นับถอยหลังจากวันนี้ 29 ตุลาคม ถึงวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 รวม 30 วันพอดี รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน คือวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ทั่วประเทศซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนในการสมัครรับเลือกตั้งเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างหาเสียงในวันเวลาไม่เกิน 18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564
จำนวนผู้สมัครทั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 123,941 คน ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 12,309 คน มากเสียจนน่าจะจำกันไม่หวาดไหว แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1 เสียง เลือกได้เท่ากับจำนวนที่กำหนดของแต่ละตำบล และเลือกนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 1 เสียง เลือกได้เพียงคนเดียว
ตรงนี้ต้องจำกันให้ดีว่าบัตรใบไหนเลือกสมาชิก บัตรใบไหนเลือกนายก กาผิดบัตรจะเป็นบัตรเสีย
ทั้งสองบัตรน่าจะสีไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่นอน คือการเขียนแจ้งไว้ว่า บัตรใบใดเป็นบัตรสำหรับกาให้สมาชิกสภา บัตรใบใดสำหรับกาให้นายก
ผู้สมัครองค์การบริหารส่วนตำบลมากที่สุด คือ นครราชสีมา สมัครนายก 554 คน สมาชิกสภารวม 6,779 คน น้อยที่สุด คือ ภูเก็ต นายก 17 คน สมัครสมาชิก 104 คน
การเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล แต่ละตำบลมีทั้งผู้ลงสมัครเป็นทีมหรือเป็นคณะ อาจจะลงคะแนนเป็นคณะเท่าจำนวนที่แจ้งไว้ บางคณะอาจลงสมัครไม่ครบ ผู้เลือกมีสิทธิเลือกผู้อื่น หรือจากคณะอื่นเพิ่มให้ได้เต็มตามจำนวน หรืออาจเลือกไม่เต็มตามจำนวนก็ได้ แต่เลือกเกินไม่ได้ จะทำให้เป็นบัตรเสีย
ดังนั้น จำไว้ให้แม่นว่าตำบลที่ตัวเองมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเลือกได้กี่คน จะผสมปนเปกันอย่างไรก็ได้ ให้เท่ากับจำนวนกำหนด หรือน้อยกว่า ห้ามเกินเด็ดขาด !!!
ส่วนบัตรที่เลือกนายก “กา” ได้เพียงเบอร์เดียว หากกาลงช่อง “ไม่เลือก” บัตรนั้นไม่มีคะแนนให้ใคร แต่ไม่เป็นบัตรเสีย แต่หากไม่กาช่องไหน หรือกาช่องที่ไม่มีเบอร์ บัตรนั้นเป็นบัตรเสีย
30 วันจากนี้ ถึงเวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน คือกำหนดการหาเสียงของทั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอาจหาเสียงให้ทั้งตัวเอง และกลุ่มสมาชิกที่เป็นทีมเดียวกัน หรืออาจหาเสียงเฉพาะตัวคนเดียว เพื่อเข้าไปเป็นนายก ส่วนสมาชิกสภาอาจไปหาพรรคพวกสมาชิกในองค์การ เช่นเดียวกับสมาชิกสภาอาจหาเสียงให้เลือกนายกคนนั้นคนนี้ที่เป็นคณะ เป็นทีม เป็นพวกเดียวกัน ทำนองเลือกทั้งสมาชิกสภาและนายกเข้าไปทำหน้าที่เป็น “ทีม” เพื่อง่ายแก่การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลนั้น
หรือเกรงว่าผู้บริหารคือนายกจะทำงานในลักษณะพวกเดียวกัน ว่าอะไรว่าตามกัน ก็อาจเลือกสมาชิกอีกพวกหนึ่งไปเป็นฝ่ายค้าน อย่างนี้อาจทำให้การบริหารงานขององค์การไม่คล่องตัวเท่าที่ควร แต่ทำให้เกิดมีฝ่ายค้านในองค์การ จะทำอะไรมีผู้ตรวจสอบแทนผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง คือประชาชนในตำบลนั้น อาทิ การทุจริต เป็นต้น
ว่าไปแล้ว การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล คือการซ้อมใหญ่เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั่นเอง แต่การเลือกนายกไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นการเลือกตั้งโดยตรง
ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีต้องได้รับการเสนอชื่อของพรรคการเมือง
ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคไหนหรือกลุ่มไหนได้สมาชิกเสียงข้างมาก มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรี
เถอะ… อย่าเพิ่งคิดเลยเถิดไปถึงตรงนั้น แม้การเลือกตั้งส่วนตำบลจะคล้ายการเลือกตั้งระดับประเทศ
เอาไว้ให้ถึงเวลาก่อน ค่อยพิจารณาดีไหม
วันนี้พิจารณาว่าใครที่สร้างประโยชน์ให้เราถึงเวลาประกาศผลจะได้รู้ว่าเลือกถูกหรือผิดดีไหมจ๊ะ
เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์
