การหาเสียงเลือกตั้งในสหรัฐ โดย วีรพงษ์ รามางกูร

ทุก 4 ปี กล่าวคือปีคริสต์ศักราชที่หารด้วยเลข 4 ลงตัวเช่นปีนี้ ค.ศ.2016 หารด้วย 4 ลงตัว ก็จะเป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 8 พฤศจิกายน แล้วผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งก็จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป รัฐธรรมนูญอเมริกันกำหนดตายตัวไว้เช่นนั้น ตั้งแต่วันก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา

ด้วยเหตุที่รัฐธรรมนูญกำหนดวันเลือกตั้งและวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไว้ตายตัวเช่นนี้ ก็ทำให้พรรคการเมืองที่จะส่งตัวแทนของตนเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสามารถดำเนินการคัดเลือก สรรหาได้อย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน ไม่เหมือนกับประเทศที่มีระบบการปกครองแบบรัฐสภาที่อังกฤษเป็นต้นแบบ ที่สภาผู้แทนราษฎรมีอายุไม่แน่นอน แม้ว่าจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี แต่สภาผู้แทนราษฎรอาจจะถูกรัฐบาลยุบเสียเมื่อไหร่ก็ได้ ตามหลักการคานอำนาจกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับรัฐบาล

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจึงเป็นที่สนใจ ที่จะติดตาม ไม่แต่เฉพาะคนอเมริกันหรือคนในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่เป็นที่สนใจติดตามวิเคราะห์และพยากรณ์ไปทั่วโลก เพราะสหรัฐเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทหารและการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในขณะนี้ ขบวนการสรรหาตัวแทนของพรรคทั้ง 2 คือ พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต จากการลงคะแนนเสียงของตัวแทนของพรรคในการประชุมใหญ่ของพรรคได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยพรรครีพับลิกันเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวย ส่วนพรรคเดโมแครตเสนอชื่อ นางฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐเข้าชิงตำแหน่ง

Advertisement

เท่าที่สังเกตดูทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ก็มักจะมีเสียงแสดงความไม่พอใจจากสื่อมวลชนอเมริกัน แสดงความไม่พอใจตัวแทนของพรรคใหญ่ทั้ง 2 พรรค ที่เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่เสมอและตีข่าวว่าประชาชนไม่ชอบทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ชอบ ไม่ต้องการให้เป็นประธานาธิบดีด้วยเหตุผลต่างๆ

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน สื่อมวลชนอเมริกันไม่ชอบผู้ที่จะลงชิงชัยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐทั้ง 2 คน คนแรกก็คือ โดนัล ทรัมป์ ที่เป็นคนไม่สู้จะเต็มบาท ถ้าถือตามมาตรฐานของคนไทย เพราะมีกิริยามารยาทต่ำทราม มีความคิดต่อต้านความเป็น “อารยะ” ของคนอเมริกัน ต่อต้านศาสนาอิสลาม ต่อต้านคนอพยพที่เข้ามาพึ่งพิงสหรัฐ ต่อต้านประเทศเพื่อนบ้าน จะสร้างกำแพงยักษ์แข่งขันกับจิ๋นซีฮ่องเต้ที่สร้างกำแพงเมืองจีน หรือกำแพงเบอร์ลินในสมัยสงครามเย็น ต่อไปเราคงได้ไปเที่ยวชมกำแพงอเมริกันหรือ American Wall ถ้าโดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง

ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน สื่ออเมริกันก็ไม่ชอบ เพราะคนอเมริกันส่วนใหญ่แม้จะแสดงตนว่าเป็นนักประชาธิปไตยที่เชิดชูสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาพและสิทธิมนุษยชน ไม่กีดกันผิว ศาสนาและเพศ เป็นตำรวจโลกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่คอยบังคับให้ประเทศอื่นดำเนินให้เป็นไปตามหลักการเช่นว่านั้น แต่เมื่อมาพูดถึงเรื่องลึกๆ ในใจของตน คนอเมริกันไม่เคยยอมรับให้ผู้หญิงเป็นผู้นำในทางการเมืองมาโดยตลอด สัดส่วนของผู้หญิงไม่ว่าในวุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรจะมีสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้ชาย แต่คราวนี้

Advertisement

เมื่อพรรคเดโมแครตส่งนางฮิลลารี คลินตัน ลงสมัครประธานาธิบดี ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งจึงไม่มีทางเลือก ถ้าไม่เลือกผู้หญิงเป็นประธานาธิบดีก็จะได้ “คนบ้า” หรือคน “ไม่เต็มบาท” เป็นประธานาธิบดี พรรคเดโมแครตกล้าส่งผู้หญิงเข้าแข่งขันเพราะรู้ว่าพรรครีพับลิกันจะส่งคนบ้าหรือไม่เต็มบาทลงแข่งขัน

แต่อย่างไรก็ตาม ในระบอบการปกครองของสหรัฐ แม้จะเป็นระบอบการปกครองที่มีการแบ่งแยกอำนาจกันอย่างค่อนข้างเด็ดขาด ประธานาธิบดีของสหรัฐนั้นถูกออกแบบมาให้เป็น “พระจักรพรรดิ” ที่มาจากการเลือกตั้ง หรือ “elected emperor” และต้องอยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญที่มีศาลสูงหรือ supreme court เป็นผู้กำกับควบคุม มิให้มีการกระทำที่ขัดหรือละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นผู้ตีความหากเกิดความขัดแย้งในการตีความ

อีกทางหนึ่งในการจำกัดอำนาจประธานาธิบดีก็คือ การเสนอกฎหมายจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีโดยรัฐสภา ขณะเดียวกันประธานาธิบดีก็อาจจะ “วีโต้” หรือ “ยับยั้ง” ร่างกฎหมายที่ผ่านรัฐสภามาแล้วก็ได้ แต่ถ้าสภายืนยันประธานาธิบดีก็ต้องลงนามประกาศเป็นกฎหมายเหมือนกรณีเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐสภาอเมริกันออกกฎหมายอนุญาตให้ผู้ที่เสียหายหรือญาติผู้ที่เสียหายจากกรณี 9/11 ที่มีการระเบิดตึก “การค้าโลก” สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ ถ้ารัฐบาลซาอุดีอาระเบียถูกฟ้องและแพ้คดีก็คงมีการยึดทรัพย์สินของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เช่น พันธบัตรและทรัพย์สินอื่นๆ ที่ถือโดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย น่าจะสร้างความยุ่งยากไม่น้อยเพราะถ้าหากผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทิ้งระเบิดของสหรัฐจากข้อมูลที่ผิดพลาด เช่น กรณี ซัดดัม ฮุสเซน ประเทศอิรัก ที่ในที่สุดแล้วก็ไม่พบอาวุธร้ายแรงที่สหรัฐและอังกฤษกล่าวหาว่าอิรักสะสมไว้ รวมทั้งผู้ที่เสียหายจากการทำสงครามของสหรัฐในประเทศต่างๆ ซึ่งอาจจะรวมทั้งเวียดนาม ลาว และกัมพูชาด้วย การเอาใจผู้มีสิทธิออกเสียงเมื่อใกล้จะมีการเลือกตั้งในสหรัฐ จึงมักจะมีการเสนอนโยบายและมาตรการแปลกๆ “บ้าๆ บอๆ” ออกมาเสมอ

กว่าจะรู้ว่าใช้ได้หรือไม่ได้ก็กินเวลาหลายปี หลังจากเจ้าของนโยบายเช่นว่านั้นได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี

หลายคนวางใจว่านายโดนัล ทรัมป์ คงจะไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่เมื่อเสียงของทางฮิลลารีลดลงจากการที่มีข่าวในทางไม่ดีของเธอออกมาเรื่อยๆ เช่น ใช้เว็บของกระทรวงต่างประเทศในเรื่องส่วนตัวหรืออื่นๆ นอกเหนือไปจากความเป็น “ผู้หญิง” เพศที่คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านายโดนัล ทรัมป์ จะแพ้การเลือกตั้ง

แต่ถ้านายโดนัล ทรัมป์ เกิดชนะการเลือกตั้งขึ้นมา องค์กรอีกองค์กรหนึ่งที่จะคานอำนาจประธานาธิบดีอเมริกันได้ก็คือ “ระบบราชการ” ของอเมริกัน เพราะระบบราชการของอเมริกันนั้นได้พัฒนาตัวเองจนเป็นองค์กรที่ใหญ่โตและเข้มแข็ง สลับซับซ้อน ในหลายกรณีอยู่นอกเหนือการบังคับบัญชาและการตรวจสอบของฝ่ายการเมือง แต่จะอยู่เบื้องหลังเงียบๆ โดยเฉพาะกิจการที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ หน่วยงานดังกล่าว เช่น สำนักงานข่าวกรองกลาง หรือ CIA หน่วยงานข่าวกรองของกองทัพ หน่วยงานเหล่านี้ติดตามสืบความลับ แม้แต่ตัวประธานาธิบดีเอง รวมทั้งผู้นำในรัฐสภาและอื่นๆ ก็ไม่พ้นการติดตามของหน่วยงานราชการลับเหล่านี้ เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้ข่าวว่าในประเทศของเราก็มีคนของหน่วยงานเหล่านี้แทรกซึมอยู่ไม่น้อย ดังนั้น แม้ว่าโดนัล ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรอย่างที่ตนหาเสียงไว้ได้เสมอไป

แต่ที่แย่และน่ารังเกียจยิ่งกว่า โดนัล ทรัมป์ ก็คือนายดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่ทั้งคำพูดกิริยามารยาทแบบที่ประมุขของรัฐไม่ควรจะเป็นหรือไม่ควรจะมี เพราะการแสดงออกของประมุขเป็นเกียรติภูมิของชาติ หลายเรื่องก็เข้าไปก้าวก่ายกองทัพฟิลิปปินส์ ก้าวก่ายสนธิสัญญาระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมเก่าของฟิลิปปินส์และเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมาเป็นเวลานาน ถ้ากองทัพฟิลิปปินส์ทนไม่ได้ก็คงทำการปฏิวัติรัฐประหารเข้าจนได้

การเมืองทั้ง 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกากับฟิลิปปินส์จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตาม ฟิลิปปินส์ได้ประธานาธิบดีไม่เต็มบาทมาแล้ว คอยดูว่าสหรัฐอเมริกาจะได้ประธานาธิบดีบ้าๆ บอๆ แบบเดียวกันหรือไม่

ศตวรรษที่ 21 นี้ คงจะมีอะไรแปลกๆ อีกมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image