เดินหน้าชน : งบวันเกิดขอทาน

เริ่มเปิดฉากแล้วกับกฎหมายสำคัญของรัฐบาล “ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566” ที่
สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาในวาระแรก ระหว่าง 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน

ที่ว่าเป็นกฎหมายสำคัญ ไม่เพียงเป็นกลไกหลักในการบริหารประเทศ เพราะหากจับพลัดจับผลูเกิดอุบัติเหตุการเมืองไม่ผ่านในชั้นรับหลักการ รัฐบาลอาจต้องยุบสภาม้วนเสื่อกลับบ้าน ไปนอนรอเลือกตั้งใหม่

แน่นอนว่าเกมนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านขู่คำรามมาตั้งแต่ปากซอย อย่างไรเสียจะไม่ยอมยกมือให้

“สุทิน คลังแสง” ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เปรียบเปรยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้เสมือน “ขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด” ทั้งที่ประเทศกำลังยากจน ฐานะการคลังถดถอย แต่การจัดสรรงบไม่มีช่องทางที่จะสร้างรายได้ ไร้การกระตุ้นอัดฉีดเศรษฐกิจ

Advertisement

ตบท้ายด้วยเป็นการจัดงบกระจายไปตามพรรคร่วมรัฐบาล ซื้อใจให้ร่วมหัวจมท้ายกันต่อไป

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แห่งพรรคก้าวไกล มองเห็นเป็น “ช้างป่วยปรับตัวไม่ได้” ทั้งที่ประเทศโดนพายุกระหน่ำมาตลอด 3-4 ปี กำลังเดินเข้าสู่ช่วงฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิดที่มีแนวโน้มคลี่คลาย แต่รัฐบาลยังคงจัดงบแบบเดิมๆ ไม่ก้าวไปข้างหน้า

ย้อนไปดูร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ถูกจัดสรรอยู่ใน 3 ก้อนใหญ่คือ

Advertisement

-งบรายจ่ายประจำ จำนวน 2,396,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 75 ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด เป็น
ค่าใช้จ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ประเภทค่าจ้าง เงินเดือน ค่าครุภัณฑ์ต่างๆ

-งบเพื่อการลงทุน 695,077 ล้านบาท หรือร้อยละ 21

-งบกลาง 590,470 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.5 เป็นเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือ แก้ไข หรือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน หรือกรณีที่เกิดความเสียหายในลักษณะต่างๆ เช่น มีเหตุที่เกิดจากอุทกภัย ภัยแล้ง ภัยธรรมชาติอื่นๆ

มีข้อสังเกตตลอดมาว่า เงินที่ถูกกันไว้ในงบกลางสูงลิ่วร่วม 6 แสนล้านบาท มีความจำเป็นเพียงใด ที่สำคัญเป็นงบประมาณในอำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งจ่าย โดยขาดการตรวจสอบกลั่นกรอง มีความเหมาะสมเพียงใด

ขณะที่งบเพื่อการลงทุนราว 7 แสนล้านบาท ทั้งที่มีความจำเป็นเพื่อพัฒนาประเทศ จัดทำโครงสร้าง
พื้นฐานรองรับการลงทุน การขยายตัวของเศรษฐกิจ เสริมสร้างความกินดีอยู่ดีของประชาชน กลับถูกจัดสรรอย่างไม่ได้สัดส่วน

ยิ่งเมื่อตรวจสอบงบประมาณที่จะลงไปตามกระทรวงต่างๆ ยังพบว่ากระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรสูงถึง 197,292 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 รองจากกระทรวงการคลัง ท่ามกลางกระแสข่าวจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เทียบกับสถานการณ์ประเทศปัจจุบันที่ต้องการเม็ดเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังความป่วยไข้จากโควิด มีความจำเป็นจริงหรือ

ข้อทักท้วงการจัดทำงบประมาณก็ฟังดูมีเหตุผล

ถึงอย่างนั้นการเดินหน้าของพรรคร่วมฝ่ายค้านมุ่งหน้าคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ ลำพังเสียง ส.ส.ที่มีในมือขณะนี้คงยากบรรลุเป้าหมาย

ประเด็นน่าสนใจก็คือ ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2 ปีที่่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านอย่างมากเพียงงดออกเสียง แต่ครั้งนี้จะยกมือไม่เห็นด้วยตั้งแต่วาระแรก

หากเป็นเช่นนั้น ในชั้นตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ ฝ่ายค้านจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ หากเข้าร่วมจะเป็นการย้อนแย้งหรือไม่ ในเมื่อตัวเองยกมือคัดค้านไปแล้ว

และหากไม่เข้าร่วม จะมิยิ่งเข้าทางฝ่ายรัฐบาลในการจัดทำงบประมาณชนิดราบรื่นไร้รอยต่อหรือไม่

สัญญา รัตนสร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image