ไต้หวัน…กำลังเจอพายุใหญ่

5 ตุลาคม 2564 สีจิ้นผิง ประกาศลั่นจะขอ “รวมชาติ”

“การรวมชาติแบบสันติจะเป็นประโยชน์ต่อชาวไต้หวันโดยรวมได้ดีที่สุด แต่จีนจะปกป้องอธิปไตยและความเป็นเอกภาพของตัวเอง…”

“…ไม่ควรมีใครดูถูกความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ความมุ่งมั่น และความสามารถอันแข็งแกร่งในการต่อสู้เพื่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติของคนจีน…ภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการรวมชาติจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน…” นี่คือ คำกล่าวของ สีจิ้นผิง ที่ได้ยินแล้วต้องหนาวสะท้าน

แปลว่า จีนกำลังจะผนวกรวม “ไต้หวัน” เข้ามาเป็นอาณาจักรของจีน

Advertisement

พญามังกร สีจิ้นผิง มิใช่คนแบบ “ดีแต่พูด”

หลังประกาศกร้าว…ประธานาธิบดีสีสั่งการ “ฝูงบินรบ”จากกองทัพจีน…ไปแหวกอากาศ…คำรามสนั่นเฉียดน่านฟ้าไต้หวัน

Advertisement

ผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่ “ตั้งใจ” ส่งกำลังทางอากาศ “ไปเยี่ยม” ไต้หวันแบบเบิ้มๆ ไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม

12 ตุลาคม 2564 กองทัพจีนยังส่งทหารไปฝึก “ยกพลขึ้นบก” ใกล้ๆ เกาะไต้หวัน ไม่ต้องปิดบังอำพราง…ต้องการให้เห็นกันทั้งโลก

72 ปีที่ผ่านมา…จีนแผ่นดินใหญ่ส่งเสียงคำรามมาตลอดว่า ไต้หวัน คือ มณฑลหนึ่งของจีน …ไต้หวัน “มิใช่ประเทศเอกราช”

ย้อนไป 10 ธันวาคม 2492 ผู้นำพรรคก๊กมินตั๋ง ทหาร และประชาชนที่อพยพหนีมาเกาะไต้หวัน ก็เคยคำรามว่าจะบุกเอาแผ่นดินจีนคืนมาให้จงได้

72 ปี คือสภาพ 2 จีน ที่แยกกันอยู่ มีทะเลกั้นกลาง

(จีนแผ่นดินใหญ่กร้าวเสมอมา… โลกนี้มีจีนเดียว)

หลังสงคราม…ทั้งจีนคอมมิวนิสต์และไต้หวัน …ต่างแข่งขัน มุ่งมั่นสร้าง พัฒนาชาติให้เจริญก้าวหน้าได้แบบ “น่าอัศจรรย์”

เวลาที่ผ่านไป…ผู้นำทั้ง 2 ฝ่าย ต่างแก่เฒ่า ลาโลกนี้ผ่านแล้วไปหลายรุ่น อาการฮึกเหิมที่จะรบกันแผ่วไปบ้าง…ขอทำมาหากิน…แต่ก็ระแวงกัน

ชาวจีน…คือ ยอดนักสู้ของโลก ขยันทำมาหากิน อดทน มุ่งมั่น

จีนไต้หวัน ที่หนีตายมาก็สู้ยิบตา…กลายเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรือง

พี่จีนใหญ่ก็เก่งใช่ย่อย ชาวโลกเคยดูแคลนว่า “ล้าหลัง-โลกลืม”

ผู้นำจีนใหญ่ทุกคน สร้างชาติจาก “เศษซากสงคราม” ผู้คนครึ่งโลกเบือนหน้าไม่อยากคบหา เพราะแกเป็นคอมมิวนิสต์ (รวมทั้งไทย)

ระบอบคอมมิวนิสต์ในจีน…ทำผู้คนล้มตาย อดอยาก แสนสาหัส

เวลาผันผ่านไปราว 50 ปี…เฮ้ย…พญามังกรฟื้นผงาดขึ้นมาพ่นไฟ

สร้างเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี การเกษตร เงินเยอะ

“นักท่องเที่ยวจีนนับล้าน” ออกไปเที่ยว เจี๊ยวจ๊าวรอบโลก ไปแสดงแสนยานุภาพช้อปปิ้งในยุโรป ในอเมริกา ซื้อสินค้าแบรนด์เนมแบบเหมายกร้าน ไปนอนโรงแรม 5 ดาว ใช้เงินถุง เงินถัง เป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก

นักท่องเที่ยวจีนมาพักผ่อนเมืองไทย…ทำรายได้ให้ไทยแบบตูมตาม เงินไหลนอง ทองไหลมา สังคมไทยต้อนรับคนจีนและเงินจากจีน

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในจีน สุดอลังการ โลกหันมาอิจฉา รถไฟความเร็วสูง ถนน สะพานข้ามหุบเหว เทคโนโลยีล้ำหน้าชาวโลก แถมไปบุกอวกาศแบบสง่างาม…

ราว 70 ปีที่ผ่านมา จีนกลายเป็นมหาอำนาจของโลก กระทบไหล่ ท้าทายกับทุกชาติในโลก…โดยเฉพาะอเมริกาและยุโรป

ถ้าเปรียบเป็น “นักมวย” ถือว่า วันนี้ พี่จีนโคตรฟิต แข็งแรง

จีน…หันไปมองที่ไต้หวันที่กำลังเติบโต ร่ำรวย ดูเหมือนจะมาตีเสมอ กลายเป็น “คู่แข่ง” ในเวทีการค้าระดับโลก และคิดถอยห่าง ประกอบกับเหตุผลทางประวัติศาสตร์ที่คาใจ

พี่จีนใหญ่…จึงต้องออกมา ยืดแข้ง ยืดขา เบ่งกล้ามโชว์กันหน่อย

ที่ผ่านมา ไต้หวัน ก็มิได้หลงระเริง หากแต่สร้างอาณาจักรให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย ทะยานขึ้นมา “เป็นเสือตัวหนึ่ง” ของเอเชีย รวมทั้งกองทัพที่แข็งแกร่ง
โดยมีอเมริกาหนุนหลัง

10 ตุลาคม 2564 นางไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้รับสัญญาณเตือนจาก สีจิ้นผิง เธอจึงออกแถลงการณ์ตอบโต้…

“…ไต้หวัน.. จะขอป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไม่มีใครมาสามารถบังคับให้ไต้หวันต้องยอมรับชะตากรรมที่จีนกำหนดให้ ซึ่งปราศจากทั้งเสรีภาพและประชาธิปไตย…”

ไม่ต้องแปลภาษาทางการทูตให้เสียเวลา…“กูไม่กลัวมึง”

ขอย้อนอดีตลึกๆ …เพื่อความเข้าใจสถานการณ์วันนี้ครับ

ตลอด 3 พันปีที่ผ่านมา…“แผ่นดินจีน” มีคนหลายร้อยล้าน โชกชุ่มไปด้วยศึกสงคราม มีหลายกลุ่มชาติพันธุ์ พูดกันคนละภาษา วัฒนธรรมต่างกัน ทุกกลุ่มแย่งชิงอำนาจ เพื่อต้องการเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ยกพวกห้ำหั่นกันแบบไม่ว่างเว้น

แต่ละเผ่าพันธุ์ มีอารยธรรมเป็นของตัวเอง มีองค์ความรู้ มีศิลปะวิทยาการโดดเด่น ชาวจีนสูบน้ำมันดิบจากใต้ดินมาใช้มานานนับพันปีแล้ว มีตัวอักษร มีการคำนวณ เดินเรือข้ามโลกไปถึงทวีปแอฟริกาก่อนใครในโลก

ยามสงบก็รบกันเอง บางโอกาสก็รวมตัวกันได้ แล้วก็ชิงไหวชิงพริบ หวาดระแวงกัน วรรณกรรม 3 ก๊กคือ ร่องรอยในประวัติศาสตร์

เมื่อครั้นแผ่นดิน “รวมกันได้” ก็จะมีผู้ทะเยอทะยานมาแบ่งแยกแล้วปกครอง เมื่อแตกแยกก็จะมี “คนดี” มารวมแผ่นดินให้

160 ปีที่แล้ว… ช่วงยุคล่าอาณานิคม…แผ่นดินจีนถูกขยี้ขยำ พระราชวังถูกเผาทำลาย ราชวงศ์ถูกโค่นล้ม …แผ่นดินจีนถูก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และอเมริกา “ฉีกแบ่ง” โดยมหาอำนาจเข้าไปปกครองในแต่ละพื้นที่ ทำเอาพญามังกรอ่อนแรง หมดสภาพ…

ชาวจีนมองภาพตนเองว่าเป็น “พญามังกรอันงามสง่า” หากแต่ศึกสงครามมิรู้จบทั้งภายใน ภายนอก ทำให้จีนกลายเป็น “มังกรป่วย” นานนับร้อยปี…

กำแพงเมืองจีนที่ยาวกว่า 2 หมื่นกว่ากิโลเมตร คือสิ่งบ่งชี้ความยิ่งใหญ่ ของพญามังกร ที่คิด ลงมือทำ แบบโลกต้องทึ่ง

สงคราม การกดขี่ต่อเนื่องนับร้อยปี… ทำให้ชาวจีนต้องหนีตาย

นับร้อยปีที่ผ่านมา ชาวจีนนับล้านลงเรือหนีไปตั้งไชน่าทาวน์ทั่วโลก

ในสังคมไทย… คุยกับคนโน้นคนนี้.. แทบทุกคนล้วนมีเชื้อสายจีนกันหมด มากบ้าง-น้อยบ้าง

ทำไมแยกเป็น 2 จีน?
ขอรวบรัดตัดตอน (แบบย่อๆ) ไปในช่วงสงครามกลางเมืองจีน (พ.ศ.2470-2493) เป็นสงครามระหว่างชาวจีนด้วยกันเอง…

สงครามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่ปกครองสาธารณรัฐจีน กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อแย่งชิงการปกครองประเทศจีน

ฝ่ายก๊กมินตั๋ง นำโดยเจียงไคเช็ค ฝ่ายคอมมิวนิสต์นำโดย เหมาเจ๋อตุง

สงครามกลางเมืองในจีนรบกันเองดำเนินไปต่อเนื่อง ยืดเยื้อ กระทั่งญี่ปุ่นบุกจีนครั้งที่ 2 พ.ศ.2480-2488 ทำให้จีน 2 ฝ่ายพักรบ…หันมาจับมือ กอดคอกัน ไปรบกับกองทัพลูกซามูไรผู้รุกราน

พ.ศ.2488 ญี่ปุ่นโดนปรมาณูจากสหรัฐมาหย่อนใส่ 2 ลูก แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องถอนกำลังจากจีน

เมื่อทำสงครามไล่ญี่ปุ่นเสร็จ…ก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตุง กลับมาทำสงครามกันต่อไปอีกราว 4 ปี

โซเวียต…ให้การสนับสนุนจีนคอมมิวนิสต์ของ เหมาเจ๋อตุง

อเมริกา คอยปกป้อง สนับสนุนฝ่ายก๊กมินตั๋ง …

ในสังคมไทย ผู้เขียนจำได้ว่า เราเรียกจีนไต้หวันว่า “จีนคณะชาติ”

พ.ศ.2469-2489 ช่วงที่เจียงไคเช็ค ปกครองประเทศจีน เขากุมอำนาจทางการเมืองในพรรคก๊กมินตั๋ง ได้เพียงผู้เดียวเบ็ดเสร็จ

ปัจจัยที่ทำให้ เหมาเจ๋อตุงนำประชาชนนับล้านออกมาทำ “สงครามประชาชน” เพื่อขับไล่ คือ เจียงไคเช็ค สนับสนุนให้เครือญาติ 4 ตระกูลมีอิทธิพล คือ เจียง-ซ่ง-ข่ง-เฉิน มีอำนาจอยู่ภายในพรรคก๊กมินตั๋ง มากอบโกยทุจริต เป็นเผด็จการสุดขั้ว ทำให้การบริหารแผ่นดินล้มเหลว

นำไปสู่ความพ่ายแพ้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในที่สุด

การเหลิงอำนาจของ 4 ตระกูลแซ่ และญาติพี่น้อง บริวาร ที่แสนจะตะกละ รัฐบาลของเจียงไคเช็ค แก้ปัญหาเศรษฐกิจในยามสงครามเพียงวิธีเดียวคือ พิมพ์ธนบัตรออกมาแบบไม่ยั้ง ยังผลให้เงินเฟ้อ

ช่วงที่เจียงไคเช็คและญาติพี่น้องปกครองประเทศ ถูกเรียกว่า “ยุคสยองสีขาว” (White Terror) ซึ่งเป็นช่วงครองอำนาจของพ่อ-ลูกตระกูลเจียง เจียงไคเช็คและเจียงจิงกว๋อ ประกาศใช้กฎอัยการศึกนานกว่า 38 ปี

พรรคก๊กมินตั๋งครองอำนาจในสาธารณรัฐจีนมายาวนาน ประชาชนจำนวนมากถูกกล่าวหาว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล จะถูกตัดสินว่า “ก่อการกบฏ” หรือฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ มีการกลั่นแกล้งอย่างเมามัน

เรื่องจริง ที่เล่าขานต่อกันมา คือ การนำขุมทรัพย์หนีจากแผ่นดินใหญ่ไปเกาะไต้หวัน

ในปี พ.ศ.2491 เจียงไคเช็ครู้ตัวดีว่าการต่อสู้ในระยะยาวคงไม่สามารถสู้กับคอมมิวนิสต์ เหมาเจ๋อตุง ได้…จึงเริ่มวางแผนการล่าถอยไปยังเกาะไต้หวัน ทองคำมหาศาลและสมบัติบรรทุกเครื่องบินจากแผ่นดินใหญ่

ของมีค่า แก้วแหวนเงินทอง โบราณวัตถุอายุนับพันปี สมบัติของจักรพรรดิ ของฮ่องเต้ ถูกบรรจุใส่ลังส่งไปไต้หวัน

โดยเฉพาะ “ทองคำ” นับพันตันที่ขนออกมาได้ ถึงไต้หวันถูกใช้เพื่อวางรากฐานสำหรับเศรษฐกิจและรัฐบาลของไต้หวันในเวลาต่อมา

ฉากสุดท้ายของ จอมพล เจียงไคเช็ค…

10 ธันวาคม 2492 เจียงไคเช็คและลูกชาย ชื่อเจียงจิงกว๋อ รับประทานอาการเช้า… “อาหารมื้อสุดท้าย” ในแผ่นดินจีน ทุกคนเคร่งขรึม แล้วมุ่งหน้าไปยังสนามบินทหารของเฉิงตู ขึ้นเครื่องบินไปเกาะไต้หวัน

ทหารและประชาชนราว 2 ล้านคน หนีไปถึงไต้หวัน ซึ่งก็มีคนบนเกาะอาศัยอยู่ไม่น้อย…มีความเจริญ มีรากฐานที่ญี่ปุ่นเคยสร้างไว้ให้…

ช่วงที่ญี่ปุ่นเคยปกครองไต้หวัน…ชาวไต้หวันยอมรับบทบาทของญี่ปุ่นในการพัฒนากำลังคน การศึกษา การปรับปรุงระบบชลประทานให้ทันสมัย การสร้างระบบรถไฟ และในการออกแบบและสร้างอาคารรัฐบาลที่สำคัญหลายแห่งของไต้หวัน

แต่ก็มีชาวไต้หวันจำนวนมาก…ไม่พอใจการปกครองของญี่ปุ่น

ชาวจีนบนเกาะไต้หวัน…ยอมรับว่าญี่ปุ่นเคยมาวางรากฐานให้ก่อนแล้ว กลายเป็นต้นทุนที่เข้มแข็ง เพียง6 เดือน จีนก๊กมินตั๋งก็สามารถเปิดตัวสกุลเงินของไต้หวัน ซึ่งญี่ปุ่นก็สนับสนุนไต้หวันในยามแพ้จีนคอมมิวนิสต์

กองกำลังของเหมาเจ๋อตุงก็มิได้รุกไล่ตามมา เพราะบอบช้ำไม่น้อย

ทุกลมหายใจของ จอมพล เจียงไคเช็ค คือ ต้องการนำกองทัพรุกขึ้นไปทำสงครามกับจีนแผ่นดินใหญ่

เจียงไคเช็คทราบดีว่า “อเมริกา” คือ ยาวิเศษที่จะบันดาลฝันของเขาให้เป็นจริง

ผู้นำจีนไต้หวันเคยแอบ “เจรจาลับ” เสนอตัวที่จะส่งกำลังทหารไปช่วยสหรัฐในสงครามเวียดนาม ทว่า…วอชิงตันปฏิเสธข้อเสนอ

บนแผ่นดินไต้หวัน เจียงไคเช็คจัดตั้งคณะกรรมการกลาง (เข้าใจง่ายๆ ว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ) ทุกคนสาบานว่าจะบรรลุเป้าหมายสูงสุดของพรรค นั่นคือ การกำจัดคอมมิวนิสต์และจะกลับไปฟื้นฟูแผ่นดินใหญ่ของจีน

ในเวลานั้น…จีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้การนำของ เหมาเจ๋อตุง ระบบเศรษฐกิจ แหลกเหลว พินาศ ประชาชนอดอยาก ยากจน ด้วยพิษสงคราม ใช้ระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์เต็มพิกัด

จีนแทบจะปิดประเทศ จนถูกเรียกว่าดินแดน “หลังม่านไม้ไผ่”

พ.ศ.2493 เจียงไคเช็คมุ่งมั่นสร้างการเมืองใหม่ในไต้หวัน สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้ประชาชน

ยุทธศาสตร์ชาติ คือ เน้นสร้างคนหนุ่มสาวที่กำลังมีไฟแรง

ผู้นำไต้หวัน รุ่นต่อมา สานฝัน พูดจริง ทำจริง ไต้หวันภายใต้การสนับสนุนของอเมริกา “ก้าวหน้าไม่หยุด”

ไต้หวันสร้างรากฐานการเมือง การปกครองแบบมีหลักการ ใช้ระบบประชาธิปไตย โตวัน โตคืน กลายเป็นประเทศร่ำรวย ล้ำหน้าทางการเกษตร เทคโนโลยี การศึกษา อุตสาหกรรม…ราวปาฏิหารย์

ผู้นำคนต่อมาของไต้หวัน ใช้เวลาราว 50 ปี…สร้างไต้หวันพุ่งขึ้น… กลายเป็น 1 ใน 4 เสือแห่งเอเชีย (Four Asian Tigers) เป็นคำที่ประเทศตะวันตกใช้อ้างถึงประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน …

ในช่วงปี พ.ศ.2488-2508 สหรัฐมอบเงินช่วยเหลือสินเชื่อ 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม ช่วยเหลือด้านอาหารและช่วยเหลือทางการทหาร ไต้หวันเป็นเกาะพื้นที่ขนาด 36,193 ตารางกิโลเมตร ประชากร 23.5 ล้านคน (พ.ศ.2564)

นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์กลุ่มหนึ่งมองว่า …สงครามกลางเมืองที่ก๊กมินตั๋งเพลี่ยงพล้ำ ต้องหนีข้ามทะเลไปเกาะไต้หวันยังเป็นเรื่อง “คาราคาซัง” ไม่มีการลงนามการสงบศึกหรือสนธิสัญญาสันติภาพใดๆ

จีนแผ่นดินใหญ่…จึงยังอ้างสิทธิเหนือไต้หวันเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของตน และยังขู่ใช้กำลังทหารต่อไต้หวันเสมอมา

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เศรษฐกิจไต้หวันเติบใหญ่อย่างรวดเร็ว กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว มีอุตสาหกรรมล้ำหน้า และมีเศรษฐกิจใหญ่โตเป็นอันดับที่ 19 ของโลก

จากสถิติกระทรวงแรงงานไต้หวัน ณ เดือนพฤศจิกายน 2563 มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในไต้หวันจำนวน 57,287 คน

จีนยังคงถือว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน และไต้หวันเองก็ยังมิได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นประเทศเอกราชมาจนบัดนี้

ผู้เขียนมีความเห็นเป็นการส่วนตัวว่า สีจิ้นผิง เป็นพญามังกรที่แสนฉลาด สุขุม นุ่ม ลึก และเด็ดขาด จะมี “วิธีการรวมชาติแบบสันติ”

คำว่า “รวมชาติอย่างสันติ” จะเป็น ท่วงท่า ลีลา ของพญามังกร สีจิ้นผิง ที่ไปอยู่บนจอเรดาร์ของทุกฝ่าย…

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image