| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
| เผยแพร่ |
ฟังชาวนาระบายความทุกข์ออกมาแล้วปวดใจ
ชาวนาได้รับการเชิดชูให้เป็น “กระดูกสันหลังของชาติ”
แต่เป็นกระดูกสันหลังที่ต้องแบกรับน้ำหนักมาก
ถ้าเป็นกระดูกสันหลังของคน คนๆ นั้นคงปวดระบมไปเพราะรับน้ำหนักจากภาระต่างๆ ไว้แทบไม่ไหว
วันก่อนมีข่าวว่าข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวราคาตกวูบ
จากที่เคยขายได้เป็นหมื่นบาทต่อตัน เหลือแค่ 6 พันบาทต่อตัน
รัฐบาลรับทราบ และมีแนวทาง “รับจำนำยุ้งฉาง” เพื่อดันราคาให้ได้ตันละ 1.1 หมื่นบาท
นี่ขนาดข้าวราคาสูงอย่างหอมมะลิและข้าวเหนียวนะ
แล้วข้าวอื่นๆ ที่ปกติราคาไม่สูงเท่าหอมมะลิและข้าวเหนียว ได้ตั้งราคาขายเท่าไหร่
คำถามนี้ มีชาวนาตอบ
เขาตอบว่า ขายข้าวเปลือกนาปรังได้แค่ 5,000 บาทต่อตัน
ชีวิตชาวนาจึงยากลำเค็ญมากขึ้น
ย้อนกลับไปปีสองปีที่ผ่านมา พบว่าภัยแล้งทำให้ชาวนาหมดโอกาสเพาะปลูกข้าว
บางคนถึงกับดื้อรั้นต่อคำเตือน เพราะไม่เสี่ยงปลูกก็ไม่มีสตางค์ แต่พอปลูกจริงก็ไม่มีน้ำ
ภาวะไม่ได้ปลูกข้าวซ้ำซาก ทำให้ชาวนาไม่มีเงินยิ่งขึ้น
ส่วนคนที่มีโอกาสเพาะปลูกข้าว แทนที่ราคาจะสูง เพราะคนปลูกน้อยลง
ราคากลับดิ่งเหว!
วันนี้จึงไม่เห็นเศรษฐีออกไปหว่านข้าวอีก ไม่เห็นลูกหลานชาวนาออกจากกรุงกลับบ้านไปเพาะปลูกที่บ้าน
เพราะเท่าที่ดำรงอยู่ขณะนี้ก็แย่แล้ว
ข่าวคราวเรื่องชาวนารวมกลุ่มแล้วขายข้าวเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางน่าจะเห็นความขัดแย้งระหว่างชาวนากับพ่อค้า
ช่วงเวลานี้ชาวนาเป็นทุกข์
เป็นความทุกข์อันเกิดจากการขาดโอกาสได้เพาะปลูก เนื่องจากแล้ง
และเป็นทุกข์จากราคาข้าวที่ตกต่ำ
เรื่องแบบนี้รัฐบาลจะต้องเอื้อมมือลงมาดูแล
กระแสเสียงจากชาวนาต้องมีการถ่ายทอดต่อๆ กันไปให้ถึงหู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
การที่ประชาชนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แสดงว่าประชาชนยังศรัทธาในรัฐบาลอยู่
ยังเชื่อว่ารัฐบาลช่วยได้
ตราบจนกระทั่งชาวนาหมดศรัทธา แล้วรวมตัวกันขายเอง แสดงว่าเขาเริ่มทนไม่ไหว
รอให้รัฐบาลช่วยไม่ไหว จึงต้องกอดคอกันช่วยเหลือกันเอง
การที่ชาวนาช่วยเหลือกันเองด้วยเหตุที่รัฐบาลช่วยเหลือไม่ได้นี้
สัญญาณเช่นนี้ น่าเป็นห่วงแทนรัฐบาล
ดังนั้น แทนที่รัฐบาลจะรำคาญเสียงสะท้อนของชาวบ้านที่สื่อมวลชนนำเสนอ
รัฐบาลน่าจะนำข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่มาตรวจสอบ แล้วลงไปแก้ไข
ช่วยกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ชาวนาเสียแต่เนิ่นๆ..น่าจะดีกว่า
เรื่องความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ความทุกข์ร้อนของชาวนา
การรับฟังยังเป็นสิ่งจำเป็น
แม้ในขณะนี้ไทยจะอยู่ในสถานการณ์ยึดอำนาจ แต่เสียงประชาชนก็ยังสำคัญ
โดยเฉพาะเสียงจากประชาชนที่เดือดร้อน..รัฐบาลต้องฟัง
