สาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังหวนกลับไปสู่ลัทธิบูชาบุคคล

ลัทธิบูชาบุคคล (cult of personality) คือการที่สื่อมวลชนใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อผ่านทางสื่อสารนานาชนิดรวมทั้งการศึกษาของประเทศเพื่อสร้างภาพลักษณ์อุดมคติให้กับบุคคลคนหนึ่งให้เกิดความน่าเคารพบูชาด้วยการสร้างเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง โดยแต่งเติมเสริมต่อประจบประแจงอย่างออกนอกหน้าและมีการสร้างกลไกทางกฎหมายเพื่อลงโทษบรรดาผู้คนที่ต่อต้านลัทธิบูชาบุคคลนี้ โดยมีตัวอย่างในอดีต เช่น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี โจเซฟ สตาลิน แห่งสหภาพโซเวียต และ เหมา เจ๋อตง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น สำหรับในปัจจุบันที่เห็นชัดที่สุดก็คือ คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน

ในอดีตประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงปี พ.ศ.2492-2519 ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของ เหมา เจ๋อตง นั้นสื่อมวลชนของรัฐจีนได้ใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อแบบต่างๆ เพื่อยกฐานะเหมา เจ๋อตงขึ้นเป็นวีรชนผู้นำที่ไม่เคยผิดพลาดที่นำจีนยืนหยัดต่อสู้กับมหาอำนาจตะวันตกและนำพาจีนเข้าสู่สังคมคอมมิวนิสต์อย่างแท้จริงและในช่วงเวลาของการปฏิวัติวัฒนธรรมจัดว่าเป็นช่วงของการโฆษณาชวนเชื่อสร้างลัทธิบูชาบุคคลให้กับเหมา เจ๋อตงขึ้นสู่ขั้นสูงสุดด้วยการตีพิมพ์ภาพใบหน้าของเหมา เจ๋อตงในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์พร้อมทั้งงานคิด งานเขียนของเหมา เจ๋อตงทุกวัน และยังพิมพ์หนังสือคัดเลือกผลงานของเหมา เจ๋อตงถึง 1,200 ล้านเล่ม (มากกว่าจำนวนประชากรจีนในขณะนั้นเสียอีก) นอกจากนี้ ยังทำเข็มตรารูปเหมา เจ๋อตงสำหรับประดับติดอกเสื้อจำนวน 48,000 ล้านอัน ออกแจกจ่ายให้กับประชาชน และที่โด่งดังที่สุดก็คือการพิมพ์สรรนิพนธ์เหมา เจ๋อตง (หนังสือปกแดงเล่มเล็ก) ให้แก่ประชาชนเอาไว้ติดตัวตลอดเวลาและใช้แสดงในที่สาธารณะเพื่ออ้างอิงในชีวิตประจำวันทุกวัน

หลังจากอสัญกรรมของ เหมา เจ๋อตง เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2519 แล้ว ผู้นำจีนในยุคปฏิรูปนับตั้งแต่ เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นต้นมามีแนวโน้มที่จะพยายามป้องกันการเกิดขึ้นของลัทธิบูชาตัวบุคคลดังที่เคยเกิดในสมัยเหมา ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นต้นตอแห่งความพังพินาศของบ้านเมืองในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ดังนั้นจึงได้มีการกำหนดให้ประธานาธิบดีจีนสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระเป็นเวลารวมทั้งสิ้น 10 ปี จะเห็นได้ว่าทั้ง เจียง เจ๋อหมิน และ หู จิ่นเทา ต่างก็ปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัด แต่ต่อมาในยุคของ สี จิ้นผิง สภาประชาชนแห่งชาติได้ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว และในเดือนมีนาคม พ.ศ.2561 ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนด 2 วาระสำหรับทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะดำรงตำแหน่งเกินกว่า 10 ปี เป็นเหตุให้สื่อต่างชาติพากันนำเสนอข่าวนี้ในเชิงยั่วล้อ โดยเรียกประธานาธิบดีจีนว่า “จักรพรรดิสี” นับแต่นั้นมา

นอกจากนี้ สี จิ้นผิงในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ได้เสนอแนวความคิดว่าด้วยสังคมนิยมกับลักษณะของจีนสำหรับสมัยใหม่เป็นทฤษฎีการเมืองต่อสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่าอุดมการณ์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเป็นผู้ชี้นำทางการเมืองและการทหารของประเทศจีนโดยสร้างจิตสำนึก 4 ประการ ได้แก่ จิตสำนึกทางการเมือง จิตสำนึกที่ตั้ง จิตสำนึกแกนหลัก และจิตสำนึกการเป็นอันหนึ่งอันเดียว ยึดมั่นความเชื่อมั่น 4 ประการ ได้แก่ ความเชื่อมั่นในหนทาง ทฤษฎี ระบบ และวัฒนธรรมของสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน จดจำ “เรื่องใหญ่ของบ้านเมือง” ยกระดับการบริหารพรรคให้เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ เป็นประชาธิปไตย และเป็นไปตามกฎหมาย โดยสรุปก็คือพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องผูกขาดอำนาจการปกครองประเทศจีนตามแบบจีนๆ ต่อไปนั่นเอง (เหมือนประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั่นแหละครับ)

Advertisement

ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561 ในสมัยปิดประชุมสมัชชาพรรคที่ 19 อนุมัติการรับความคิดของ สี
จิ้นผิง เข้าธรรมนูญแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เมื่อวันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2564 กระทรวงศึกษาธิการจีนประกาศแนวทางด้านการศึกษาฉบับใหม่ว่า “ความคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าด้วยสังคมนิยมกับลักษณะของจีนในยุคสมัยใหม่” จะถูกนำมาสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงขั้นมหาวิทยาลัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นตั้งใจรับฟังและปฏิบัติตามพรรคคอมมิวนิสต์จีน แนวทางยังกำหนดด้วยว่า สื่อการเรียนการสอนใหม่ต้อง “ปลูกฝังความรู้สึกรักชาติ” โดยรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรใหม่ของจีนว่า ในโรงเรียนประถมศึกษาจะเน้นที่การปลูกฝังความรักต่อประเทศชาติ ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน และลัทธิสังคมนิยม ในโรงเรียนมัธยมศึกษาจะเน้นสอนผสมผสานระหว่างประสบการณ์การรับรู้และการศึกษาความรู้ เพื่อช่วยให้นักเรียนสร้างการตัดสินใจและความคิดทางการเมืองขั้นพื้นฐาน ส่วนในระดับมหาวิทยาลัยจะเน้นย้ำมากขึ้นด้านการสร้างความคิดเชิงทฤษฎี

Advertisement

ครับ ! สาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังหวนกลับไปสู่ลัทธิบูชาบุคคลอีกแล้วแหละครับ

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image