ก้าวตามพระราชดำรัส โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

พร้อมๆ กับบรรยากาศความรักอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพสกนิกรทั่วประเทศยังคงน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน รวมทั้งยังหลั่งไหลสู่สนามหลวง รอบพระบรมมหาราชวัง อย่างไม่ขาดสายในทุกๆ วัน

ที่ควบคู่กันไปคือ การเน้นย้ำเป็นเสียงเดียวกันของคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่ว่าจากนี้ไปจะขอก้าวตามรอยพระราชดำรัสอันล้ำค่า เพื่อกระทำความดี สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมสืบไป

หรือดังที่ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า

“อย่างไรก็ตาม เมื่อเศร้าเสียใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว ขอให้มีสติ กลับมาทบทวนพระบรมราโชวาทของพระองค์ และหากดำรงตนให้สอดคล้องกับพระบรมราโชวาทอย่างดีที่สุดเพื่อตอบแทนพระองค์ ซึ่งหากคนไทยช่วยกันทำแบบนี้แล้ว ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้าขึ้น หากพระองค์ทรงทราบก็จะดีพระทัยอย่างมาก เรียกได้ว่าแปรเปลี่ยนความเศร้าเสียใจเป็นพลังสามัคคี”

Advertisement

ทั้งพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสในวาระต่างๆ ซึ่งมีการรวบรวมเอาไว้อย่างครบถ้วนเป็นทางการ

รวมทั้งในห้วงระยะนี้ มีการนำมาเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง

เพื่อให้คนไทยทั่วไปได้ร่วมกันทบทวนศึกษา เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำ ในอาชีพการงาน อย่างถูกต้องดีงามตามแนวทางที่พ่อของแผ่นดินสอนเอาไว้

Advertisement

ดังคำกล่าวที่ว่า “ทรงสถิตในดวงใจราษฎร์”

เท่ากับว่าพระองค์ท่านจะอยู่ในใจของพวกเราไปตลอดกาล ด้วยการยึดมั่นก้าวตามแนวทางของพระองค์

พระราชดำรัสที่มักนำมาเน้นย้ำกันในระยะนี้ คือเรื่องความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียว กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง

เพราะทั่วทุกคนในสังคมไทยคาดหวังว่า จากนี้ไปสักระยะหนึ่ง เมื่อบ้านเมืองเดินหน้าต่อไป เราก็จะเข้าสู่ช่วงการเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาล คสช.ยืนยันว่า จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีก

ยืนยันตามโรดแมป คือ ปลายปี 2560

นั่นเท่ากับว่า บรรยากาศการบ้านการเมืองจะกลับมาปกคลุมทั่วสังคมไทยอีกครั้ง

ทั่วทั้งสังคมไทยจึงคาดหวังว่า ด้วยพลังแห่งความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช การยึดมั่นในพระราชดำรัส

การเมืองไทยในภายภาคหน้า ควรจะเข้าสู่ช่วงปรองดองได้อย่างแท้จริงเสียที

แต่นั่นต้องประกอบด้วยความร่วมมือกันของทุกๆ ฝ่าย

พรรคการเมืองและนักการเมือง ไม่ใช่จำเลยเพียงฝ่ายเดียว แน่นอนว่าฝ่ายนี้ก็คงต้องทบทวนตัวเอง ลดละเลิกในสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด ทั้งเรื่องการใช้อำนาจมิชอบ การทุจริตคอร์รัปชั่น

แต่ฝ่ายอื่น ก็ต้องทบทวนตัวเองด้วยเช่นกัน

ข้อเคลือบแคลงที่มีมาตลอด ถึงการใช้อำนาจนอกระบบแทรกแซงกระบวนการต่างๆ

ดังข้อครหาที่ว่า มี 2 มาตรฐาน

การใช้ทุกกลไกไล่ล่าพรรคหนึ่งนักการเมืองฝ่ายหนึ่ง อย่างไม่เป็นธรรม ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา

ดังนั้นการก้าวตามรอยพระราชดำรัสอันมากคุณค่าและเป็นแนวทางให้เกิดประโยชน์สุขแก่บ้านเมืองอย่างแท้จริง

ต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายทุกด้านอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image