ที่มา | คอลัมน์ สยามประเทศไทย มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
ดื่มไดอะล็อก โดย ใบพัด นบน้อม หนังสือมีไดอะล็อกอร่อยๆ ให้ดื่มอีกเกี่ยวกับพระสงฆ์ ด้วยคำถามว่า ถ้าเอาธรรมะออกจากวัด แล้วบทบาทพระจะเหลืออะไรนอกจากการเป็นผู้คอยทำพิธีกรรม เอาเข้าจริงๆ พระยังจำเป็นอยู่ไหมสำหรับสังคมสมัยใหม่?
วิจักขณ์ พานิช ตอบว่า “ในสังคมประชาธิปไตย การปกครองแบบรัฐฆราวาสที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนหรือปุถุชน พระจำเป็นต้องจำกัดอำนาจและสถานะทางสังคมให้มีขอบเขต ไม่อย่างนั้นอำนาจทางศาสนาจะถูกหยิบยืมไปใช้สร้างความชอบธรรมเพื่อให้คนบางคนอยู่สูงกว่าคนอื่น มีเสียงดังกว่าคนอื่น”
“ถ้าเราลดจำนวนวัดลงสักหน่อย แล้วเปลี่ยนวัดให้เป็นสวนป่า สวนสาธารณะ ลดความฟู่ฟ่าอะไรต่อมิอะไรลงไปบ้าง ผมว่าเป็นเรื่องดี” วิจักขณ์ บอกว่าวัดในไทยควรปรับตัวแล้วให้เหลือน้อยลงสักหน่อย
“วัดและพระสมัยนี้เสียงดังเกินไป ไม่เห็นคุณค่าของความวิเวกและความสันโดษ แล้วผมก็นึกไม่ออกว่าคุณค่าทางจิตวิญญาณมันจะเติบโตยังไงในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดังขนาดนั้น”
“ที่น่ากลัวที่สุดคือการหลงตัวว่าถ้าตัวเองเป็นพุทธ ตัวเองมีธรรมะ จะเสียงดังกว่าคนอื่น”
งานด้านศาสนา, จิตวิญญาณ, เยียวยา, ทำภาวนา ใครๆ ก็ทำได้หมดไม่ว่าจะเป็น พระ, ฆราวาส, ผู้หญิง, เกย์, ผู้ชาย ทั้งในวัดนอกวัด วิจักขณ์ชี้ว่า
“ดีเสียอีก เราจะได้มีพระที่เป็นคนธรรมดาๆ มากขึ้น เสียงไม่ดังกว่าคนอื่น ไม่มีอำนาจ ไม่มีเงินบริจาคมากมายจนเกินพอดี และทุกอย่างจะถูกมองเป็นงานที่ถูกตรวจสอบจากสาธารณะได้ทั้งหมด อะไรหลายๆ อย่างมันคงกลับมาอยู่ในครรลองคลองธรรมมากกว่าที่เป็น”
ผมอ่านข้อความ “วัดและพระสมัยนี้เสียงดังเกินไป” แล้วหลายครั้งจนเกือบบรรลุธรรม โชคดีที่ยังมีหงุดหงิดติดแน่นเลยไม่บรรลุ