กองทุนการศึกษาโรงเรียนคุณธรรม โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

“เด็กๆ นอกจากจะต้องเรียนรู้ความรู้แล้ว ยังต้องหัดทำการงานและทำความดีด้วย เพราะการทำงานจะช่วยให้มีความสามารถ มีความขยัน อดทน พึ่งตนเองได้ และการทำความดีนั้นจะช่วยให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งป้องกันตนไว้ไม่ให้ตกต่ำ”

พระบรมราโชวาทพระราชทานเพื่อเชิญพิมพ์ในหนังสือวันเด็กประจำปี 2530 จากหนังสือ คำพ่อสอน เล่ม 1 หน้า 16

“1 ครูที่แท้จริง คือ มีความรักและเมตตาต่อเด็ก

2 ครูต้องสอนให้นักเรียนมีน้ำใจ เช่น คนเก่งช่วยติวเพื่อนที่เรียนล้าหลัง มิใช่สอนให้เด็กคิดแต่จะแข่งขันกับเพื่อนเพื่อให้ตนเองได้ลำดับดีๆ เช่นสอบได้ที่หนึ่งของชั้น แต่ต้องสอนให้นักเรียนแข่งขันกับตนเอง”

Advertisement

กระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 จากบันทึกของ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี

ครับ ผมอ่านพบในเอกสารประกอบการประชุมสร้างความเข้าใจ และกำหนดแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา รุ่นที่ 3 2557 เลยคัดลอกมาเสนออีกครั้ง สาระเกี่ยวข้องทั้งนักเรียน ครู และผู้บริหารซึ่งเป็นหัวใจหลักของการศึกษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือด้านการศึกษาตลอดมา ทั้งในรูปของมูลนิธิ กองทุนต่างๆ อาทิ มูลนิธิช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาขาดแคลนทุนทรัพย์ มูลนิธิพระดาบส ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ทุนเล่าเรียนหลวง ทุนมูลนิธิภูมิพล ทุนการศึกษาสงเคราะห์ในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทุนมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ทุนนวฤกษ์ ทุนการศึกษาพระราชทานแก่นักเรียนเฉพาะกรณี จนถึงโครงการกองทุนการศึกษา

Advertisement

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 มีพระราชกระแสรับสั่งให้ประธานองคมนตรีและองคมนตรีดำเนินการโครงการกองทุนการศึกษา ช่วยเหลือโรงเรียนสามัญศึกษาและวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้งในสังกัดของรัฐและเอกชนที่ตั้งอยู่ห่างไกลทุรกันดาร ขาดแคลนปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเรียนการสอน ให้เด็กที่ยากจนและด้อยโอกาสได้รับทุนการศึกษาพระราชทานเพื่อศึกษาต่อจนสุดความสามารถของเด็กนักเรียน ทุนพระราชทานต่อเนื่องมาจนถึง พ.ศ.2559

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ประธานคณะกรรมการอำนวยการ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมจริยธรรม คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ประธานอนุกรรมการประสานงาน ใช้ทำเนียบองคมนตรี เป็นที่ตั้งสำนักงานโครงการ

แนวทางการดำเนินงานมุ่งเน้นให้เด็กนักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม โดยสนับสนุนช่วยเหลือทั้งเด็กนักเรียน ครู ผู้บริหาร และโรงเรียน

ปรับปรุงด้านกายภาพที่จำเป็น ซ่อมสร้างอาคารเรียน ห้องสมุด เสริมสร้างด้านสุขอนามัยและสภาพแวดล้อม สร้างห้องน้ำ ถนน ปรับปรุงระบบน้ำ ไฟ อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ หนังสือเรียน สื่อการสอน DLTV

ด้านนักเรียนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาในโครงการแห่งละ 2 คน เป็นทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี ดำเนินการแล้ว 4 รุ่น โรงเรียน 155 แห่ง นักเรียนที่รับทุน 320 คน

ด้านครู เนื่องจากโรงเรียนมีปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอน ครูหมุนเวียนในอัตราสูง โครงการร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่นของโรงเรียน คัดเลือกนักศึกษาที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่ขาดแคลนครู หรือมีภูมิลำเนาอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนครูและกำลังศึกษาในหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต ศึกษาศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 4 และปีที่ 5 เข้ารับทุนการศึกษาพระราชทาน โดยมีเงื่อนไขให้ผู้รับทุนกลับไปสอนหนังสือในโรงเรียนที่มีปัญหา

หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อหนึ่งกำหนดว่า เป็นผู้มีความประพฤติดี ปฏิบัติตนอยู่ในความดีและมีคุณสมบัติแห่งความเป็นครูที่ดี หากบกพร่องถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นนักศึกษาทุนพระราชทาน มีนักศึกษารับทุนที่สำเร็จการศึกษาและเป็นครูอัตราจ้างแล้วกว่า 13 คน

ขณะเดียวกันพัฒนาครู โดยจัดอบรมเสริมความรู้ทางวิชาการและเทคนิคการสอนใหม่ เช่น เทคนิคการสอนของครูมัธยมศึกษาวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ อบรมผู้บริหาร ครู และศึกษานิเทศก์ เรื่องการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด BBL จัดอบรมครูปฐมวัย ศึกษาดูงานด้านจิตอาสาและโรงเรียนต้นแบบคุณธรรม เปิดสอนหลักสูตร ปวช. ควบคู่กับหลักสูตรมัธยมศึกษาสายสามัญ จัดการศึกษาทวิภาคีในสถานประกอบการให้นักศึกษาได้ฝึกงานในสภาพจริงและมีรายได้ระหว่างเรียน

จากผลการดำเนินงานซึ่งมุ่งปลุกจิตวิญญาณความดีงาม ความเป็นครู โรงเรียนคุณธรรม ภายใต้บรรยากาศ ครูรักเด็ก เด็กรักครู ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษา การทดสอบความสามารถเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งยืนยันแนวทางการพัฒนา เมื่อเป็นเด็กดี ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย สมาธิ ความตั้งอกตั้งใจในการศึกษาก็จะตามมา ในที่สุดผลการเรียนดีขึ้น ครูกระตือรือร้น เด็กกระตือรือร้น สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าชื่นชม

ทรงทำให้เป็นตัวอย่างทั้งแนวคิดและการบริหารจัดการ หลักการสำคัญที่มีพระราชกระแสรับสั่ง คือ ให้ดำเนินการแบบปิดทองหลังพระ แต่ดำเนินการให้เร็ว ดำเนินการในรูปแบบของเอกชน และไม่ยึดระเบียบราชการมากนัก แต่สามารถตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image