สุจิตต์ วงษ์เทศ : พระเจ้าตาก ยกจากอยุธยา ไปทางด่านกบแจะ ปราจีนบุรี ก่อนตั้งหลักที่เมืองจันทบุรี แล้วสถาปนากรุงธนบุรี

รูปปั้นพระเจ้าตาก อยู่ในศาลพระเจ้าตากฯ พระราชวังเดิม ธนบุรี

กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าช่วงสงกรานต์ พ.ศ. 2310

แต่ก่อนเสียกรุงราว 3 เดือน พระเจ้าตากเมื่อยังเป็นพระยาตาก ได้พาสมัครพรรคพวกไพร่พลไทยจีนจำนวนหนึ่ง ตีฝ่ากองทัพอังวะมุ่งหน้าไปทางชายทะเลตะวันออก

พระยาตากไม่ใช่ทั้งคนแรกและคนสุดท้าย ที่ได้ละทิ้งหน้าที่หลบหนีไป เพราะระบบการเมืองและสังคมของราชอาณาจักรอยุธยาได้ล่มสลายลงก่อนที่อังวะจะยกเข้าตีจนกรุงแตก

แต่นานไม่ถึง 9 เดือนหลังจากเสียกรุง พระยาตากได้ประกาศพระองค์เป็นพระมหา กษัตริย์ ที่คนทั่วไปเรียกกันภายหลังว่าพระเจ้าตาก ยกกองทัพเรือจากเมืองจันทบุรีไปยึดคืนกรุงศรีอยุธยา แล้วฟื้นฟูราชอาณาจักรอยุธยาขึ้นมาใหม่ ชื่อ กรุงธนบุรี

Advertisement

เส้นทางพระเจ้าตากจากอยุธยาไปเมืองจันทบุรี

วันเสาร์ ตอนเที่ยงคืน ปลายปี พ.ศ. 2309 (ก่อนกรุงแตก พ.ศ. 2310) เกิดไฟไหม้ขึ้นในพระนครศรีอยุธยา

ไฟไหม้ในพระนครยังไม่ดับ พระยาตากก็ยกสมัครพรรคพวกไพร่พลไทยจีนออกจากค่ายวัดพิชัย เดินทัพมุ่งตะวันออกไปทางบ้านหันตรา, บ้านข้าวเม่า, บ้านสามบัณฑิต, โพสาวหาญ ปะทะไพร่พลของอังวะที่ล้อมกรุงเป็นครั้งคราว แล้วรอดได้จนถึงบ้านพรานนก หยุดพักแรม

ด้วยเหตุที่ต้องหลบกองตระเวนของพวกอังวะซึ่งอยู่ทางที่ลุ่มๆ ตอนล่างๆ พระยาตากเดินทางเลียบที่ดอนเชิงเขา (เขต อ. หนองแค และ อ. วิหารแดง จ. สระบุรี) ได้กำลังและเสบียงเพิ่มจากบ้านดง

แล้วเดินทางต่อไปผ่านบ้านต่างๆ ไพร่พลและชาวบ้านที่เลื่อมใส พากันยกพระยาตากเป็นพระราชาเสมือนเป็นพระเจ้าตาก แล้วหยุดประทับที่ตำบลหนองไม้ซุง เมืองนครนายก

แผนที่แสดงเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก ออกจากกรุงศรีอยุธยา ไปตั้งหลักที่จันทบุรี แล้วยกกลับขับไล่ข้าศึกเพื่อสถาปนากรุงธนบุรี
แผนที่แสดงเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตาก ออกจากกรุงศรีอยุธยา ไปตั้งหลักที่จันทบุรี แล้วยกกลับขับไล่ข้าศึกเพื่อสถาปนากรุงธนบุรี

ด่านกบแจะ

พระเจ้าตากยกพลรอนแรมไปอีกสองวันก็ถึงเขตเมืองปราจีนบุรี แล้วมุ่งไปข้ามลำน้ำที่ด่านกบแจะ (มีบอกไว้ชัดเจนในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา และฉบับอื่นๆ จึงไม่ใช่บางกระจะตามที่มีผู้พยายามจะลากชื่อกบแจะ เป็น กระจะ)

ด่านกบแจะ เป็นด่านควบคุมดูแลเส้นทางคมนาคม บริเวณสามแพร่งลำน้ำ 2 สายไหลสบกัน คือ แม่น้ำปราจีนบุรี (ต้นน้ำบางปะกง) ไหลมาจากเทือกเขาสอยดาว เมืองจันทบุรี กับคลองประจันตคาม ไหลมาจากเทือกเขาใหญ่

ในหน้าร้อนสงกรานต์ น้ำแห้ง คนเดินข้ามได้สะดวก จึงเป็นเส้นทางสำคัญของชาวบ้านยุคอยุธยา ใช้เดินไปมาค้าขายและหาของป่า กับเป็นเส้นทางเดินทัพ

จึงมีด่านทางเรียก ด่านกบแจะ อยู่บริเวณวัดกระแจะ บ้านวังกระแจะ ต. ท่างาม อ. เมือง จ. จันทบุรี (ชื่อวัดกระแจะ กลายจากชื่อ ด่านกบแจะ)

แม่น้ำปราจีนบุรี เป็นเส้นทางไปเมืองเสียมเรียบ บริเวณโตนเลสาบ (ทะเลสาบ) ในกัมพูชา จึงมีด่านทางเป็นระยะๆ จากด่านกบแจะถัดไปทางทิศตะวันออก เป็นด่านหนุมาน (อ. กบินทร์บุรี จ. ปราจีนบุรี), ด่านพระจารึก (อ. อรัญประเทศ จ. สระแก้ว)

 

ดงศรีมหาโพธิ์

ให้พักรี้พลหุงอาหาร กินเสร็จแล้วเดินทัพข้ามทุ่งไปจนตกเย็น หยุดพักทัพรอสมัครพรรคพวกที่ตามไม่ทันอยู่ 3 วัน (เอกสารบางเล่มบอกว่าอยู่ชายดงศรีมหาโพธิ์ เขตติดต่อ อ. ศรีมหาโพธิ กับ อ. ศรีมโหสถ จ. ปราจีนบุรี)

ฝ่ายอังวะเกณฑ์ทัพเรือให้ขึ้นมาสมทบกับทัพบกตั้งอยู่ปากน้ำเจ้าโล้ (โจ้โล้) ยกไปขึ้นที่ท่าข้าม ติดตามกองพระเจ้าตาก ได้รบกันหนักจนอังวะแตกกระจัดกระจายพ่ายไป

จากนั้นพระเจ้าตากยกพลหลบกองตระเวนของอังวะ ซึ่งอยู่ที่ลุ่มปากน้ำโจ้โล้ โดยเลี่ยงไปทางที่ดอนเชิงเขาดงยาง (จ. ฉะเชิงเทรา) แล้วเข้าเขตเมืองชลบุรี, บ้านทองหลาง, บ้านสะพานทอง, ไปบางปลาสร้อย ก็เป็นอันพ้นกองทัพอังวะ เข้าสู่ระยอง และไปถึงจันทบุรี

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image