ทำความดี…เพื่อเป็นคนดีของ‘พ่อ’ โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร

ประกาศสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 19.00 น. ความว่า

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี…

เป็นประกาศที่ฉุดกระชากความรู้สึกทั้งมวลในหัวใจของคนไทยให้ปะทุ กลายเป็นหยาดน้ำตาหลั่งรินทั่วแผ่นดิน ด้วยอาลัยจนยากเกินกว่าจะกลั่นมาเป็นคำพูดหรืออักษรใดใด

ผู้เขียนในฐานะหนึ่งในพสกนิกรที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอน้อมนำพระบรมราโชวาทและคำสั่งสอนมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เป็นการทำความดีเพื่อเป็นคนดีของพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย และอยากจะแบ่งปันแนวคิดและแนวทางของการทำความดีเพื่อการเป็น “ลูกที่ดี” แก่ทุกคน

Advertisement

ในเรื่องการทำความดีนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นแบบอย่างของการทำความดีได้อย่างงดงามยิ่ง พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540 ความว่า คนเราเมื่อมีความสามารถที่ดีเป็นทุนรอนอยู่ จะไม่มีวันอับจน ย่อมหาทางสร้างตัว สร้างฐานะให้ก้าวหน้าได้เสมอ ข้อสำคัญในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้น จะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความเจริญก้าวหน้า ในระดับสูงขึ้นตามต่อกันไปเป็นลำดับ ผลที่เกิดขึ้นจึงแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน

พระราโชวาท : สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี : ต้นไม้นี่มันคล้ายๆ คน ต้นบานชื่นนี่ ฉันไม่ได้ปลูกด้วยเมล็ด แต่ไปซื้อต้นเล็กๆ ที่เขาเพาะแล้วมาปลูก เมื่อฉันเอามาปลูก ฉันต้องดูแลใส่ปุ๋ยเสมอ เพราะดินที่นี่ไม่ดี… ต้องคอยรดน้ำพรวนดินบ่อยๆ ต้องเอาหญ้าและต้นไม่ที่ไม่ดีออก เด็ดดอกใบที่เสียทิ้ง คนเราก็เหมือนกัน ถ้ามีพันธุ์ดี เมื่อเป็นเด็กก็แข็งแรง ฉลาด… เมื่อพ่อแม่คอยสั่งสอน เด็ดเอาของเสียออก และหาปุ๋ยที่ดีใส่เสมอ เด็กคนนั้นก็จะเป็นที่เจริญและดี เหมือนกับต้นและดอกบานชื่นเหล่านั้น

จากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราโชวาทของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หากประมวลมาเป็นข้อคิด นำไปสู่แนวทางการดำรงชีวิต ข้อคิดเพื่อชีวิตที่ถูกและดีงามพึงปฏิบัติ เพื่อถวายแด่ “พ่อหลวงของคนไทย” ว่า

Advertisement

ชีวิตที่ผ่านมาจวนจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิตของพ่อแม่นั้น ความหวังสูงสุด…อยู่ที่ลูก ความมีกำลังใจสูงสุด…อยู่ที่ลูก ความสุขสูงสุด…ก็อยู่ที่ลูก ลูกจึงเป็นทั้งความหวัง… เป็นทั้งกำลังใจ… เป็นทั้งความสุขของพ่อและแม่

คําพระท่านสอนว่า…ความรักของพ่อแม่เป็นเสมือนดาบสองคม เป็นคุณก็ได้ เป็นโทษก็ได้ ถ้ารักลูกถูกทาง… ก็เป็นคุณแก่ลูก ถ้ารักลูกผิดทาง… ก็เป็นโทษแก่ลูก พ่อแม่จำนวนไม่น้อยได้ทำลายลูกของตนเอง โดยอาศัยความรักที่ผิดทางเป็นมูลฐาน ความภูมิใจของพ่อแม่คือ… เลี้ยงลูกถูกธรรม เพราะลูกคือมรดกชิ้นแรกที่มีชีวิตของพ่อแม่ พ่อและแม่จึงมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงลูกให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข… มีสิ่งใดที่จักทำให้ลูกมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่เป็นสุข พ่อแม่ต้องแนะนำ ตักเตือน สั่งสอน อ้อนวอน แม้กระทั่งคาดโทษหรือลงโทษตามสมควร พ่อแม่ก็ต้องกระทำเช่นนั้น เพื่ออนาคตของลูกทุกคน ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูก ถ้าใครมีแล้วผู้นั้นจักเป็นคนที่กระทำสิ่งใดก็จักประสบความสำเร็จ และเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่นอยู่เสมอ ผู้รับผิดชอบ คือผู้ที่มีความตั้งใจทำงาน ผู้ที่มีความจริงใจในการทำงาน ทำงานตามกำหนด ไม่คั่งค้าง ผู้รับผิดชอบเป็นผู้เตือนตนเองเสมอ ไม่ต้องให้ใครมาเตือน เพราะฉะนั้น ขอให้จงเตือนตนเองอยู่เสมอว่า…เรามีหน้าที่อะไร? เรามีงานอะไรที่ต้องทำ? เมื่อหมั่นเตือนตนเองแล้ว เราต้องทำอย่างสุดความสามารถ และเมื่อทำได้เช่นนี้ เราก็จักเป็นคนที่มีความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ ความสำเร็จ… ก็จักบังเกิดขึ้นแก่ลูกอย่างแน่นอน พ่อจึงหวังว่าข้อคิด คติธรรม คำสอน ที่พ่อได้รวบรวมมาจากความรัก ความห่วงใย และความรู้สึกของพ่อทุกคนบนพื้นพิภพนี้ จักเป็นเสมือนเข็มทิศชี้ทางดำเนินชีวิตให้แก่ลูกของพ่อ เพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิตของลูกในอนาคต…

เริ่มแรก คำสอนของพ่อ ลูกจงจำไว้ว่า… เมื่อมีปัญหา อย่าละทิ้งหน้าที่ เพราะเมื่อไม่ละทิ้งหน้าที่ ปัญหาก็หมดไปด้วยการทำตามหน้าที่ ที่มีปัญหากันอยู่ทุกวันนี้เพราะคนเราละทิ้งหน้าที่ ขอให้ลูกจำบทกลอนนี้ไว้ให้ดีว่า…

หน้าที่นั้น สำคัญอันยอดยิ่ง
หน้าที่นี้ เป็นสิ่งต้องศึกษา
หน้าที่นั้น สำคัญทุกเวลา
หน้าที่เสร็จ เป็นผาสุกแสนสุขใจ

หลวงพ่อพุทธทาสสอนว่าธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ โดยเฉพาะหน้าที่ของคน ไม่ว่าใครหรือผู้ใดก็ต้องมีหน้าที่ของตน และผลแห่งการทำหน้าที่นั้น จักทำให้ก้าวหน้าจะทำให้มีความสุขตามฐานะ จักทำให้มีชีวิตรอดปลอดภัย จักทำให้อยู่ก็อยู่ดีจะตายก็ตายดี เพราะจึงขอบอกให้โลกได้รับรู้ไว้ว่า หน้าที่เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เมื่อลูกพอใจก็อย่าไปอยากได้จนเกินไป เมื่อไม่พอใจ…ก็ไปทำลายสิ่งนั้นเสียต้องฝึกหัดทำใจให้ปล่อยวาง เมื่อปล่อยวางได้ก็ไม่เป็นโรคประสาท และไม่พลาดจากความดี ขอให้ลูกหยุด
“รักสันโดษ” ไว้ที่ว่า… พอใจตามมี ยินดีตามได้ สุขใจตามกำลังของตน หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุสอนว่า…
“สุขได้เมื่อใจพอ”

เมื่อลูกจะทำอะไร เมื่อลูกจะเดินทางไปไหน? ขอให้ลูกเตรียมพร้อมไว้ให้ดี หมายถึงการตระเตรียม ป้องกัน แก้ไข… ไว้ล่วงหน้าในสิ่งที่ตนเองกำลังกระทำอยู่หรือในที่ที่ลูกจะไป… การเตรียมพร้อม… จึงเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างดีที่สุด ภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า… “เตรียมงานก่อนแต่ง เตรียมน้ำก่อนแล้ง เตรียมแบงก์ก่อนเดินทาง”

ลูกรัก…ของพ่อ “การศึกษา” เป็นสิ่งต้องกระทำในทุกเวลา ทั้งเวลาที่เรายังเล็ก หรือมีอายุรุ่นหนุ่มสาว แม้กระทั่งย่างเข้าสู่ในวัยชรา พ่อแม่ขอเตือนลูกว่า จงมีฉันทะและอย่าอวดรู้ การมีใจรักในการเรียนรู้นั้น อย่าอวดรู้ว่าฉันรู้แล้ว ฉันทำเป็น ฉันเก่ง และคิดว่าทำเองได้ เพราะคนอวดรู้คือคนประมาท อันจักนำไปสู่ความเสียหายได้ หลักแห่งความสำเร็จคืออิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ คือความรักในงานนั้น วิริยะ คือความพากเพียรในงาน จิตตะ คือจิตใจจดจ่อกับการงาน วิมังสา คือใคร่ครวญในการทำงาน…

ลูกของพ่อจำไว้ว่า… มีแต่ความอ่อนน้อม ถ่อมตนเท่านั้น ที่จะทำให้บุคคลประสบความสำเร็จได้ ความโอหัง ยกตนข่มท่าน ไม่ทำให้ใครประสบความสำเร็จได้ ถึงจะเกิดมีขึ้นบ้าง ก็มีได้ไม่นาน จึงขอให้ลูกมีความอ่อนน้อมทางกาย อ่อนหวานทั้งวาจา และอ่อนโยนทางจิตใจ เมื่อจะเดินทางต้องเตรียมแผนการสำหรับการเดินทาง ต้องเตรียมเสบียง ต้องเตรียมพาหนะ ต้องเตรียมเงินเตรียมทองสำหรับใช้จ่าย ด้านร่างกายต้องเตรียมให้พร้อม ด้านจิตใจก็เช่นเดียวกัน ยิ่งต้องรู้จักเตรียมใจให้พร้อม คือไม่ประมาท คนโบราณจึงกล่าวสอนไว้ว่า กันไว้ดีกว่าแก้…แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน

ทุกคนเกิดมามีความรักด้วยกันทุกคน เมื่อลูกมีคนรักและถ้าเขามารักลูก ที่รูปสวยของลูก ที่ความร่ำรวยทรัพย์ของลูก ไม่นานเขาก็จะทิ้งลูก แต่ถ้าเขารักลูก…ที่จิตใจงามของลูก เขาก็จะรักลูกยั่งยืนนาน ลูกจงพิจารณาให้ถ่องแท้ ลูกก็เช่นกัน จงอย่ารักใครที่รูปงาม จงรักเขาที่จิตใจงาม จงรักเขาที่เขาเป็นคนดี มีความกตัญญู จงรักที่เขามีความอดทน ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ และถ่อมตน พ่อขอให้ลูกจำไว้ว่า “ความรักที่แท้ ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน”

ท่านเจ้าคุณพระพิพิธธรรมสุนทรกล่าวว่า มีคนหลายคนที่จนเพราะกิน มีคนหลายคนที่เลวเพราะกาม มีคนหลายคนที่ทรามเพราะเกียรติ เพราะฉะนั้นขอให้ลูกจงระวังให้ดี… จงมีกินให้เป็น จงมีกามให้เป็น จงมีเกียรติให้เป็น เมื่อมีเป็น ก็ไม่เป็นทุกข์ ถ้าลูกมีไม่เป็น ก็เป็นทุกข์อย่างแน่นอน ดังคำกลอนที่ว่า…

ยามจะได้ ได้ให้เป็น ไม่เป็นทุกข์
ยามจะเป็น เป็นให้ถูก ตามวิถี
ยามจะตาย ตายให้เป็น เห็นสุขดี
ทำอย่างนี้ ไม่เป็นทุกข์ ทุกวันเลย…

เราคนไทยทั้งประเทศเคยได้ยินพระราชดำรัสของ “ในหลวง” ก้องทั่วเมืองไทย คิดให้ดีก่อนพูด พูดให้ดีก่อนทำ เมื่อพูดไปแล้ว “คำพูด พูดแล้วเป็นนายเรา” เมื่อลูกรู้จักคิด รู้จักพูด รู้จักทำอะไร?… ขอให้มองข้างหน้า มองให้ยาว มองถึงอนาคต…มองการณ์ไกล เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นได้ “ต้องเป็นผู้มองการณ์ไกล” คนมองสั้น มองใกล้ ทำสิ่งใดก็จะล้มเหลว จึงขอให้ลูกจำไว้ว่า… “ยืนตรง มองไกล ใจกว้าง” เป็นหนทางแห่งความสำเร็จ

ท้ายสุดนี้ คนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคน ขอรวมพลังใจเป็นหนึ่งเดียว : ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม และขอปฏิญาณตนว่า “เรา” จะเป็นคนดีของ “พ่อ” ของแผ่นดิน ด้วยการ “ทำดี” เพื่อพ่อ ตลอดไป…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image