| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
| เผยแพร่ |
การปรากฏขึ้นของข่าว “เช่าเหมาลำ” เครื่องบินของการบินไทยมูลค่า 20 ล้านบาท ของคณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคม
ซ้ำรอยข่าว “แม่ผ่องพรรณ”
ซ้ำรอยตรงที่เกิดขึ้นในกระทรวงกลาโหม ซ้ำรอยตรงที่ปะทุผ่าน “โซเชียล ออนไลน์” แล้วจึงค่อยแพร่ระบาดออกในช่องทาง “หนังสือพิมพ์”
ซ้ำรอยตรงที่มาจาก “คนใน”
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นบทบาทและความหมายของ “สื่อกระจก” ที่เริ่มแสดงตัวและดำรงอยู่ในจุดที่มีความเหนือกว่า “สื่อกระดาษ”
ดำเนินสถานะแห่งความเป็น “กองหน้า”
ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นถึงพังเพยไทยแต่โบราณที่ว่า “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” ความอื้อฉาวในทางสังคม ในทางการเมือง มีจุดเริ่มเล็กๆ มาจาก “ภายใน” อย่างเป็นด้านหลัก
หากไม่มีการปะทุจาก “ภายใน” จะลามไหม้ถึง “ภายนอก” ได้อย่างไร
แม้ในที่สุด โดยกระบวนการของทางราชการ กรณีการเช่าเหมาลำเครื่องบินของการบินไทยก็มิได้เป็นการทำความผิด แต่ความรู้สึกในทางสังคมก็คือ
“ความเหมาะสม”
กรณีการเดินทางเข้าร่วมประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เอเชีย กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่กรุงฮอนโนลูลู มลรัฐฮาวาย
มิได้เป็นเรื่อง “ความลับ”
คำถามก็คือ เหตุใดการเคลื่อนไหวนี้จึงมิได้ปรากฏผ่านสื่อประเภท “หนังสือพิมพ์” หากอึกทึกครึกโครมมาจาก “โซเชียล มีเดีย” อันเป็นสื่อประเภท “ออนไลน์”
คำตอบเบื้องต้นเพราะว่าสื่อ “หนังสือพิมพ์” ต้องระมัดระวัง รอบคอบ รัดกุม
กระนั้น สิ่งที่ “สื่อกระจก” นำเสนอก็มิได้เริ่มต้นจากกระบวนการ “ข่าวลือ” ตรงกันข้าม กลับเป็นการอ้างอิงเอกสารจากเว็บไซต์สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.)
ตัวเลข 20,953,800 บาท ก็มาจากนี้
กระบวนการเช่าเหมาลำผ่าน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็เป็นเรื่องที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง ถึงกับระบุผู้ร่วมคณะเดินทางจำนวนหนึ่ง
นั่นก็คือ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม
นั่นก็คือ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม
นอกจากนั้น ยังระบุเอาไว้ในเอกสารด้วยว่า รวมถึง “ผู้สื่อข่าวและช่างภาพ” จะเป็นจากสำนักใดอีกไม่นานคงมีการเปิดเผยออกมา
เหล่านี้ล้วนกระหึ่มมาจาก “คนใน”
หากนำเอากรณีของ “แม่ผ่องพรรณ” มาประสานเข้ากับกรณีของ “ฮอนโนลูลู ฮาวาย” ก็จะประจักษ์ในสายพานของข่าวอย่างเด่นชัด
นั่นก็คือ เป็นเรื่องประเภท “เกลือเป็นหนอน”
เริ่มจากความขัดแย้งภายในกระทรวงกลาโหม ภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แล้วจึงนำเอาข่าวและภาพทั้งหมดออกมาเผยแพร่
ภาพของ “แม่ผ่องพรรณ” ในอากัปกิริยาแปลกๆ ก็มาจากคนรอบข้าง
ภาพที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์มากด้วยสีสัน ในบรรยากาศ “อโลฮา” เต็มเปี่ยม ก็มาจากคนรอบข้าง
เผลอๆ ก็หยิบฉวยจาก “ทีมงานโฆษก”
เบื้องต้นอาจมองว่าเป็นเรื่องดี สมควรเผยแพร่ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง จึงอัดรูปออกมาอย่างคึกคัก ช็อตต่อช็อต ภาพต่อภาพ
แย้มยิ้ม โอภา
แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับการเช่าเหมาลำในกระสวนเดียวกันนี้กับคณะของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นที่นครนิวยอร์ก ไม่ว่าจะเป็นที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ย่อมสร้างความรู้สึกตะลึงตึงในหมู่คนอย่างคึกคัก
จึงเปรี้ยงและตูมตามหน้าสื่อ “ออนไลน์”
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบ เพราะตรวจสอบแล้วก็ลงเอยที่ 9 ต่อ 0
ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกรณี ทีจี 200 ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกรณี รถถัง ยูเครน ทุกอย่างดำเนินไปเหมือน กรณีอุทยานราชภักดิ์ ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกรณี “แม่ผ่องพรรณ”
แต่ถามว่า “เหมาะสม” หรือไม่ ชาวบ้านมี “คำตอบ”
