ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
นับถอยหลังอีกไม่กี่วันจะดีเดย์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประกาศไว้
เป็นความหวังอีกครั้งของธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม บริษัททัวร์ ร้านอาหาร ไกด์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง หลังซบเซามากว่า 2 ปี ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายราย ที่สายป่านไม่พอต้องปิดชั่วคราว และอีกไม่น้อยต้องเลิกกิจการไปเลย ทำให้พนักงาน ลูกจ้าง ต้องว่างงานจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ ที่มีทีท่าว่าจะเปิดประเทศอยู่หลายครั้ง เมื่อตอนที่ยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลงไปมาก แต่พอใกล้วันก็มีเหตุให้กลับมาระบาดหนักอีกรอบ ทำให้ผู้ประกอบการรอเก้อ ต้องปิดกิจการต่อไปอีก
ดังนั้น เมื่อจะเปิดประเทศอีกครั้งในคราวนี้ จึงทำให้หลายคนหวั่นๆ ว่าจะซ้ำรอยเก่า ต้องกินแห้วอีกไหม
แต่หวังว่าครั้งนี้ “บิ๊กตู่” คงไม่น่าจะถอยอีก ด้วยเพราะครานี้ต่างจากคราวก่อน เนื่องจากยอดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมีมากขึ้นในหลายพื้นที่
อีกทั้ง มีการเรียนรู้ที่จะรับมือกับโควิดได้ดีขึ้น ทั้งด้านสาธารณสุข และประชาชนทั่วประเทศที่ตระหนักมากขึ้น ไม่ต้องรอจนไร้ป่วยและไม่มีผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ปรับตัวที่จะอยู่กับโควิดให้ได้ โดยให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เพื่อเปิดทางให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้มากขึ้น
รัฐบาลวางแผนรองรับการเปิดประเทศด้วย 5 กลยุทธ์ คือ 1.การเปิดประเทศอย่างปลอดภัย 2.การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยง/ สถานที่เสี่ยง/กลุ่มเปราะบาง 3.การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ และสาธารณสุข 4.การพัฒนาระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารความเสี่ยง และ 5.การสร้างกลไกการบริหารจัดการแบบบูรณาการ
อย่างไรก็ตาม เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะเปิดประเทศ แต่กระบวนการต่างๆ ไม่รู้ว่าพร้อมแค่ไหน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย จากเดิมใช้ซีโออี หรือ Certificate of Entry จะเปลี่ยนไปใช้ Thailand Pass ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังพิจารณาอยู่ว่าจะมีเกณฑ์และใช้เอกสารหลักฐานอะไรบ้าง
คร่าวๆ คือ เอกสารและข้อมูลที่คนต่างชาติใช้ประกอบการยื่นคำร้อง คือ 1.ข้อมูลส่วนบุคคลตามแบบฟอร์ม ต.8 และ ตม.6 และสำเนาหนังสือเดินทาง 2.เอกสารรับรองการได้รับวัคซีน
ดังนั้นเกณฑ์ Thailand Pass ต้องรีบสรุปโดยเร็ว และรีบประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติรับรู้
นอกจากนี้ ยังต้องมีเรื่องเกณฑ์การปฏิบัติของสายการบินเรื่องระบบการจองที่พัก เรื่องการตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ และขั้นตอนต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสอดคล้องกัน ไม่ให้สะดุด
ส่วนภาคเอกชน ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม เพียงแต่ยังรออยู่ว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือ Standard Operating Procedure : SOP ที่ภาครัฐจะออกมาเป็นคู่มือมาว่าแต่ละธุรกิจจะต้องปฏิบัติตัวกันอย่างไรบ้าง
นั่นเป็นความพร้อมของเอกชนที่ยังอยู่รอดปลอดภัยจากวิกฤตที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้จะเหลืออยู่กี่ราย ที่พร้อมจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง เพราะล้มหายกันไปหลายรายโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
แต่ผู้ประกอบการหลายรายที่พร้อมจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีทุนรอนพอ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯก็คุยกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาซอฟต์โลน 8 พันล้านบาท มาช่วย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ ขณะที่กองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ยังไม่คืบหน้าว่าจะคลอดเมื่อไร
ดังนั้น เมื่อรัฐบาลจะเปิดประเทศ จึงจำเป็นต้องอัดฉีดเงินให้ธุรกิจท่องเที่ยว ที่ง่อยเปลี้ยอยู่ให้กลับมามีกำลังเตรียมพร้อมเปิดกิจการอีกรอบ เพื่อช่วยดึงเงินเข้าประเทศมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน และกระจายลงไปในท้องถิ่น จะทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติสุขมากขึ้น
วุฒิ สรา