ภาพเก่าเล่าตำนาน : ทหารรับจ้าง…มีมานานแล้ว

ภาพจาก tvtropes.org

ภาพเก่าเล่าตำนาน : ทหารรับจ้าง…มีมานานแล้ว

“อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิด จะเกิดผล อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์ ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี”

“มีวิชา เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน…”

นิติสารสาธก ของ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) …ที่เด็กไทยเคยได้เรียนในชั้นประถม พิสูจน์ได้ว่า…เป็นของจริงแท้

Advertisement

เกิดมาเป็น “คน” …ขอให้มีความรู้จริง เชี่ยวชาญอะไรสักอย่าง ก็น่าจะพอเอาตัวรอดได้…

แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ เภสัช พยาบาล วิศวกร นักดนตรี อาจารย์ นักกีฬา พ่อครัว แม่ครัว เกษตรกร ช่างก่อสร้าง หมอดู ฯลฯ ที่เรียน-ทำงานมา ล้วนมีวิชาชีพติดตัว สามารถทำมาหากินได้แม้ยามปลดเกษียณ… ถ้าอยากจะทำและมีคนว่าจ้าง…

ถ้าไม่มีความรู้ ไม่เชี่ยวชาญอะไรซักอย่าง…มีแต่ “แรง” ไปยกขน แบกหาม ก็ยังพอหางานทำได้ ไม่น่าอดตาย ไม่น่าอายอะไร

Advertisement

สไนเปอร์ (พลซุ่มยิง) ทหาร-ตำรวจ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ทหารรบพิเศษ ทหารหน่วยซีล อดีตสายลับ นักบิน กัปตันเรือ เป็นวิชาชีพที่แสนมีค่า กว่าจะผลิตออกมาได้แต่ละคน ใช้เงินมหาศาล…

“ทหาร” ที่มีประสบการณ์ มีร่างกาย-จิตใจที่พร้อมรบ ถ้าจะไปเป็น “ทหารรับจ้าง” ในสนามรบ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก…

ขอเจาะประเด็นเรื่อง “ทหารรับจ้าง” ที่มีนานแล้วครับ

เรื่องเงินค่าจ้างก้อนโต คือ แรงจูงใจ ที่ใครก็ใฝ่หา

ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลตัว…“อยุธยา” ก็เคยจ้างทหารโปรตุเกส

ช่วง พ.ศ.2066 เรือสินค้าพร้อมกองทหารโปรตุเกสเข้ามาถึงอยุธยา กองทหารแต่งเครื่องแบบ พร้อมอาวุธปืนคาบศิลา มีดินระเบิด มีศาสตราวุธ แปลกหู
แปลกตามาให้ชาวอยุธยาได้ชม

นับเป็นความอัศจรรย์ยิ่งนัก

ฝรั่งโปรตุเกส มิได้มีท่าที “คุกคาม” อาณาจักรอยุธยา เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของราชสำนัก เน้นการทำมาค้าขาย สอนหนังสือ เผยแผ่ศาสนา รักษาพยาบาล

หัวหน้าคณะชาวโปรตุเกส ชื่อ ดูมิงกูส ดึ เซยชาส (Domingos de Seixas)…อยุธยาเจรจาตกลงทำมาค้าขาย และร่วมมือกันเรื่องศึกสงครามกับพม่า

อยุธยายังใช้หอก ดาบ แหลน หลาว ยังไม่มีปืน ดินระเบิด

อยุธยามองการไกล…ตกลงค้าขาย และขอมี “ทหารรับจ้าง” ชาวต่างชาติ (Foreign Mercenaries) เข้ามาประจำการเป็นครั้งแรก มีเงินตอบแทน
มีสวัสดิการ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมในอยุธยา

ชาวโปรตุเกส…แต่งตั้งผู้บัญชาการ จัดการสอนวิชาการใช้อาวุธปืนเล็กยาว ปืนใหญ่ ให้แก่ไพร่พลในอยุธยา

มีทหารรับจ้างชาวโปรตุเกสในอยุธยาราว 130 นาย

อยุธยา รู้สึก “มั่นใจ” ในแสนยานุภาพที่มาจากฝรั่งโปรตุเกสที่ “บริหาร-จัดการ” ไพร่พลอย่างเป็นระบบ

พ.ศ.2081 ทหารฝรั่งโปรตุเกส ถือปืนคาบศิลา และนำหน่วยปืนใหญ่แบบลากจูงไปแสดงฝีมือให้ประจักษ์เป็นครั้งแรก

ทหารโปรตุเกส…ไปร่วมกับทหารในกองทัพของสมเด็จพระไชยราชาไปรบกับพม่า กองทัพอยุธยา “มีชัย” ยิงทหารพม่าตายเกลื่อนด้วยปืนคาบศิลา… น่าตื่นเต้น

(ในเวลาเดียวกัน กองทัพพม่าก็จ้างทหารโปรตุเกส พร้อมอาวุธปืนมาออกรบกับทัพอยุธยาด้วยเช่นกัน)

ชัยชนะครั้งนั้น…สมเด็จพระไชยราชา ทรงชื่นชมทหารโปรตุเกส โดยพระราชทานที่ดินให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในศรีอยุธยา เป็น “หมู่บ้านโปรตุเกส” และให้สร้างโบสถ์สอนศาสนาได้ตามความพอใจ ทั้งยังทรงมอบหน้าที่ฝึกทหารแบบยุโรปขึ้น เรียกว่า “กรมเกณฑ์หัดอย่างฝรั่ง”

ทหารรับจ้างโปรตุเกส คือ เขี้ยวเล็บอันทรงพลังของอยุธยา

ประวัติศาสตร์ของอยุธยา ยังมีทหารรับจ้างจากญี่ปุ่น และมีกองทหารฝรั่งเศส เข้ามาทำงานอีกในต่างยุค ต่างภารกิจ

ลองไปดูเรื่อง “ทหารรับจ้าง” ในต่างประเทศครับ…

เท่าที่มีหลักฐานบันทึก…อังกฤษ คือ แหล่งกำเนิด

กองทัพอังกฤษ มีหน่วยรบพิเศษ เรียกว่า SAS (Special Air Services) ที่เป็น “สุดยอด” ของทหารมีฝีมือ

มีการทดสอบสมรรถภาพทหารในหน่วยนี้เป็นประจำมิได้อยู่ในราชการถึงอายุ 60 ปี มีการ “คัดออก” หมุนเวียนตลอดเวลา

“ยอดทหาร” เหล่านี้…ส่วนหนึ่ง “ตกงาน”

ในช่วงปี พ.ศ.2508 อดีตทหารผ่านศึกจากหน่วย SAS คือ เซอร์ สเตอร์ลิง (Sir David Stirling) และ นายวู้ดเฮ้าส์ (John Woodhouse) ได้ก่อตั้งบริษัท Watch Guard International ในฐานะบริษัทเอกชนที่สามารถทำสัญญาเพื่อทำงานรักษาความปลอดภัยและเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร

บริษัทนี้ รวบรวมอดีตทหาร SAS ที่มีฝีมือทั้งหลายมาทำงาน เป็นการประกอบอาชีพตามความรู้ ประสบการณ์ที่มีติดตัวมา

บุคคลสำคัญ มหาเศรษฐี ดารา เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ นักการเมือง ล้วนจ้างทหาร SAS มาเป็นบอดี้การ์ด (Body Guard)

กิจการของบริษัท…ไปได้สวย โลดแล่น

(มีทหาร ตำรวจ จากหน่วยรบพิเศษจำนวนมาก ลาออกไปเป็นบอดี้การ์ดให้ วีไอพี ทั่วโลก เพราะรายได้ดีกว่าทำงานให้รัฐ)

ในอังกฤษ…มิได้ใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะ “ทหาร-ตำรวจในราชการ” มาติดตาม คุ้มกันเป็นการส่วนตัว

งานแรกของบริษัท ที่ไปทำนอกประเทศ คือ ถูกว่าจ้างให้ไปที่ประเทศ เยเมนในภารกิจควบคุมการหยุดยิง

ผลงานบริษัทนี้… ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพและราคา

“งานเข้า” มาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการไปทำงานในทวีปแอฟริกา ในบางภารกิจ เช่น การไปฝึกสอน ไปจัดหน่วย ให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัย …เมื่อไว้ใจ สนิทสนมกัน ก็ต้องขยายผล

ธุรกิจที่ทำเงินก้อนยักษ์ที่ตามมา คือ การซื้อ-ขายอาวุธ ที่ทุกฝ่ายหิวโหย

งานทหารรับจ้างขยายตัวไม่หยุด…บริษัทแห่งนี้ ยังรับจ๊อบเป็นนายหน้า รับจ้างจัดทำข้อตกลงเพื่อซื้อ-ขายอาวุธไปทั่วโลก โดยเฉพาะอาวุธของอังกฤษ

ความขัดแย้ง แย่งชิงอำนาจในหลายพื้นที่ในโลกนี้ต้องการกำลังทหารเข้ามาจัดการ

จะเป็นใคร เป็นฝ่ายไหน “เงินค่าจ้าง” จะเป็นตัวตัดสิน

การก่อความไม่สงบในหลายประเทศ เพื่อโค่นล้มผู้นำประเทศ มีเรื่องทหารรับจ้างเกี่ยวข้องเสมอ

โดยเฉพาะการลอบสังหาร

การจ้างในภารกิจ “เชิงบวก” ก็มีนะครับ

บริษัทไปรับจ้าง รับเงินจาก กองทุนโลกเพื่อธรรมชาติ (World Wide Fund for Nature) เพื่อลดการลักลอบล่าสัตว์และการลักลอบนำเข้างาช้างในประเทศต่างๆ ทางตอนใต้ของแอฟริกา

การว่าจ้างในลักษณะนี้เป็นเรื่องเปิดเผยในสังคมโลก

ในช่วงเวลาต่อมา…มีคำศัพท์เรียกธุรกิจในลักษณะนี้ว่า PMC หรือ Private military company ที่เติบโตพรวดพราด มารองรับบรรดานักรบมากฝีมือให้มีงานทำ มีรายได้งาม

มีการคำนวณตัวเลขแล้ว…การว่าจ้างบริษัท หรือ กลุ่มคนเหล่านี้ไปทำงาน มีราคาถูก ประหยัด สะดวก คุ้มค่ากว่าการมีทหารในกองทัพ ที่ต้องมีค่ายทหาร
มีที่พักให้ครอบครัวทหาร มีเครื่องแบบ และสวัสดิการสารพัด รวมทั้งต้องดูแลเมื่อบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

กำลังพลจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายแห่งทั่วโลกโดยเฉพาะที่ใช้ภาษาอังกฤษ “ลาออก” แล้วมุ่งหน้าไปยังองค์กรทหารเอกชนเหล่านี้ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกองทัพในหลายประเทศ

ผู้เขียนขอเพิ่มเติมข้อมูลครับ…มิใช่ว่าอดีตทหาร เจ้าหน้าที่ของรัฐจะลาออกไป “ทำสงครามเข่นฆ่า” แต่อย่างเดียว…

มีการจัดตั้งบริษัทของฝ่ายพลเรือนที่ทำงานด้าน โลจิสติกส์ (ส่งกำลังบำรุง-ขนส่ง ฯลฯ) ขึ้นในอเมริกา โดยรับจ้างวางแผนเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยทหารช่างกองทัพบกสหรัฐ

รับจ้างทำสัญญาก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบท่อส่งปิโตรเลียม

ลองไปดูในรัสเซียกันบ้างครับ…

แว็กเนอร์กรุ๊ป (Wagner Group) ในรัสเซียที่โด่งดังในขณะนี้ (ไปทำการรบในยูเครน) เดิมคือ บริษัทรักษาความปลอดภัยส่วนตัว ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2557 ในช่วงที่กองทัพรัสเซียเดินไปยึดดินแดนคาบสมุทรไครเมียมาจากยูเครน อดีตทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซียที่เรียกว่าหน่วย สเปซนาซ (Spetsnaz) ก่อตั้งบริษัทขึ้นเพื่อทำงานให้หน่วยข่าวกรองของรัสเซีย …แน่นอนที่สุด คือ มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลหนุนหลัง

บริษัทนี้มีประวัติเคยเข้าไปทำงานในหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นนายหน้าค้าอาวุธ และได้รับสิทธิในการทำธุรกิจขนาดใหญ่ในหลายประเทศ เช่น ได้รับสัมปทานเหมืองทองคำ

เมื่อต้องการ “กำลังทหาร” ที่ไว้ใจได้เพื่อการโค่นล้มระบอบ หรือเปลี่ยนแปลง จะมีการว่าจ้างบริษัทไปทำภารกิจ เช่นใน ซีเรีย เยเมน ลิเบีย ซูดาน โมซัมบิก มาดากัสการ์

บริษัททหารรับจ้าง Wagner Group ได้ดำเนินภารกิจลับมากมาย ซึ่งทั้งหมดถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลรัสเซียว่า “ไม่มีตัวตน”

ในบางโอกาสมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อน้ำมัน ก็ยังต้องมาขอใช้บริการเพื่อคุ้มครองธุรกิจแสนล้าน

ค่าตอบแทนจะจุใจ… เป็นการทำมาหากินที่ทุกคนเต็มใจ

บริษัท แบล็กวอเทอร์ ของอเมริกา (Blackwater)

ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2539 โดยอดีตทหารหน่วยซีล (US Navy SEALs) ของกองทัพเรือสหรัฐ เมื่อเริ่มต้น เจ้าของบริษัทไปซื้อที่ดินราว 3 พันเอเคอร์ ซึ่งเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่บนพรมแดนรัฐนอร์ธแคโรไลนา-รัฐเวอร์จิเนีย ตั้งชื่อบริษัท แบล็กวอเทอร์ (น้ำดำ) ตามน้ำสีพรุในบึง

พ.ศ.2546 ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลสหรัฐเพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ สถานที่ของรัฐบาลกลา

ต่อมาบริษัทนี้ได้รับการว่าจ้างจาก ซีไอเอ (CIA) ให้ไปทำงานในสมรภูมิอิรัก

พนักงาน…ที่ล้วนเป็นทหารเก่า… ทำงานในแบบนักรบอาชีพ มีอาวุธ ยานพาหนะ แต่งเครื่องแบบ ทำการรบได้

ในอิรัก…ธุรกิจของทหารรับจ้างแบล็กวอเทอร์ ไปได้สวย รุ่งเรือง มีคนมาสมัครงานมาก ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ และสถานที่ส่วนตัวกว่า 60 แห่ง

รับหน้าที่ฝึกกองทัพและตำรวจใหม่ของอิรัก ทำงานเป็นระบบ

พ.ศ.2554 เปลี่ยนชื่อเป็น อคาเดมี (Academi)

พ.ศ.2556 บริษัทลูกของอคาเดมี ได้รับสัญญาประมาณ 92 ล้านดอลลาร์ ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐ

การทำงานของบริษัท ก็ใช่ว่าจะ “ลงมือทำ” ด้วยกำลังพลของตัวเอง …ทุกอย่างต้องแนบเนียน…สาวไม่ถึงต้นตอ

เหตุการณ์ในหลายประเทศ เจ้าหน้าที่ของบริษัทจะไป “ว่าจ้าง-หาตัวแกนนำ” เป็นนอมินี เพื่อสร้างเหตุการณ์ แม้กระทั่งการลอบสังหารบุคคลสำคัญ

เมื่อภารกิจสำเร็จ…ก็มารับ “ค่าจ้าง” ที่เหลือ

ถ้ามีเงิน… ก็จ้างผีโม่แป้งได้

มหาอำนาจจีน ก็ใช้ทหารรับจ้างนะครับ…

การทำงานระดับโลกของจีนที่เรียกว่า BRI (Belt Road Initiative) ก็มีบริษัทรับจ้างรักษาความปลอดภัย

โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (BRI) ของจีน ก็ต้องจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเช่นกัน เพื่อปกป้องทรัพย์สินของชาวจีนที่ไปทำงานนอกประเทศ

การก่อสร้าง วางรางรถไฟ การทำถนนในพื้นที่ห่างไกล ในประเทศต่างๆ ชาวจีนที่ควบคุมงานต้องปลอดภัย

บริษัทรักษาความปลอดภัย (เอกชน) ของจีน มี 20 แห่งให้บริการระหว่างประเทศ โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยราว 3,200 คนในประเทศต่างๆ เช่น อิรัก ซูดาน และปากีสถาน

มิได้หมายถึงการขนชาวจีนไปเป็นเจ้าหน้าที่นอกประเทศ แต่เป็นการใช้เจ้าหน้าที่ของจีน ไปฝึกอบรม เป็นผู้บังคับหน่วย บริหารจัดการ ว่าจ้างคนในท้องถิ่นให้มาทำงานรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ ใช้อาวุธได้…มีค่าตอบแทน

ที่เรียบเรียงบทความมาข้างต้นนี้ คือ การใช้บริษัทเอกชนเข้ามาทำหน้าที่แบบทหาร หรือ กึ่งทหาร กึ่งตำรวจ ที่ “รัฐ” เป็นเพียงผู้ว่าจ้าง หรือจะเรียกว่า “Privatization” ก็คงไม่ผิดนัก

ในอดีต…ผู้เขียนจำได้ว่า จะมีตำรวจ 1 คนนั่ง ในหรือหน้าร้านขายทอง ก็มิใช่เรื่องแปลกประหลาด

มาเฟียในอเมริกา ทำกิจการค้าของผิดกฎหมาย ต้องจ้างมือปืนมหาศาลเพื่อเอาไว้ยิงสู้กับตำรวจแบบสงครามในเมือง

เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ เจ้าของกิจการสถานเริงรมย์ แทบทุกแห่ง จะต้องมี “ผู้คุ้มกัน-ดูแล” ที่คุ้นเคย ไว้ใจได้ และต้องอุ้มชูดูแลกัน

ทหารรับจ้าง ก็เป็นอาชีพมารองรับ คนมีความรู้ มีฝีมือ มีทักษะ ล้วนแล้วแต่สมัครใจมาทำงาน ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อหาเลี้ยงชีพ

ในบางภารกิจที่สุดโหด สุดลึกลับ ภารกิจที่ชาวโลกรังเกียจ ก็อาจจะทำงานได้ดีกว่าการใช้ทหารอาชีพและราคาถูกกว่ามาก

มันคือธุรกิจทำเงินมหาศาลที่เปิดเผย (บางส่วน)

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image