บทสรุปคดีแตงโม

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม กรณี น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดารานักแสดงชื่อดัง พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตในแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างล่องเรือกับเพื่อนอีก 5 คน ก่อนจะพบร่างในวันที่ 26 กุมภาพันธ์

แม้แต่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาย้ำถึง 2 ครั้ง กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สืบสวนทุกข้อสงสัยอย่างรอบคอบ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญ ต้องโปร่งใสด้วยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ ยึดข้อกฎหมาย วิชาชีพ และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วน “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการ “บิ๊กอุ้ย” พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1ให้มาคุมคดีด้วยตัวเอง

กว่า 20 วันของการสอบสวนในคดีนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้เก็บหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด การสอบพยานไปกว่า 60 ปาก การส่งร่างของแตงโมไปชันสูตรทั้งในสถาบันนิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจ และหน่วยงานอื่น

Advertisement

การตรวจสอบจีพีเอสสปีดโบ๊ตเพื่อเช็กความเร็วนำมาเปรียบเทียบกับคำให้การของเพื่อนบนเรือ 5 คน ทั้ง ไฮโซปอ โรเบิร์ต จ๊อบ กระติก และแซน ว่าตรงกันหรือไม่ โดยพบว่าแตงโมพลัดตกเรือเวลา 22.32 น. ของวันที่ 24 ก.พ. และเวลา 22.33 น. คนขับเรือได้วนกลับในทันทีเพื่อหาร่างแตงโมบริเวณจุดใกล้ๆ ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 นานกว่า 1 ชม. ก่อนนำเรือกลับมาที่โรงจอดเรือ จ.นนทบุรี

คำให้การของโรเบิร์ตยอมรับว่าเป็นคนขับเรือในช่วงเกิดเหตุ แต่ขับเรือไม่เป็น จึงอยากลองขับ ทำให้เรือกระชากทำให้แตงโมพลัดตกบริเวณกราบเรือฝั่งซ้ายด้านหลัง ซึ่งเท่ากับว่าการให้การของคนบนเรือในตอนแรกที่ระบุว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือแล้วเกิดพลัดตก ไม่เป็นความจริง

ทำให้แนวโน้มจะมีการแถลงปิดคดีออกมาเป็นเรื่อง “อุบัติเหตุ” และจะมีการแจ้งข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับคนขับเรือในจังหวะที่กระชากจนทำให้แตงโม พลัดตกเรือ

Advertisement

แต่กระนั้นก็ยังมีความคาใจ สงสัยว่าจะเป็นคดี “ฆาตกรรม” หรือไม่ แม้ทางตำรวจจะออกมายืนยันว่าพยานหลักฐานยังไม่มีอะไรมากไปกว่าอุบัติเหตุ

ทั้งข้อสังเกตของ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ในประเด็นร่องรอยบนใบหน้า ตาซ้ายขวาบวมช้ำไม่เท่ากัน เหมือนโดนของแข็งกระแทก และมีฟันที่แตกหักบางส่วน

คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดวินาทีที่แตงโมตกเรือ เป็นช่วงที่สปีดโบ๊ตสวนกับเรือขนทรายบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี และสปีดโบ๊ตยังแล่นไปข้างหน้าไม่ได้หยุด

ในขณะที่การทำคดีถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงความเที่ยงตรง

ทั้งการออกมาตั้งข้อสังเกตของ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ว่าคดีแตงโมนี้พลาดจุดสำคัญ เรื่องพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุที่มาของการตกจากเรือ และเมื่อตกเรือในขณะเกิดเหตุช่วงแรกทำไมจึงขึ้นจากน้ำไม่ได้ ถ้าข้ามการสอบพยานในประเด็นนี้ไป จะทำการภายหลังได้ยาก

รวมทั้งการย้าย รพ.ชันสูตรในช่วงแรกจาก รพ.ธรรมศาสตร์ ไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ คุณหญิงพรทิพย์มองเห็นว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ เพราะโดยทั่วไปการจะย้าย รพ.ชันสูตรในลักษณะข้ามเขตเป็นเรื่องแปลก เพราะหากในพื้นที่มี รพ.สามารถชันสูตรได้ก็ต้องปล่อยให้พื้นที่ดำเนินการไป เป็นหลักสากลที่ต้องให้อิสระทางด้านวิชาการแก่นักนิติวิทยาศาสตร์ โดยไม่เข้าไปแทรกแซง

ในระหว่างนี้อาจจะมีการเปิดประเด็น หรือหลักฐานออกมาเพิ่มเติมอีก

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้วการแถลงปิดคดีของตำรวจ จะสามารถคลี่คลายข้อสงสัยของสังคมได้แค่ไหน

และจะเป็นภาพสะท้อนว่ากระบวนการยุติธรรม ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่

นายด่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image