| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
ประเทศสหภาพโซเวียตเป็นประเทศอภิมหา อำนาจในอดีต สถาปนาขึ้นใน พ.ศ.2465 และล่มสลายลงเมื่อ พ.ศ.2534 รวมอายุประเทศสหภาพโซเวียตร่วม 64 ปี ก็สิ้นสุดลง สหภาพโซเวียตได้แตกออกเป็น 15 ประเทศ โดยมีประเทศรัสเซียเป็นผู้สืบสิทธิของสหภาพโซเวียตมาในปัจจุบัน
ประเทศสหภาพโซเวียตเป็นรัฐสังคมนิยมที่มีพื้นที่ทั้งหมด 22,402,200 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียว
ที่ปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีกรุงมอสโกเป็นเมืองหลวงแบ่งออกเป็น 15 สาธารณรัฐได้แก่ รัสเซีย, ยูเครน, เบลารุส, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, มอลโดวา, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, อาร์
เซอร์ไบจาน, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, เติร์ก เมนิสถาน, คีร์กีซสถาน และทาจิกิสถาน ในทาง
นิตินัยแล้วเป็นการปกครองแบบกระจายอำนาจ แต่ในทางพฤตินัยแล้วเป็นการรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง คือที่กรุงมอสโกนั่นเอง
สำหรับผู้ปกครองสูงสุดของสหภาพโซเวียตนั้นคือ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตซึ่งมีการสถาปนาตำแหน่งนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2465 โดยมีนายโจเซฟ สตาลิน เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตคนแรก และดำรงตำแหน่งนี้ยาวนานที่สุดถึง 30 ปี เมื่อเขาสิ้นชีวิตลงเมื่อ พ.ศ.2495 ที่น่าสนใจที่สุดคือ นายโจเซฟ สตาลิน ไม่ใช่คนรัสเซียนะครับ หากแต่เป็นคนจอร์เจียแท้ๆ เลยทีเดียว
ส่วนเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตคนต่อมาคือ นายนิกิตา ครุสชอฟ ชาวรัสเซีย แต่ไปเติบโตที่แคว้นดอนบาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูเครนในปัจจุบัน และได้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งยูเครนอยู่ถึง 11 ปี จึงมีความผูกพันกับประเทศยูเครนมากถึงขนาดโอนดินแดน
ไครเมียของรัสเซียให้กับยูเครนเมื่อ พ.ศ.2497 เมื่อนายครุสชอฟดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต
สำหรับเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตคนสืบต่อจากนายครุสชอฟคือ นายเลโอนิด เบรจเนฟ ผู้เป็นชาวยูเครนแท้ๆ เกิดที่เมืองกาเมียนสแกที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศยูเครนบนฝั่งขวาของแม่น้ำนีเปอร์ นายเบรจเนฟดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตอยู่นานถึง 18 ปี จนเขาสิ้นชีวิตไปใน พ.ศ.2525
ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตสิ้นสุดลงพร้อมกับการล่มสลายของประเทศสหภาพโซเวียตเมื่อ พ.ศ.2534 เพียง 9 ปี หลังจากที่นายเบรจเนฟเสียชีวิตไป ซึ่งพอสรุปได้ว่าผู้ปกครองสูงสุดของอดีตประเทศสหภาพโซเวียต 6 คนใน 64 ปีนั้น มี 2 คนที่เป็นคนต่างชาติ คือ นายสตาลินเป็นคนจอร์เจีย และนายเบรจเนฟเป็นคนยูเครน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ปกครองประเทศสหภาพโซเวียตรวมกันถึง 48 ปีเลยทีเดียว
ครับ! ใน พ.ศ.2551 รัสเซียก็ทำสงครามกับจอร์เจียโดยใช้เวลาเพียง 5 วัน รัสเซียก็มีชัยชนะยึดครองดินแดนบางส่วนของจอร์เจียไป และใน พ.ศ.2557 รัสเซียก็บุกเข้าไปในยูเครนและผนวกแคว้น
ไครเมียไปเป็นของรัสเซียพร้อมทั้งส่งทหารเข้าไปรบในแคว้นดอนบาสซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อช่วยพวกแบ่งแยกดินแดนที่ภูมิภาคโดเนตสค์และลูฮานสค์ ซึ่งอยู่ในแคว้นดอนบาสตั้งตัวเป็นเอกราชได้สำเร็จโดยง่าย
นับว่าเป็นเรื่องประหลาดที่ประเทศของผู้ปกครองสูงสุดของสหภาพโซเวียต 2 คน ซึ่งปกครองสหภาพโซเวียตอย่างเด็ดขาดมาร่วมครึ่งเวลาของการดำรงอยู่ของประเทศสหภาพโซเวียตที่เป็นคนจอร์เจียและคนยูเครน กลับถูกประเทศรัสเซียทำสงครามรุกรานเข้าไปยึดครองดินแดน และถึงกับพยายามจะยึดครองประเทศภายในเวลา 10 กว่าปี หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
คราวนี้ขอรายงานความคืบหน้าของสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด รัสเซียถอนทหารออกจากดินแดนทางภาคเหนือของยูเครนกลับคืนสู่พรมแดนรัสเซียหมดแล้ว เพื่อสนธิกำลังทุ่มเทรุกคืบหน้าเข้าไปในดินแดนทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครนซึ่งเป็นการดวลปืนใหญ่กันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย แบบว่ารัสเซียคืบหน้าไปได้ช้ามาก เนื่องจากภูมิประเทศของยูเครนเป็นที่ราบและรัสเซียสูญเสียยานเกราะไปแล้วเป็นจำนวนมาก จึงขยาดไม่กล้าตะลุยด้วยกองทัพรถถังอีกต่อไป ซึ่งการดวลปืนใหญ่นั้นฝ่ายรัสเซียได้เปรียบเป็นอย่างมากเนื่องจากปืนใหญ่ของรัสเซียยิงได้ไกลกว่าปืนใหญ่ของยูเครนร่วม 10 กิโลเมตร แถมรัสเซียมีปืนใหญ่มากกว่ายูเครนร่วม 10 เท่า ดังนั้น รัสเซียสามารถระดมยิงปืนใหญ่มาที่แนวรบของยูเครนได้อย่างสะดวกแต่ทางฝ่ายยูเครนกลับยิงไม่ถึงแนวรบของรัสเซีย มิหนำซ้ำรัสเซียยังระดมขีปนาวุธและส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดมาถล่มแนวรบของกองกำลังยูเครนทุกวัน
ส่วนทางยูเครนต้องคอยปืนใหญ่ M777 ที่สามารถยิงได้ไกลถึง 40 กิโลเมตรอย่างแม่นยำด้วยระบบเรดาร์ที่สหรัฐอเมริกากำลังส่งมา 90 กระบอก แต่เพิ่งมาถึงแนวรบด้านตะวันออกเพียง 1 กระบอกเท่านั้น คงต้องคอยอีกสักพักก่อนที่แนวรบทางด้านตะวันออกจึงจะเปลี่ยนแปลง
