ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
เผยแพร่ |
ผู้เขียนเจอหนังสือเรื่อง “Prisoners of Geography? เขียนโดยทิม มาร์แชล ในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ซึ่งที่ปกหนังสือเขียนว่า “ถึงเวลาแล้วที่ต้องใส่ ภูมิ (พื้นดิน) กลับเข้าไปในวิชา ภูมิรัฐศาสตร์ เสียที? และเมื่อเปิดอ่านคำนำที่เขียนโดยเซอร์จอห์น สการ์เล็ทท์ อดีตหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ (MI6) เลยตัดสินใจซื้อเลยครับ
ไม่ผิดหวังหรอกครับ เป็นหนังสือที่อ่านง่ายและอ่านสนุกและครอบคลุมเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ซึ่งเป็นสหวิชาที่รวมเอาวิชาการเมืองการปกครอง (รัฐศาสตร์) ภูมิศาสตร์และการทหารทั้งโลกเข้าด้วยกัน หนังสือเล่มนี้ (Prisoners of Geography) แบ่งออกเป็น 10 บท มีแผนที่ประกอบ 10 แผ่น คือ 1.รัสเซีย 2.จีน 3.สหรัฐอเมริกา 4.ภูมิภาคยุโรปตะวันตก 5.แอฟริกา 6.ภูมิภาคตะวันออกกลาง 7.อินเดียและปากีสถาน 8.เกาหลีกับญี่ปุ่น 9.ละตินอเมริกา 10.ภูมิภาคอาร์ติก
ทิม มาร์แชล เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์นานาชาติเป็นเวลาถึง 25 ปี และสถานที่ที่เขาเขียนถึงในหนังสือเล่มนี้เขาก็ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองพร้อมกับการหาข่าวเพื่อรายงานกลับไปยังทีวีและหนังสือพิมพ์ต้นสังกัด เขาจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของกิจการต่างประเทศ และ blog ส่วนตัวของเขาชื่อ “Foreign Matters? ก็ได้รับการยอมรับและอ้างอิงอย่างกว้างขวางในวงวิชาการ
ทิม มาร์แชล เขียนเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ในแนวใหม่ซึ่งแตกต่างจากภูมิรัฐศาสตร์แบบดั้งเดิมก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยภูมิรัฐศาสตร์ดั้งเดิมจะเน้นเฉพาะภูมิศาสตร์กายภาพ ( Physical Geography) ซึ่งศึกษาถึงภูเขา ที่ราบ แม่น้ำ สมุทรศาสตร์ ภูมิอากาศวิทยา หิน อุตุนิยมวิทยา ฯลฯ เพื่อประกอบกับเรื่องการทหาร สำหรับฝ่ายการเมืองจะนำไปเป็นข้อพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจเป็นนโยบายการต่างประเทศต่อไป
ภูมิรัฐศาสตร์แบบดั้งเดิมเจริญถึงจุดสูงสุดที่ประเทศเยอรมนี โดยมีการสถาปนาสถาบันภูมิรัฐศาสตร์แห่งเยอรมนีขึ้นโดยมีนายพลคาร์ล เฮาส์โฮฟเฟอร์ (Karl Ernst Houshofer) เป็นผู้อำนวยการสถาบันผู้เสนอทฤษฎีเลเบนสเราม์ (Lebensraum) มีแนวคิดว่า รัฐเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่ต้องการพื้นที่ดินเพื่อขยายตัวอยู่ตลอดเวลาจึงถูกระบอบนาซีอ้างเป็นเหตุในการขยายอาณาเขตจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ ในวิทยาลัยการทหารทั่วไปทุกแห่งในโลกในช่วงนั้นก็ต้องมีวิชาภูมิรัฐศาสตร์สอนอยู่ในหลักสูตรประจำรวมทั้งมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมากจนกระทั่งสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 วิชาภูมิรัฐศาสตร์ก็เริ่มเสื่อมลงตามลำดับเนื่องจากมีการพัฒนาอาวุธมหาประลัยคือ ระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีอำนาจทำลายล้างเทียบเท่ากับการจุดระเบิดทีเอ็นทีกว่า 10 ล้านตัน ประกอบกับมีการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile หรือ ICBM) เป็นขีปนาวุธพิสัยไกล มีรัศมีทำการระยะไกลระดับข้ามทวีปมากกว่า 5,500 กิโลเมตร โดยปกติแล้วขีปนาวุธชนิดนี้จะใช้ในการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ เพื่อทำลายเป้าหมายในวงกว้างจากระยะไกล โดยขีปนาวุธชนิดนี้สามารถบรรทุกหัวรบได้มากกว่าหนึ่งหัว และสามารถปล่อยได้จากหลายสถานที่เช่น สถานีปล่อยขีปนาวุธภาคพื้นดิน, เรือดำน้ำ หรือรถปล่อยขีปนาวุธ เป็นต้น
ดังนั้น ความสำคัญทางภูมิศาสตร์กายภาพของวิชาภูมิรัฐศาสตร์ก็ดูจะหมดความหมายโดยสิ้นเชิง และวิชาภูมิรัฐศาสตร์ก็เริ่มหายไปจากหลักสูตรวิทยาลัยการทหารและมหาวิทยาลัยโดยทั่วไปจนกระทั่งเมื่อสิ้นสุดยุคสงครามเย็น เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลงเมื่อปลายปี พ.ศ.2534 เป็นเวลาร่วม 50 ปีแล้วที่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์แต่ไม่มีประเทศใดกล้าใช้อาวุธนิวเคลียร์อีกเลยและสงครามย่อยๆ ก็เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกตลอดเวลา
รวมทั้งการขยายตัวขององค์การก่อการร้ายสากลกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ทำให้เกิดการเกิดขึ้นใหม่ของวิชาภูมิรัฐศาสตร์และเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่สหัสวรรษใหม่จนถึงปัจจุบันนี้
ประเทศที่อ้างอิงถึงหลักการภูมิรัฐศาสตร์อย่างแข็งขันเข้าขั้นอุดมการณ์คือ ประเทศอิสราเอลที่ได้เข้ายึดครองสันเขาที่ทอดตัวยาวจากเหนือไปใต้ของดินแดนเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศปาเลสไตน์และปฏิเสธแบบหัวเด็ดตีนขาดที่จะคืนสันเขาอันยาวเหยียดนี้แก่ประเทศปาเลสไตน์ เนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศที่มีรูปร่างเหมือนลิ่ม (เครื่องมือของช่างไม้เป็นไม้หรือเหล็กที่มีสันหนาปลายบาง) คือไม่มี strategic depth (ความลึกเชิงยุทธศาสตร์) ซึ่งง่ายต่อการยกทัพเข้าตีตัดตรงกลางประเทศที่กว้างไม่ถึง 10 ไมล์ ก็สามารถแบ่งอิสราเอลออกเป็น 2 ส่วนได้ ดังนั้น การที่จะปล่อยให้สันเขาของเวสต์แบงก์อยู่ในมือของประเทศอริอื่นจึงเป็นเรื่องที่อิสราเอลยอมไม่ได้ ซึ่งก็ทำให้การแก้ปัญหาในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ อิสราเอลยังยึดครองที่ราบสูงโกลานของซีเรียมาตั้งแต่คราวสงคราม 6 วัน เมื่อ พ.ศ.2510 ซึ่งอิสราเอลก็ปฏิเสธที่จะคืนให้กับซีเรียเนื่องจากในทางการทหารนั้นการคุมที่สูงได้ย่อมได้เปรียบในยามศึกสงครามซึ่งการทำสัญญาสันติภาพของซีเรียกับอิสราเอลในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา จึงไม่มีทางสำเร็จลงได้เลย
ภูมิรัฐศาสตร์มิติใหม่นี้ได้ให้ความสำคัญต่อวิชาภูมิศาสตร์มนุษย์ (Human Geography) ซึ่งเป็นเรื่องของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งสาขาหลักๆ ของวิชาภูมิศาสตร์มนุษย์นั้นคือ ภูมิศาสตร์วัฒนธรรม ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ ภูมิประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์การเมือง ภูมิศาสตร์ศาสนา ภูมิศาสตร์การพัฒนา ภูมิศาสตร์ประชากร ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว เป็นต้น ภูมิศาสตร์มนุษย์การศึกษาความเข้าใจและการใช้งานผืนโลกของมนุษย์ และกระบวนการที่มีผลกระทบต่อสิ่งนั้น มันเกี่ยวโยงกับทั้งสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์การศึกษาความเข้าใจและการใช้งานผืนโลกของมนุษย์ และกระบวนการที่มีผลกระทบต่อสิ่งนั้น
ยกตัวอย่างปัญหาในภูมิภาคตะวันออกกลางหากจะวิเคราะห์ในแง่ของภูมิรัฐศาสตร์โดยปราศจากความรู้ทางภูมิศาสตร์ศาสนาจากสาขาภูมิศาสตร์มนุษย์ก็ยากที่จะเข้าใจได้ จึงกล่าวได้ว่าภูมิรัฐศาสตร์ยุคใหม่นี้เน้นความสำคัญของภูมิศาสตร์มนุษย์มากขึ้นกว่าเดิมที่ให้ความสำคัญเฉพาะภูมิศาสตร์กายภาพเท่านั้น