ภราดรภาพในยามสูญเสีย : คอลัมน์คนตกสีที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง โดย กล้า สมุทวณิช

คงไม่ต้องกล่าวซ้ำว่าด้วยสาเหตุใดช่วงเวลากว่าสัปดาห์ที่ผ่านมานี้จึงเป็นช่วงเวลาอันยาวนานเป็นพิเศษด้วยความโทมนัสของประชาชนคนไทยผู้จงรักภักดีทั่วแผ่นดิน

ดวงใจแห่งปวงชนชาวไทยทั้งหลายนั้น ล้วนถูกกระทบกระเทือนด้วยข่าวร้ายที่สุดในชีวิตจนบอบช้ำด้วยความสูญเสียกันถ้วนหน้า และต่างอยู่ในสภาพที่แบกรับทุกข์กันไว้หนักอึ้งไม่แพ้กัน

กระนั้นแม้ประเทศไทยขณะนี้อยู่ในช่วงแห่งความทุกข์ระทม ความอาดูรปกคลุมไปทั่วบรรยากาศมานับแต่วันแรกที่ได้รับทราบข่าวร้ายของประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์อันมืดหม่นนี้ เราก็ได้เห็นภาพบางภาพที่อาจจะห่างหายไปนานของคุณงามความดีบางอย่างที่อาจจะหลบซ่อนอยู่ในน้ำจิตน้ำใจของคนไทยทั้งหลาย ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะหลับไหลลืมเลือนไปด้วยความขัดแย้งนานา

แต่เมื่อถึงคราวที่อาจเรียกได้ว่าเกิด “ทุกข์ของแผ่นดิน” แล้ว ความดีงามที่ยังคงมีอยู่ในจิตใจของชาวไทยทุกคนนั้นก็ได้ตื่นขึ้นมา สิ่งนั้นคือภราดรภาพในหมู่ประชาชนคนไทยด้วยกัน

Advertisement

ภราดรภาพที่หมายถึงความเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งก็สอดคล้องกับที่คนไทยผู้จงรักภักดีทั้งหลาย เรียกพระองค์ผู้ทรงสถิต ณ แดนสรวงว่า “พ่อ” และถือว่าเราเหล่าราษฎรทั้งหลายคือ “ลูกของพ่อ”

เช่นนี้ราษฎรทั้งมวลจึงเท่ากับนับได้ว่าเป็นพี่น้องกันโดยปริยาย

เราได้เห็นภาพเช่นนี้ของคนไทยที่แสดงถึงความเป็นพี่เป็นน้องกันที่ห่างหายไปนานได้ในทุกที่ทุกแห่ง ทั้งที่ประจักษ์ด้วยตนเอง และจากคำเล่าขานผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในงานพระราชพิธีเคลื่อนพระบรมศพ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม และการมาร่วมลงนามถวายความอาลัยและเคารพพระบรมศพตลอดจนช่วงระยะเวลาร่วมสัปดาห์ผ่านมา

Advertisement

เริ่มตั้งแต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รับผู้โดยสารที่จะมาร่วมแสดงความอาลัยโดยไม่คิดเงิน จนนายกรัฐมนตรีนำไปเล่าไว้ในการแถลงทางโทรทัศน์ หรือที่มีผู้ได้พบเห็นว่ารถประจำทางบางคันตระเวนรอรับผู้โดยสารที่ยังตกค้างให้หมดจากบริเวณท้องสนามหลวงและโดยรอบเสียก่อนในช่วงกลางดึกหลังเลิกพิธี เพราะเกรงว่าผู้คนจะไม่มีรถกลับบ้านกัน

ภาพของผู้คนที่ร่วมใจกันนำอาหารและเครื่องดื่มไปแจกจ่ายให้ผู้คนที่ไปร่วมแสดงความอาลัยที่บริเวณท้องสนามหลวง ทั้งเมื่อเห็นว่ามีคนอีกมากที่เดินทางจากต่างจังหวัดมาเพื่อแสดงความเคารพพระบรมศพที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ก็มีการแยกย้ายแบ่งกระจายกันไปแจกจ่ายกันที่จุดนั้นเป็นการเพิ่มเติมด้วย

และเรายังต้องกล่าวถึงผู้คนที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช่น ตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แม้ว่าตนเองก็เหน็ดเหนื่อยทั้งกายจนแทบจะยืนไม่อยู่ ทั้งจิตใจที่แตกสลายร้าวรานเช่นเดียวกับพี่น้องชาวไทยคนอื่นๆ แต่ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง หรือคุณหมอหลายคนที่ปวารณาตัวรักษาคนไข้โดยไม่คิดเงินเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พ่อค้าแม่ค้าอีกหลายรายที่ยังคงยืนยันที่จะขายเสื้อดำชุดไว้ทุกข์ให้แก่ประชาชนทั่วไปในราคาปกติ หรือขายให้ในราคาพิเศษสำหรับผู้ยากไร้

รวมถึงรัฐบาลที่เข้าใจถึงความโศกเศร้าเสียใจพร้อมกับความจำเป็นของประชาชน ที่แม้จะต้องดำเนินการให้มีการไว้ทุกข์อย่างสมพระเกียรติ แต่ก็ยังมีมาตรการรองรับที่ยืดหยุ่นพอสมควร เพื่อให้การขับเคลื่อนของประเทศดำเนินต่อไปโดยไม่สะดุดหยุดลงหรือมีผลกระทบต่อผู้คนหรือการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมจนเกินไป แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งการแสดงความโศกเศร้าของประเทศชาติและสังคมที่มีต่อความสูญเสียได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง เช่น การกำหนดช่วงเวลาไว้ทุกข์ที่เหมาะสม การผ่อนปรนเรื่องการออกอากาศรายการปกติของสถานีโทรทัศน์และวิทยุ การให้คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไปหากต้องจัดงานมงคลในช่วงนี้ หรือการอนุโลมรูปแบบการแต่งกายไว้ทุกข์ได้ตามความจำเป็นของแต่ละคน

สำหรับบางอาชีพที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น นักแสดง นักดนตรี ในสถานบันเทิงต่างๆ ก็ปรากฏว่ามีการแสดงความจำนงจากสถานบันเทิงหลายแห่งว่ายังยินดีจ่ายเงินค่าจ้างให้บางส่วน หรือแสดงความประสงค์ยินดีเลี้ยงอาหารฟรี สำหรับผู้ที่ต้องเว้นวรรคจากการทำงานและไม่มีรายได้ในช่วงนี้

อีกยังประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่มามัวจับผิดกันเรื่องใครไว้ทุกข์ไม่ไว้ทุกข์ หรือใครไว้ทุกข์อย่างไร เข้าใจในข้อจำกัดและปัจจัยของเพื่อนร่วมชาติ บ้างก็ช่วยนำเสื้อดำสำหรับการไว้ทุกข์หรือริบบิ้นสีดำมาช่วยแจกจ่ายให้แก่ผู้ขัดสนในปัจจัยแต่มีเจตนารมณ์เช่นเดียวกันที่จะแสดงออกถึงทุกข์โทมนัสในหัวใจ

เราไม่ปฏิเสธว่าอาจจะมีผู้คนบางส่วนที่ความโศกเศร้าของพวกเขาล้นเกินไปจนละเมิดต่อผู้อื่นอย่างเบาบ้างหนักบ้าง ดังที่มีการรายงานกันมาหลายกรณี แต่ก็ต้องกล่าวด้วยว่าข้อเท็จจริงคือคนส่วนใหญ่ในสังคมที่ได้เห็นกันก็ไม่เป็นเช่นนั้น และเมื่อมีเหตุการณ์ละเมิดหรือกระทบกระทั่งกัน เพื่อนร่วมสังคมส่วนใหญ่ก็สมควรต้องช่วยกันให้สติแก่ผู้ที่อาจจะแสดงความโศกเศร้าล้นเกินเช่นนั้นให้เคารพต่อสิทธิและความโศกเศร้าที่แตกต่างของคนอื่นด้วย

เมื่อพิจารณาโดยรวมจึงอาจกล่าวได้ว่า ในความสูญเสีย ท่ามกลางความมืดหม่นของจิตใจและบรรยากาศ ยังมีแสงอันเรืองรองออกมาจากจิตใจของผู้คนในสังคมที่แสดงต่อกัน ให้เรามีความหวังว่าประเทศนี้จะดำเนินต่อไปอย่างสงบร่มเย็นและมีความสุขความเจริญเช่นเดียวกับรัชสมัยที่เพิ่งล่วงไป

โดยมีแสงแห่งภราดรภาพที่ยังไม่เลือนลับหายไปจากหัวใจของชาวไทยทั้งหลาย จะส่องสว่างนำทางให้คนในชาติก้าวเดินผ่านห้วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image