจะรื่นรมย์กับสิ่งที่ได้มาในชาตินี้ อันนี้คือส่วนตัวผมนะ”

“-แต่ว่าท่านสึกก็เกิดผลกระทบเยอะเหมือนกัน”

“เราไม่ได้มองว่าคนอื่นคิดยังไง แต่สนใจว่าตอนนี้จิตใจเรารู้สึกยังไง ความรักและความเคารพ หรือสิ่งที่ท่านเคยสอนเราก็ยังฝังอยู่ในตัวเรา สิ่งดีๆ หรือความรู้มากมายที่ได้จากท่านก็ทำให้เรามีวันนี้ด้วย”

“-อะไรที่ท่านสอนแล้วยังนำมาใช้ นำมาคิด นำมาไตร่ตรองอยู่เสมอๆ”

“ผมว่าถ้าเป็นเรื่องเครื่องมือคงเป็นอานาปานสตินี่แหละ เรื่องการรักษาสุขภาพใจให้ดี อีกสิ่งหนึ่งก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี ในทุกสถานการณ์ นี่คือสิ่งที่ท่านสอน แม้ว่าเราจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง”

นี่อาจนับเป็นอาการ “ตาสว่าง” (หนึ่งในเพลงฮิตจากอัลบั้ม “แดดส่อง”) แบบสงบนิ่งและเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของ ป๊อด โมเดิร์นด็อก

เมื่อ “สุดท้าย เรื่องราว (ก็จะ) ว่างเปล่า ต่อไป”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image