คุณพิชัย รัตตกุล บอกว่า การได้เป็นลูกเสือ เป็นความภาคภูมิใจ และดีใจที่มีโอกาสได้เดินสวนสนาม 2 ครั้งเป็นความรู้สึกภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทยในผืนแผ่นดินไทย ความรักชาติ รักพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน
หลังจากนั้น พิชัย รัตตกุล เข้าสู่งานการเมืองจากการชวนของ คุณควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งสโมสรโรตารีที่ทั้งสองคนเป็นสมาชิกได้เดินทางไปเที่ยวเขาพระวิหารด้วยกัน เป็นช่วงที่ผมได้สนิทกับท่าน และมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดตามลำพัง
ท่านพูดกับผมว่า “พิชัยมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เถอะ”
…ผมไม่ได้ใช้เวลาคิดมากนัก นอกจากจะขอบคุณคุณควงในฐานะนักการเมือง และนักต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยแล้ว เรายังเป็นสมาชิกสโมสรโรตารีซึ่งมีอุดมการณ์ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
ผมตอบรับคุณควง และก็เข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากเข้าเป็นสมาชิกโรตารีไม่กี่เดือนในปี 2501 นั่นเอง
กระทั่งคุณควงถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2511 หลังจากนั้นมีการประกาศและบังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2511 ให้มีการเลือกตั้งปี 2512 …เมื่อมีการประกาศวันเลือกตั้งคุณหญิงเลขา อภัยวงศ์ ภริยาคุณควง ไปตามหาผมที่บริษัทเยาวราช ซึ่งตั้งอยู่วังบูรพา ท่านเดินขึ้นบันไดไป 3 ชั้น …พอเจอหน้ากัน คุณหญิงเลขาพูดเตือนผมว่า “คุณพิชัย คุณควงตายไปแล้ว ตอนนี้เราจวนจะมีสภา อย่าลืมเรื่องที่เคยสัญญาไว้กับคุณควง”…
ผมสะดุ้ง คาดไม่ถึงว่าท่านจะพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะ… คุณหญิงมาหาพูดกับผม3 ครั้ง ทำให้ผมมีไฟขึ้นมา ผมเลยบอกคุณหญิงไปว่า “ตกลง ผมลง ผมจะสมัครผู้แทน…” ในที่สุดผมก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้แทนราษฎร ในปี 2512
เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้แทนราษฎร 9 สมัย เป็นรัฐมนตรี ร่วมงานกับนายกรัฐมนตรี 4 คน กระทั่งได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานการเมือง
เมื่อวางมืองานทางการเมือง ก็ได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานการกุศล โดยเฉพาะกับสโมสรโรตารี
ถึงวันที่มีการเลือกตั้งประธานโรตารีสากล ซึ่งกรรมการการเลือกตั้ง 17 คน ต้องลงมติเป็นเอกฉันท์
วันนั้นผมเข้านอนตามปกติ หลับไปประมาณเที่ยงคืน พอประมาณตี 3 เศษในประเทศไทย แต่เป็นเวลาบ่าย 3 โมงของนครชิคาโก (ที่มีการเลือกตั้ง) โทรศัพท์ในบ้านก็ดังขึ้น ผมงัวเงียขึ้นรับสาย แล้วมีเสียงพูดแนะนำตัวเองว่าเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกประธานโรตารีสากล
…บัดนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ผมเป็นประธานโรตารีสากล…เมื่อผมตอบตกลงทีละข้อว่า “ผมพร้อม” เขาก็บอกว่า บัดนี้ผมเป็นประธานโรตารีสากล แล้วเขาพร้อมด้วยกรรมการทั้ง 16 คน ก็พูดแสดงความยินดีทีละคน…
เวลาล่วงเลยมาจนเกือบตี 4 ในบ้านเรา…แล้วผมก็กลับเข้านอน
…ก่อนหน้าในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2543 ที่จะเดินทางไปรับหน้าที่ประธานโรตารีสากล ผมก็ขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูลลาไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา พระองค์ท่านทรงโปรดให้เข้าเฝ้าฯ ผมกราบบังคมทูลแล้ว ไม่นึกว่าพระองค์จะทรงตรัสว่า
“ก็ดีใจที่จะไปรับหน้าที่นี้ นับเป็นเกียรติแก่ตัวเองและประเทศชาติ โดยเฉพาะเป็นคนไทยคนแรกที่จะทำหน้าที่นี้ แต่เมื่อหมดภาระทางโรตารีที่สหรัฐแล้ว กลับมาบ้านเรา ถึงแม้ไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ถ้ามีอะไรจะทำเพื่อช่วยบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ”
จากพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน ทำให้ผมเกิดสำนึกและคิดอยู่เสมอว่า
“ผมอาจวางมือทางการเมืองได้ แต่ผมจะต้องไม่วางมือจากการช่วยเหลือประเทศชาติ!”
เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์