ด่านหินนายกฯ โดย จำลอง ดอกปิก

แฟ้มภาพ

กติกาโหวตเลือกนายกฯ ชัดเจนเป็นลำดับ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เจตนารมณ์คำถามพ่วง ยื่นกุญแจ ส.ว. 250 คน เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ก๊อกแรก

มีอำนาจฉีกบัญชีพรรคการเมือง จับมือ ส.ส. ขอยกเว้น เปิดทางใช้บริการคนนอก

กฎหมายหลัก กฎหมายลูกฉบับต่างๆ ของไทย ส่วนใหญ่ยึดต่างชาติเป็นต้นแบบ แต่ก็มักหยิบมาใช้บางส่วน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ มาทั้งชุด

อ้างไม่พร้อมบ้าง หรือเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ บ้าง สุดแท้แต่จะสรรหาเหตุผลมาโฆษณาชวนเชื่อ

Advertisement

อย่างเรื่องที่มานายกฯ เป็นความล้าหลังของบ้านอื่นเมืองอื่น แต่กลับเป็นความก้าวหน้าของไทย ที่รื้อฟื้นนำมาใช้อีกครั้ง

ของเมืองนอกเมืองนาอื่นๆ ที่ไทยอยากโชว์ความมีระดับ แต่หลงลืมบางอย่าง ยังมีเรื่องอื่น อาทิ การดีเบต ที่มีการนำเสนอแนวคิด เขียนกฎหมายลูก บังคับว่าที่ผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกฯขึ้นเวที

แต่มีผู้ทักท้วง เขียนบังคับไม่ถูกต้อง น่าจะให้เป็นเรื่องความสมัครใจมากกว่า

Advertisement

พร้อมตั้งคำถาม โยนข้อควรพิจารณากลับไป กติกาพิลึกพิลั่นไม่เหมือนใคร เปิดกว้างคนนอก ที่มิได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ด้วย

หน้าตาการดีเบตแบบไทยๆ ที่ผลสุดท้ายคนซิวเก้าอี้นายกฯ อาจมิใช่ผู้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ แต่กลับเป็นคนนอก เสือซุ่ม

การจัดดีเบต จะยังผลดี มาก-น้อยประการใด เมื่อการแข่งขันไม่เท่าเทียม

ความจริงการจัดดีเบต เป็นเรื่องดี มีประโยชน์ ประชาชนนำเอาการอภิปราย ถกเถียง โต้แย้งต่างๆ มาใช้พิจารณาประกอบตัดสินใจเลือกนายกฯ-เลือกพรรคการเมืองได้

แต่การจัดดีเบตจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีกติกามาตรฐาน นายกรัฐมนตรีต้องผ่านด่านคัดกรอง มาจากความเห็นชอบของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง

ไม่ใช่กติกา แบบครึ่งๆ กลางๆ มีอภิสิทธิ์เหนือคนทั่วไป เข้ามาช่องทางไหนก็ได้

อย่างนั้นการดีเบตไปอาจไร้ค่า

การจัดโต้วาทีอย่างที่สหรัฐอเมริกาทำ ในการแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว ที่ไทยคิดใช้เป็นแบบอย่าง มีเสียงเรียกร้องจากสังคมมานาน

แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นได้จริงแม้ในยามบ้านเมืองเป็นปกติ รัฐธรรมนูญบัญญัติให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง หรือก็คือต้องเป็น ส.ส.

ทั้งที่อันที่จริงดีงามเป็นอย่างยิ่ง

การขึ้นเวทีดีเบต เป็นความหาญกล้าอย่างหนึ่ง เป็นก้าวที่กล้าต่อจากการเสนอตัวต่อประชาชน ลงเลือกตั้ง ส.ส.

โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน พ่ายให้กับ ฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครต ในการดีเบตยกแรก ของศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีการเลือกตั้ง 8 พฤศจิกายน

แต่นั่นก็เป็นวิถีการเมืองปกติ

ผู้เขียนชื่นชอบ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในบางแง่มุม

เขาเป็นเป็นพลเรือน แต่กล้าหาญ

กล้านำเครื่องหมายการค้า “สุดโต่ง” ของตัวเอง ลงแข่งขันกระทั่งได้รับเลือกเป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน มั่นใจในตัวเองเป็นที่ยิ่ง นำความอหังการ คำพูดรุนแรง ของตัวเองขึ้นโชว์เวที ท้าวัดใจพลเมืองอเมริกัน ผู้มีคุณสมบัติความสุดฤทธิ์สุดเดช

แบบนี้ จะเลือกมาเป็นประธานาธิบดีหรือไม่

คนนอก-คนในหลายคน แอบฝันถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

แต่ไม่กล้าลงเลือกตั้ง เหมือน “โดนัลด์ ทรัมป์”

ชอบแต่ปรากฏตัว ในหมู่คนนิยมชมชอบตัวเอง ทั้งที่มีประชาชนอีกมากที่อาจไม่หลงใหล ได้ปลื้ม

ต่างจาก “ทรัมป์” ที่พร้อมเผชิญหน้า

กล้านำเสนอแนวคิด นโยบายต่างประเทศสุดโต่ง มาโน้มน้าวชาวอเมริกันให้เลือกเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

แท้จริงแล้ว ชัยชนะอันยิ่งใหญ่

มิได้วัดเฉพาะในถิ่นดินแดนตัวเองเท่านั้น

หากแต่คือการขยายพื้นที่ เข้าไปเกาะกุมหัวใจฝ่ายตรงกันข้าม ให้เห็นคล้อยตาม

ลงคะแนนให้

นี่ต่างหากเป็นชัยชนะอย่างเป็นการทั่วไป ยิ่งใหญ่ และชอบธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image