6 ตุลา รำลึก สถานการณ์บานปลาย จับตัว โจชัวหว่อง

งานรำลึกครบรอบ 40 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกว่าที่คิด

ใหญ่ทั้งในแง่เหตุการณ์ภายในประเทศ

ใหญ่ทั้งในแง่ผลกระทบที่กระจายออกไปต่างประเทศ

Advertisement

และใหญ่ทั้งในแง่ผลที่จะต่อเนื่องตามมา

23.00 น. 4 ตุลาคม 2559

โจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมชาวฮ่องกงประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน มีกำหนดเดินทางมาถึงประเทศไทย

Advertisement

เพื่อเข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษของงานปาฐกถา 6 ตุลาฯประจำปีนี้

ในหัวข้อ “การเมืองของคนรุ่นใหม่” ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม

กระทั่งเวลา 01.00 น. 5 ตุลาคม ยังไม่ปรากฏตัวผู้ที่จะเดินทางมาถึง

ผู้สื่อข่าวสอบถามยังเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้รับการยืนยันว่าโจชัว หว่อง โดยสารมากับเครื่องดังกล่าว และผ่านขั้นตอนรับสัมภาระแล้ว

ก่อนที่จะมีรายงานข่าวในเวลา 02.00 น. ว่าโจชัว หว่อง ถูกกักตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

และคาดว่าจะถูกส่งตัวกลับด้วยเครื่องบินเที่ยวต่อไปที่จะเดินทางไปยังฮ่องกง

เว็บไซต์มติชนรายงานว่า กรณีการกักตัวดังกล่าวเป็นไปตามคำขอซึ่งส่งมาเป็นหนังสือจากรัฐบาลจีน

สำนักข่าวต่างประเทศทุกแห่งพร้อมใจกันรายงานข่าวดังกล่าว

บีบีซีระบุว่าว่านายโจชัว หว่อง ถูกทางการไทยควบคุมตัวที่กรุงเทพฯ

และพรรคเดโมซิสโต ซึ่งนายหว่องเป็นเลขาธิการพรรคออกแถลงการณ์เรียกร้องทางการฮ่องกงให้ยืนยันสิทธิของนายหว่องที่จะกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อปีที่ผ่านมา นายหว่องเคยถูกห้ามเข้าประเทศมาเลเซียมาแล้ว ขณะเดินทางไปเพื่อพูดเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยในจีน

โดยทางการมาเลเซียให้เหตุผลว่า การปราศรัยดังกล่าวอาจจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียกับจีน

รอยเตอร์รายงานว่า นายหว่องโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคม ว่ากังวลในการเดินทางไปยังกรุงเทพฯครั้งนี้

เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง และรัฐบาลไทยมีความใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน

นี่ยังไม่นับเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ระดับนานาชาติอีกเกือบทุกแห่ง

ที่รายงานข่าวเดียวกัน

ผ่านไปถึงช่วงเช้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตอบข้อซักถามเรื่องดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า

“ให้ไปถามโฆษกฯ”

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ให้สัมภาษณ์ว่า

ปกติสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะประสานความร่วมมือเรื่องข้อมูลบุคคลกับต่างประเทศอยู่ตลอด

ถ้าบุคคลนั้นๆ มีประวัติเกี่ยวข้องการทำผิดกฎหมาย หรือดำเนินกิจกรรมผิดไปจากวัตถุประสงค์ ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธได้

ส่วนกรณีนายโจชัว หว่อง นั้น ยังไม่มีข้อมูลว่ารัฐบาลจีนขอมา หรือ สตม. ระงับเอง

แต่คิดว่าเป็นไปได้ที่มีการประสานข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานด้าน สตม. หลายๆ ประเทศ

โดยเฉพาะข้อมูลด้านการข่าวที่เกี่ยวกับความมั่นคง

ตกเที่ยงวันเดียวกัน

นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้จัดงาน “40 ปี 6 ตุลาคนรุ่นใหม่มองอนาคต” แถลงว่า

ปาฐกถาครั้งนี้เป็นกิจกรรมทางวิชาการที่ได้รับการอนุมัติและสนับสนุนโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง

ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าสภาพของนายโจชัว หว่อง เป็นอย่างไร จึงขอให้รัฐบาลยืนยันความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว โดยอย่างน้อยที่สุดขอให้มีภาพนิ่งเผยแพร่

และควรมีแถลงการณ์จากรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างรวดเร็วที่สุด

กรณีโจชัว หว่อง จะจบลงอย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ

1.ภาพข่าวของไทยในกรณีนี้ปรากฏไปทั่วโลก

2.ความสนใจของคนต่อเหตุการณ์ 6 ตุลาเพิ่มสูงขึ้น

การตัดสินใจสกัดตัวนายโจชัว หว่อง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือเป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่

แต่รัฐบาลและ คสช. เป็นฝ่ายที่รับผลไปเต็มๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image