พญาหมีขาว…(เคย) สะอื้น

กงล้อประวัติศาสตร์…วนเวียนทั้ง “แนวคิด” และ “ปฏิบัติ”

ผู้เขียน…ขอเรียกประเทศมหาอำนาจในบทความนี้ว่า “โซเวียต” เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะเป็น “สหภาพโซเวียต”

ขอเล่าแบบรวบรัดนะครับ…

ปี พ.ศ.2521 เกิดรัฐประหารในอัฟกานิสถาน พรรคคอมมิวนิสต์ของอัฟกานิสถานยึดอำนาจ เพราะรัฐบาลเดิมที่ปกครองไปร่วมมือกับนายทุนครอบครองความมั่งคั่งในแผ่นดิน

Advertisement

พ.ศ.2522 พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในการควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์

ภายในพรรคคอมมิวนิสต์เอง…ก็ประสบกับการแย่งชิงที่รุนแรง มีศึกภายในกันเอง เป็นปรปักษ์กันอีก 2 กลุ่ม

เดือนกันยายน พ.ศ.2522 เลขาธิการพรรคประชาชน ชื่อ นูร์ โมฮัมหมัด ทารากิ ถูกลอบสังหารภายใต้คำสั่งของ นายพลอามิน

Advertisement

สหภาพโซเวียตที่สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ไม่พอใจ ไม่ปลื้มกับนายพลอามิน ระแวงว่านายพลอามินกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนข้างไปอิงแอบแนบชิดกับอเมริกา

24 ธันวาคม พ.ศ.2522 นายลีโอนิด เบรซเนฟ ผู้นำโซเวียต สั่งการกองทัพยานเกราะที่ 40 รุกข้ามพรมแดน รุกเข้าไปถึงกรุงคาบูลที่เป็นเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เกิดการสู้รบดุเดือด…

หน่วยรบพิเศษของโซเวียตบุกเข้า “สังหาร” นายพลอามิน และทีมงานมากกว่า 30 คน อย่างโหดเหี้ยม

กองทัพโซเวียตยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถาน

มอสโกแต่งตั้ง นายบาบรัค คาร์มาล (Babrak Karmal) ผู้ภักดีต่อรัฐบาลโซเวียตจากกลุ่มปาร์ชัม (Parcham) ขึ้นเป็นผู้นำอัฟกานิสถาน

ประชาชนอัฟกานิสถานส่วนใหญ่เป็น “มุสลิม” และมีชนเผ่าต่างๆ อีกหลายเผ่า

มกราคม พ.ศ.2523 รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 34 ประเทศของ “องค์กรความร่วมมืออิสลาม” (The Organization of Islamic Cooperation : OIC) มีมติให้ “ถอนทหารโซเวียต”

สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) มีมติประท้วงการแทรกแซงของสหภาพโซเวียตด้วยคะแนนเสียง 104 มี 18 ประเทศคัดค้าน และงดออกเสียง 18 ประเทศ

พันธมิตรกลุ่มคอมมิวนิสต์ลูกน้องโซเวียต ประกอบด้วย ประเทศแองโกลา เยอรมนีตะวันออกและเวียดนาม และอินเดีย สนับสนุนการบุกของโซเวียต

(ประเทศเยอรมันตะวันออกคือ ดินแดนเยอรมันที่ถูกแบ่งออกหลังจากเยอรมันนาซีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 …โซเวียตขอส่วนแบ่งเข้าปกครองเยอรมันตะวันออก สหรัฐขอปกครองประเทศเยอรมันตะวันตก…มารวมกันเป็นประเทศเดียวเมื่อ พ.ศ.2533 สมัยประธานาธิบดีโรนัลด์
เรแกน และนายกอร์บาชอฟ เป็นผู้นำของโซเวียต…)

การบุกเข้าไปยึดครองอัฟกานิสถานในช่วงเวลานั้น…เป็นช่วงสงครามเย็น (Cold War) ที่กำลังเอาเป็น-เอาตาย

อเมริกา…“ลูกพี่ใหญ่” ฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายโลกเสรีต้องหาวิธีจัดการกับทหารโซเวียตด้วย “วิธีพิเศษ”

หน่วยข่าวกรองกลาง (CIA) คือหน่วยงานหลักที่ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งการได้โดยตรง มีเขี้ยวเล็บเยอะ เงินแยะ

การทำงานของ CIA มิใช่การใช้กำลังทหารโดยตรง

เครือข่ายพันธมิตรของสหรัฐที่ “อยู่ชิดติด” กับดินแดนอัฟกานิสถานคือ ปากีสถาน

การเจรจาลับทำให้ปากีสถานเป็น “ศูนย์บัญชาการ” ของอเมริกา เริ่มจากการจัดตั้ง “กลุ่มต่อต้าน” เพื่อขับไล่กองทัพหมีขาว

ชายชาวอัฟกันมหาศาลเข้ามารับการฝึกในดินแดนปากีสถาน

CIA ส่งอาวุธ เงิน ให้กลุ่มต่อต้านชาวอัฟกันแบบที่ไม่เคยเห็นเงินเยอะแบบนี้มาก่อน และจ่ายให้ปากีสถานแบบจุใจ

ทำสงครามต้องมี “นายทุนมือหนัก” สนับสนุน

สหรัฐอเมริกาและอังกฤษคือ “เจ้าภาพ” จัดการในภารกิจลับทั้งปวง (มีทุนสนับสนุนจากจีนและอิหร่าน)

โซเวียตทราบดีว่า อเมริกาเข้ามาทำอะไร…

ปากีสถานที่เป็นมิตรแนบชิดกับอเมริกา “จัดให้” ทุกอย่าง

กลุ่มต่อต้านที่เรียกว่า กลุ่มมูจาฮิดีน ใช้อาวุธจากอเมริกาทำงานได้ผล ซุ่มโจมตีทหารโซเวียต ทำงานแบบไม่รีบร้อน ทำ “สงครามกองโจร”

กองทัพโซเวียตมาในแบบ “กำลังรบตามแบบ”

มียานเกราะ รถถัง ปืนใหญ่ เครื่องบินรบเต็มพิกัด ตั้งค่ายอยู่แบบเป็นเป้านิ่ง ทหารโซเวียตต้องใช้ถนน ใช้เฮลิคอปเตอร์ เป็นหลัก

อเมริกาต้องการให้กองทัพโซเวียต “ติดหล่ม-จมปลัก” ในสงครามเพื่อบดขยี้ โดยมูจาฮิดีนคือตัวแสดงแทน

“ยมทูต” ของสงครามในอัฟกานิสถาน คืออาวุธต่อสู้รถถัง และจรวดต่อสู้อากาศยานจากซีไอเอ

สนามรบ คือสถานที่วิจัย พัฒนา และทดลองอาวุธที่คิดค้นมาได้จากโรงงาน และถ้าได้ผลดี สังหารข้าศึกได้ผล มันคือการโฆษณาค้าอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะมีออเดอร์เข้ามาสั่งซื้อจากทั่วโลก

กองทัพรัสเซียใช้กลยุทธ์เข้ายึดครองเมือง และเส้นทางต่างๆ

ในขณะที่นักรบมูจาฮิดีนทำสงครามกองโจรโดยกลุ่มเล็กๆ

โซเวียตควบคุมพื้นที่ได้ราวร้อยละ 20 ของประเทศ

พื้นที่ราวร้อยละ 80 ของประเทศที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของโซเวียต และเป็นภูมิประเทศทุรกันดารและเป็นภูเขาสูง

นักรบเครายาวมูจาฮิดีน ใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาสูงมาทั้งชีวิต มีความเจนจัดในการหลบหลีก ซ่อนพรางในภูเขา

กองทัพโซเวียตเน้นการใช้กำลังทางอากาศเพื่อจัดการกับกลุ่มมูจาฮิดีนและพลเรือนอย่างรุนแรง ยิงถล่มแม้กระทั่งหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อตัดทอนกำลังของมูจาฮิดีน

ทำลายแหล่งกบดาน ทำลายคูน้ำ วางทุ่นระเบิด

ขอเพิ่มเติมข้อมูลที่นอกเหนือจากสงครามครับ

วอชิงตันนำการ “คว่ำบาตร” โอลิมปิกฤดูร้อนปี 2523 ที่จัดขึ้นในกรุงมอสโก แทบไม่มีประเทศใดส่งนักกีฬาไปเข้าแข่ง รัฐบาลโซเวียตแค้นจัด…การสู้รบในดินแดนอัฟกานิสถานยังคงดุเดือด

4 ปีต่อมา มอสโกนำประเทศบริวารคว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี พ.ศ.2527 ที่จัดขึ้นที่ลอสแองเจลิส ในอเมริกา

รัฐบาลของนายคาร์มาล ภายใต้การอุปถัมภ์ของโซเวียตและกองทหารโซเวียตต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากนักรบมูจาฮิดีน ที่เป็น “เจ้าถิ่น”

อันที่จริง…ผู้นำโซเวียตสั่งทหารนับแสนบุกอัฟกานิสถานก็เพื่อโค่นล้มรัฐบาลเก่า จัดตั้งรัฐบาลใหม่ แล้วจะถอนตัวภายในเวลาประมาณ 1 ปี

สถานการณ์ยืดเยื้อ เรื้อรัง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ซีไอเอทุ่มเทหนัก… นานวันกองทัพโซเวียต ยิ่ง…ติดหล่ม-จมปลัก

ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 กองทหารโซเวียตเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นราว 108,800 นาย

กองทัพโซเวียตเสียหายหนัก ต้องปรับแผนมาทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอัฟกานิสถาน โดยการทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างหนัก

ปี 2528 คือปีที่เลวร้ายที่สุดของสงคราม เกษตรกรกว่าครึ่งที่ยังคงอยู่ในอัฟกานิสถานถูกทิ้งระเบิดในไร่ และมากกว่า 1 ใน 4 ของระบบชลประทานถูกทำลาย และปศุสัตว์ถูกยิงถล่ม

ซีไอเอ มอบอาวุธ Stinger ให้มูจาฮิดีน รวมทั้งอาวุธต่อสู้รถถังให้มูจาฮิดีนแบบจุใจผ่านดินแดนปากีสถาน

อาวุธจรวดต่อสู้อากาศยาน Stinger พกพาไปด้วยคนเดียวทำงานได้เฉียบขาด นักรบมูจาฮิดีนที่แอบอยู่บนภูเขาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์โซเวียตก็โผล่ขึ้นมา จับอาวุธประทับบ่า เล็ง แล้วลั่นไก

ลูกจรวดจะวิ่งออกไป แหวกอากาศ นำวิถีด้วยอินฟราเรด วิ่งเข้าหาอากาศยาน ไม่ว่าจะบินหลบหลีกเลี่ยงไปไหนมันจะพุ่งตามไปชนเป้าหมาย ระเบิดเป็นลูกไฟกลางอากาศสนั่นท้องฟ้า

FIM-92A Stinger (รุ่นพื้นฐาน) เป็นขีปนาวุธพื้นผิวสู่อากาศ สามารถปรับให้เข้ากับการยิงจากยานพาหนะภาคพื้นดินและยิงจากเฮลิคอปเตอร์ (Air to Air Stinger) ผลิตในอเมริกา

จรวดตัวนี้มีความยาว 1.52 ม. และเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.8 นิ้ว ครีบขนาด 3.9 นิ้ว น้ำหนัก 10.1 กก.

มีระยะการเล็งสูงสุด 4,800 ม. และสามารถโจมตีศัตรูในระดับความสูงต่ำได้สูงถึง 3,800 ม.

สติงเกอร์ไม่ทำให้อเมริกาผิดหวัง จนอากาศยานโซเวียตแทบหายไปจากท้องฟ้า หลายสำนักเห็นว่า Stinger เป็น “จุดหักเห” ในสงคราม …มันเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม”

(ช่วงต่อมา…กองทัพโซเวียตคิดประดิษฐ์แผ่นโลหะและอุปกรณ์พิเศษติดตั้งบนอากาศยานเพื่อหลอกล่อจรวดให้หลงทาง)

ซีไอเอปลื้มสุดสุดกับผลงานการ “สอย” อากาศยานของหมีขาว

ซีไอเอทำงานแบบอิสระ เงินเยอะ …ผู้เขียนไปค้นคว้ามาบอกกล่าว (จากคลังข้อมูลดิจิทัล Wilson Center) คือ…

…วันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2523 นักรบมูจาฮิดีน 48 คน ได้เดินทางมาถึงสหรัฐ ทั้งหมดถูกส่งไปฝึกอบรมการทหารที่ฐานทัพสหรัฐในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย…

…ซีไอเอให้เงินก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรม เพื่อฝึกอบรมนักปฏิวัติชาวอัฟกันเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2523 ในพื้นที่หมู่บ้านซาราบรัด (Sarabrud 40 กม. จากเมืองเกตตา ปากีสถาน) มีที่ปรึกษาชาวอเมริกันประมาณ 20 คน ทำงานที่ศูนย์แห่งนี้ สอนยุทธวิธีและวิธีการในการทำสงครามกองโจรแก่ชาวอัฟกัน…

ที่นี่คือ กองบัญชาการทำสงครามของซีไอเอ

ในช่วงเวลานั้นจีนแตกคอกับสหภาพโซเวียต เพราะมีการปะทะกันด้วยกำลังทหารที่ชายแดน กองทัพจีนจึงยืนคนละฝั่งกับโซเวียต…กองทัพจีนจัดการฝึกอบรม การจัดหาอาวุธ และการสนับสนุนทางการเงิน ให้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน เครื่องยิงจรวด และอาวุธหลายชนิด มูลค่าหลายร้อยล้าน มอบให้กับนักรบมูจาฮิดีน

อังกฤษส่งหน่วยรบพิเศษ และหน่วยข่าวกรอง และอาวุธ เข้าไปช่วยมูจาฮิดีนเพื่อรบกับโซเวียต

นักรบมูจาฮิดีนใช้รถจักรยานยนต์ รวมทั้งใช้ม้าในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน เล็ดลอดเข้าและออกจากประเทศอิหร่านที่เป็นพี่น้องชาวมุสลิมด้วยกัน

เวลาผ่านไปเป็นปี และหลายปี กองทัพโซเวียตที่ออกมารบนอกบ้านเสียหายหนักและผลาญงบประมาณมิใช่น้อย

เกิดความแตกแยกในการเมืองในมอสโกอย่างรุนแรง

(ระหว่างกองทัพโซเวียตยึดครองอัฟกานิสถานใช้สนามบินในเมืองบาแกรม (Bagram) เป็นฐานบินในสงคราม และเมื่อโซเวียตถอนตัวไปแล้วสหรัฐเข้ามาใช้สนามบินแห่งนี้ในสภาพทรุดโทรม รัฐบาลไทยอนุมัติให้กองร้อยทหารช่าง 130 นาย จากประเทศไทยไปช่วยซ่อม ปรับปรุงให้ใช้การได้ในระหว่างเดือนมีนาคม-ตุลาคม 2546 ซึ่งผู้เขียนได้ไปเป็นผู้ประสานงานกับกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน…)

กลางปี 2530 สหภาพโซเวียต ภายใต้การนำของมิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำนักปฏิรูป มีท่าทีจะเริ่มถอนกำลังทหารโซเวียตหลังจากพบปะกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน เพราะบอบช้ำหนัก รวมทั้งเผาผลาญเงินแบบไร้ประโยชน์

เกิดกระบวนการพูดคุยเรื่อง “ถอนทหาร”

14 เมษายน 2531 มีการลงนามในสนธิสัญญาเจนีวา ระหว่างอัฟกานิสถานกับสหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ค้ำประกัน ให้ถอนกองกำลังโซเวียตออกจากอัฟกานิสถาน

ในสงคราม 9 ปีที่โหดร้าย กองทัพหมีขาวที่ตั้งใจบุกมาเปลี่ยนการปกครองให้เกื้อกูลกับมอสโก… กลายเป็นหมีสะอื้น

พลเรือนเสียชีวิตประมาณ 1 ล้านคน รวมทั้งนักรบมูจาฮิดีนราว 90,000 คน ทหารอัฟกัน 18,000 นาย และทหารโซเวียต 14,500 นาย

สหรัฐตกลงที่จะยุติการสนับสนุนอาวุธสำหรับกลุ่มมูจาฮิดีนในอัฟกานิสถาน

ปากีสถานตกลงที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของเพื่อนบ้าน

เดือนกุมภาพันธ์ 2532 ทหารโซเวียตคนสุดท้ายถอนออกจากอัฟกานิสถาน …เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

การถอนทหารเกิดขึ้นพร้อมๆ กับ “การล่มสลายของโซเวียต”

ที่อยู่ในช่วง พ.ศ.2531-2534 ซึ่งเป็นกระบวนการของการสลายตัวภายในประเทศของสหภาพโซเวียต

25 ธ.ค.2534 นายกอร์บาชอฟลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการ

26 ธ.ค.2534 สภาสูงสุดโซเวียต-(The Supreme Soviet) ได้ให้การยอมรับรัฐเอกราชใหม่ 15 รัฐอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการสิ้นสุดของสหภาพโซเวียต 1 ในประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก

รัสเซีย…เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดใน 15 ประเทศ มีดินแดนที่กว้างใหญ่ โดยมีดินแดนทั้งที่ตั้งอยู่ในทั้งยุโรปและเอเชีย

ยูเครน กลายเป็นประเทศเอกราชที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 พร้อมกับทรัพยากรธรรมชาติที่โคตรร่ำรวย…ที่รัสเซียแสนจะเสียดาย

หลังจากโซเวียตล่มสลาย รัสเซียเผชิญวิกฤตทางเศรษฐกิจ

เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปูติน ทำหน้าที่สายลับในหน่วย KGB ต้องออกมาขับแท็กซี่เลี้ยงชีพ (ให้สัมภาษณ์เปิดใจเมื่อ14 ธ.ค.64)

ต่อมา ปูติน เป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย

24 กุมภาพันธ์ 2565 การบุกยูเครน …จึงอุบัติขึ้น

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image