เอดส์ 2021…

ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ค้นพบด้วยนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ที่ก่อกำเนิดในโลกของเรามาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในวันเวลาดังกล่าวของโรคเอดส์ได้มีมิติหรือบริบทต่างๆ ไว้ให้กับสังคมของทุกๆ ประเทศในโลกในการต่อสู้เพื่อที่จะเอาชนะจากโรคดังกล่าวให้ได้ การคิดค้นหาวัคซีน ยารักษาเอดส์ การป้องกันการระบาด การดูแลรักษาด้วยทั้งการแพทย์สมัยใหม่ การแพทย์องค์รวม การแพทย์พื้นบ้าน รวมถึงการดูแลรักษาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ประเพณีวัฒนธรรม ศาสนาและความเชื่อต่างๆ

ผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือผู้ติดเชื้อ HIV ที่มาจาก Human Immunodeficiency Virus ที่เชื้อไวรัสได้เข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค ให้ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยด้วยโรคชนิดต่างๆ ในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) การพบโรคดังกล่าวเชื่อว่ามาจากประเทศแอฟริกาตะวันตกในปี พ.ศ.2503 แล้วมีการแพร่กระจายไปในทวีปต่างๆ อเมริกา ยุโรป เอเชีย สำหรับเมืองไทยเราได้มีการพบผู้ป่วยเอดส์รายแรกเป็นผู้ชายอายุ 28 ปีมีพฤติกรรมรักร่วมเพศที่ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกา และได้เดินทางกลับเมืองไทยในปี พ.ศ.2527

การมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยรายแรกในปี พ.ศ.2527 หรือเมื่อ 37 ปีที่ผ่านมาแล้ว ในช่วงแรกๆ ของการระบาดและการมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ ครอบครัว ชุมชนในสังคมไทยยังไม่มีความพร้อม หรือองค์ความรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์อย่างถูกวิธี การปฏิเสธ รังเกียจ กลัวการผลักผู้ป่วยออกจากครอบครัว ชุมชน เป็นมิติในความเชื่อ วัฒนธรรม ศาสนา สังคมไทยที่เคยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอย่างมีความสุขและสงบร่มเย็น…

บุคลาการทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพในขณะนั้นก็ยังไม่มีความพร้อม ก็มีการกลัวและอุบัติเหตุทางการแพทย์กลายเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ โรงพยาบาลไม่มีเตียงรองรับอย่างเพียงพอ งบประมาณของภาครัฐ และการบริหารงานทั้งระบบยังคงพบทั้งปัญหาและอุปสรรคที่อยู่ในข้อเท็จจริง เมื่อวันเวลาผ่านไปสังคมไทยเราได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่บริหารจัดการปัญหาเอดส์ที่ได้รับคำชมเชยจากนานาชาติทั้งการแพทย์แผนปัจจุบัน การบูรณาการทั้งภาครัฐ เอกชน ศาสนา ชุมชน จนกระทั่งในปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์มิได้มีตัวเลขที่มากนักหากเทียบกับบางประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลทุกๆ รัฐบาลก็มีนโยบายที่ให้การช่วยเหลือเรื่องยาต้านไวรัสและเงินสนับสนุนเลี้ยงชีพรายเดือนให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนดังกล่าว

Advertisement

ตัวเลขของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ในระดับโลกจากการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องเอดส์ปี พ.ศ.2564 ที่เมืองนิวยอร์ก ได้มีมติรับรองปฏิญญาทางการเมืองฉบับใหม่เพื่อให้โลกได้ยุติปัญหาเอดส์ในปี พ.ศ.2573 หรืออีกเก้าปีข้างหน้า ตัวเลขของผู้ป่วยเอดส์ที่เสียชีวิตสูงสุดในปี พ.ศ.2547 ในจำนวน 1.7 ล้านคน การระบาดของผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 40 ปี พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 37.7 ล้านราย เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ไปกว่า 36 ล้านราย ในปี พ.ศ.2563 พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกในตัวเลข 26 ล้านคน สำหรับความคืบหน้าของการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสเอชไอวี ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยในเฟสที่ 3 (workpointtoday.com)

ข้อมูลหนึ่งจากนายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่ว่า สังคมไทยเราได้ดำเนินตามปฏิญญาทางการเมืองที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี พ.ศ.2573 หรืออีก 9 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายก็คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ไม่เกินปีละ 1,000 คน/ปี ลดการเสียชีวิตจากการป่วยด้วยโรคเอดส์ไม่เกิน 4,000 คน/ปี ลดการรังเกียจ ตีตรา เลือกการปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้ได้ร้อยละเก้าสิบ โดยในปี พ.ศ.2563 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 4,855 ราย เสียชีวิตจำนวน 11,882 คน…

ตัวเลขของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ในสังคมไทยเรา ตั้งแต่ พ.ศ.2527-2563 ในวันเวลา 36 ปี มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 462,376 คน ในจำนวนนี้ผู้ติดเชื้อที่รู้สถานะของตนเองร้อยละ 94.3 อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ร้อยละ 83.5 ในจำนวนนี้อยู่ในภาวะแห่งการกดไวรัสหรือควบคุมไวรัสได้สำเร็จ ร้อยละ 97.2 เราท่านจะเห็นถึงข้อมูลและแนวทางแห่งการปฏิบัติงานในการควบคุมโรคเอดส์ของเมืองไทยเราที่ประสบผลอยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

ขณะเดียวกันภาครัฐได้สนับสนุนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เข้าถึง ชุดตรวจคัดกรองที่ผ่านมาตรฐานจาก อย. ตรวจหาเชื้อเอชไอวีจากการเจาะเลือดปลายนิ้วมือ รู้ผลภายใน 1 นาที และชุดตรวจโดยใช้น้ำลาย อ่านผลภายใน 20 นาที โดยมีวางจำหน่ายที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันอยู่ทั่วประเทศ ชุดตรวจดังกล่าวจักมีการใช้ในกลุ่มของชายรักชาย หญิงข้ามเพศ ผู้ขายบริการทางเพศ ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น หรือมีพฤติกรรมอื่นที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี…

พฤติการณ์แห่งการรับเชื้อไวรัสเอชไอวีที่มีมาจากความหลายหลากแห่งบริบท สิ่งหนึ่งที่ถูกตั้งคำถามและต้องการคำตอบก็คือ การซื้อขายบริการทางเพศในสังคมไทยเราที่มีความหลากหลายท่ามกลางของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สถานบันเทิงในยามค่ำคืน สถานบริการทางเพศ บาร์ คาราโอเกะ เธค ผับ เด็กชงเหล้าเอนเตอร์เทน อาบอบนวด ร้านเสริมสวย นวดแผนโบราณถูกปิดด้วยกฎหมายและข้อระเบียบเพื่อป้องกันการมั่วสุมแห่งการระบาด เขาเหล่านั้นที่หาเลี้ยงชีพด้วยภาวะดังกล่าวทั้งสุจริตและภาวะแห่งสีดำเทาของอาชีพ หลายคนต้องตกงาน หันไปสู่การขายบริการทางเพศในรูปแบบใหม่ เพื่อนเที่ยว การนัดหมายกันในโลกของสังคมออนไลน์ หรือกรณีเด็กนักเรียน ม.ปลายที่ไปใช้บริการฝังยาคุมกำเนิดฟรีในโครงการของรัฐบาล การมีเพศสัมพันธ์ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเขาเหล่านั้น รวมถึงสถานที่บางแห่งเป็นที่รับรู้กันที่เป็นการเฉพาะของนักเที่ยวบริการทางเพศยังคงมีอยู่ในข้อเท็จจริงของสังคมไทยเรา…

อดีตกาลไม่นานมานัก ข่าวหรือข้อมูลในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2536 ดิกชันนารีลองแมน ฉบับภาษาอังกฤษและวัฒนธรรม มีการกล่าวถึงภาพลักษณ์ของเมืองไทยเราก็คือ “เป็นเมืองหลวงแห่งโสเภณีโลก” และในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 สื่อประเทศอังกฤษ “มิเรอร์” ได้รายงานถึงเมืองพัทยาว่าเป็น “นครหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก” มีโสเภณีมากถึง 27,000 คน…(มติชนรายวัน 14 พ.ย.2564 หน้า 10)

สุขภาพร่างกาย จิตใจ สังคมของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ในยุคปัจจุบันเขาเหล่านั้นสามารถใช้ชีวิตได้เช่นเดียวกับผู้คนปกติในสังคม บางคนมีร่างกายแข็งแรง มิได้บ่งบอกว่าเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ สามารถประกอบหน้าที่การงานปกติได้ หลากหลายสถานประกอบการก็รับเขาเหล่านั้นเข้าทำงาน มีรายได้เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหลายคนเป็นคนดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม อีกมุมหนึ่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวี หลายคนออกจากคุกเรือนจำจากการต้องโทษ กลับเข้าสู่สังคมยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ก่อคดีความอาญาต่างๆ คำถามหนึ่งก็คือ มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าภาพเพื่อให้คุณภาพชีวิตเขาเหล่านั้นเป็นคนดีของสังคม…

ข้อเท็จจริงหนึ่งทั้งของสังคมไทยเราและสังคมโลกทุกวันนี้ หากใครคนใดคนหนึ่งกลายเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือกลายเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เขาเหล่านั้นย่อมทราบถึงการบริการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยชีวิตเขาให้รอดด้วยยาต้านไวรัสได้ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ใช้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ถือว่าเป็นยาหลักในการรักษาโรคดังกล่าวที่ช่วยลดจำนวนไวรัสและยับยั้งการกลายพันธุ์ที่ได้ผลดี ขณะเดียวกันตัวยาดังกล่าวก็มีข้อพิจารณาในการใช้อาทิ ปอดอักเสบรุนแรง ตับ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ หลอดเลือด หลอดเลือดสมอง เบาหวาน อ้วนหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง…

ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ในสมัยของโควิด-19 ใน ค.ศ.2021 ยังคงมีทั้งคำถามที่ต้องการคำตอบทั้งจากหน่วยงาน องค์กรในระดับโลก บุคคลผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ สาขาที่เกี่ยวข้องบริการจัดการการระบาดของโรคที่ทำให้สังคมเกิดภาวะวิกฤตทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจการค้าขาย ท่องเที่ยว สังคม ประเพณีวัฒนธรรม ศาสนา อาจจักรวมไปถึงภาวะแห่งการเมืองในระบบประชาธิปไตย รัฐบาลของแต่ละประเทศจักบริหารกิจการบ้านเมืองไปได้อย่างตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร

คำขวัญ หรือ Theme ในการรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก (World AIDS Day) 1 ธันวาคม ของทุกปี มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 ที่ว่า “เอดส์ป้องกันได้ หากร่วมใจกันทั่วโลก” มาจนกระทั่งถึงปีนี้ (พ.ศ.2564) มีคำขวัญที่ว่า “ยุติความเหลื่อมล้ำ ยุติการระบาดและ ยุติเอดส์” คำและความหมายดังกล่าวได้ส่งผ่านไปยังผู้นำประเทศ หน่วยงาน องค์กร บุคลากรที่ทำงานในด้านดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องมามากกว่าสามสิบสามปี คำและความหมายดังกล่าวได้มีการนำไปสู่ผลแห่งการปฏิบัติที่จะยุติเอดส์ให้ได้ผลดีแค่ไหนอย่างไรหรือไม่…

การป่วยเป็นโรคเอดส์ หรือการป่วยเป็นโรคโควิด-19 ต่างก็มีเหตุอันเนื่องมาจากร่างกายขาดภูมิคุ้มกันที่บกพร่องของชีวิต การใช้ชีวิตที่ประมาทขาดการวิเคราะห์ไตร่ตรองถึงชีวิตที่ควรมีมาตรฐานที่ดี ความตายและการตายทั้งของโรคดังกล่าวและเหตุอื่นที่มีจำนวนอย่างมีนัยสำคัญในชีวิตของประชาชนที่คู่ควรจะตายเมื่อเป็นผู้สูงอายุแก่ชราหมดอายุขัยตายไป กับการตายด้วยความเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดที่มิอาจจักควบคุมได้ยังคงมีอยู่ทั้งในสังคมไทยเราและสังคมโลก เราท่านจักรอดชีวิตในยุคนี้ไปได้อย่างไร…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image