ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
เผยแพร่ |
ไม่มีใครสามารถคลางแคลงต่อเจตนาดีของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ที่แสดงการ “แจ้งเตือน” ในเรื่อง “คาร์บอมบ์”
ไม่ว่า “เสียง” ซึ่งมาจาก “ผบ.ทบ.”
ไม่ว่า “เสียง” ซึ่งมาจากบางส่วนใน “คณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ครม.ส่วนหน้า”
ทุกฝ่ายต่าง “เห็นด้วย” และพร้อมให้ “ความร่วมมือ”
กระนั้น หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ออกตัว” อย่างชนิดเต็มพิกัดนับแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นมา “ผล” เป็นอย่างไร
1 เป็นผลอันสัมพันธ์กับคำว่า “คาร์บอมบ์”
พลันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นไปยังคำว่า “คาร์บอมบ์” ภาพของการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3 อำเภอในจังหวัดสงขลา
ก็ “ปรากฏ” ขึ้นด้วย “กัมปนาท” อันสนั่นหวั่นไหว
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งเป็นผลสะเทือนอย่างเด่นชัด
และอย่างรวดเร็ว คือ แทนที่จะบังเกิดความ “ตื่นตัว” กลับกลายเป็นความ “ตื่นตระหนก”
จึงเป็นเรื่องของ “จังหวะ” จึงเป็นเรื่องของ “เวลา”
ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ การออกมาประกาศ “แจ้งเตือน” โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล นั้นอยู่ใน “บรรยากาศ” อย่างไร
ที่เห็นอย่างเด่นชัดคือ บรรยากาศแห่ง “ACD”
อย่าได้แปลกใจหาก “บัญชา/คามิน” เจ้าของคอลัมน์ภาพล้อการ์ตูน “กูว่าแล้ว” แห่งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม
จึงนำเสนอภาพล้อภายใต้หัวเรื่อง “ศรีวราห์ ขยันผิดเวลา”
พร้อมกับนำเสนอคำพูดจากเสียงร้องตะโกน “ด่วน หลายจุดในประเทศไทยจะมีวินาศกรรมคาร์บอมบ์ ขอให้ทุกคนระวังตัว”
ขณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเปิดการประชุมสุดยอด ACD
บทบาทและความหมายไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนานาชาติที่เข้ามาร่วมประชุมสุดยอด หากยังเป็นการแจ้งข่าวสารอันมากด้วยความละเอียดอ่อน
เพราะ “คาร์บอมบ์” คือสัญลักษณ์แห่ง “การก่อการร้าย”
ในทางสากลอันฝังแน่นกับปฏิมาจากการก่อการร้ายทั้งในตะวันออกกลางและในกลุ่มประเทศที่พัฒนาอย่าง สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น เช่นเดียวกับของประเทศไทยก็พุ่งความสนใจไปยังสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3 อำเภอในสงขลาอย่างเป็นด้านหลัก
ความหมายย่อมเท่ากับ “คาร์บอมบ์” จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3 อำเภอในสงขลาได้ขยายเข้ามายังกรุงเทพมหานครแล้ว
เป็นการรับรองโดย “ตำรวจ”
ความหงุดหงิดจากนักธุรกิจท่องเที่ยวเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าข่าว “คาร์บอมบ์” มีส่วนกระทบเข้าโดยตรง ไม่มีทางหลีกเลี่ยง
เพราะเป้า 1 คือ สนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะเดียวกัน เป้า 1 คือแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป้า 1 คือห้างสรรพสินค้ายอดนิยม และเป้า 1 คือโรงแรมและสถานบริการอันแนบแน่นอยู่กับการท่องเที่ยวและพักผ่อน
เท่ากับเป็นการฟาดกระหน่ำตรงแน่ว
เท่ากับเป็น “รายจ่าย” ที่ต้องสูญเสียไปอย่างแน่นอน กับกระบวนการ “แจ้งเตือน” ในลักษณะตื่นตระหนกเป็นอย่างสูง
ในที่สุดก็มีผลข้างเคียงไปยัง “ความเชื่อมั่น”
อย่าได้แปลกใจที่สื่อบางฉบับและนักวิเคราะห์บางส่วนสรุปว่า ปัจจัยที่ทำให้หุ้นตกมาจากปัจจัยภายในเป็นหลัก
และปัจจัยนั้นก็คือ ข่าว “คาร์บอมบ์”
บทสรุปจากคอลัมน์คนปนข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม จึงไม่ควรมองข้าม
นั่นก็คือ “จะคุ้มกับผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือไม่”
ปัญหาของการ “แจ้งเตือน” ในเรื่องอันเกี่ยวกับ “คาร์บอมบ์” จึงมิได้มีแต่ “รายรับ” หากยังมี “รายจ่าย” ตามมา
เป็นรายจ่ายอันเท่ากับ 1 ยอมรับโดยพื้นฐานในการขยายพื้นที่ของผู้ก่อความไม่สงบ และ 1 นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่น นำไปสู่ผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมีนัยยะ
เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ต้องพิจารณา