การทำนายว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จากแวดวงการพนันของอังกฤษ

ที่ประเทศอังกฤษมีการอนุญาตให้เล่นการพนันแบบถูกกฎหมายได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2503 แต่การพนันที่อนุญาตให้เล่นโดยถูกกฎหมายมีเพียงการเล่นไพ่เท่านั้น ซึ่งภายในระยะเวลา 5 ปีหลังกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ ปรากฏว่ามีผู้ขอจดทะเบียนเปิดสมาคมเล่นไพ่กันมากถึง 16,000 ราย

พระราชบัญญัติการพนันของอังกฤษมีการปรับปรุงแก้ไขหลายครั้ง โดยกฎหมายการพนันของอังกฤษฉบับที่ใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ พระราชบัญญัติการพนัน ค.ศ. 2005 (พ.ศ.2548) ได้เพิ่มเติมระบบบริหารและควบคุมให้ครอบคลุมการพนันทุกประเภทในอังกฤษโดยแก้ไขเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สาระสำคัญของพระราชบัญญัติการพนันฉบับนี้เน้นป้องกันการเกิดอาชญากรรมอันสืบเนื่องมาจากการพนัน และป้องกันไม่ให้องค์กรอาชญากรรมใช้การพนันเป็นเครื่องมือทำความผิด เช่นใช้ในการฟอกเงิน รวมทั้งควบคุมดูแลธุรกิจการพนันทุกประเภทให้ดำเนินการอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม นอกจากนี้ ยังกำหนดการคุ้มครองผู้เยาว์และผู้ไม่
สมประกอบไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการพนันอีกด้วย

ผู้ประกอบการธุรกิจการพนันทุกประเภทในอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หรือมีสถานที่ ต้องได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการการพนันแห่งชาติเท่านั้น โดยเปิดรับผู้ประกอบการทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ และผู้ประกอบการต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น บ่อนกาสิโนเสียภาษีร้อยละ 15-50 ตามผลกำไรสุทธิในอัตราก้าวหน้า ตู้เกมพนันเสียภาษีร้อยละ 5-25 ตามประเภทตู้ ซึ่งแบ่งตามจำนวนเงินพนันและเงินรางวัล การพนันเกมกีฬาจ่ายภาษีที่ร้อยละ 15 ของรายได้ ลอตเตอรี่จ่ายภาษีร้อยละ 12 ของรายได้จากการจำหน่าย ส่วนการพนันออนไลน์ต้องเสียภาษีร้อยละ 21 ของรายได้รวมทั้งหมดที่มาจากการทำธุรกรรมในอังกฤษ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2563-2564 รัฐบาลอังกฤษจัดเก็บภาษีการพนันได้ทั้งหมด 1,344 ล้านปอนด์ (ประมาณ 54,900 ล้านบาท) ซึ่งภาษีส่วนใหญ่มาจากลอตเตอรี่และพนันออนไลน์

ครับ ! เนื่องจากการพนันเป็นธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนอย่างมหาศาลในประเทศอังกฤษและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของวงการกีฬา โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลที่ลือลั่นของอังกฤษด้วยการตั้งอัตราต่อรองว่าทีมฟุตบอลใดจะชนะ หรือทีมฟุตบอลใดจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ซึ่งถูกถือเป็นบรรทัดฐานการเล่นการพนันฟุตบอลที่ได้รับการนิยมสูงสุด เพราะการได้มาซึ่งอัตราต่อรองของแวดวงการพนันของอังกฤษถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับคนอังกฤษเลยทีเดียว

Advertisement

ดังนั้น เมื่อแวดวงการพนันของอังกฤษในวันนี้ (18 กรกฎาคม พ.ศ.2565) ได้ตั้งอัตราต่อรองของ
ผู้ลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ 4 คนแรกที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงสุดจากสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมใน 2 รอบแรก ซึ่งเป็นสตรี 3 คน และบุรุษ 1 คน ดังนี้ คือ

1) นางเพนนี มอร์ดันท์ รัฐมนตรีด้านนโยบายการค้า ผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษเป็นเวลา 85 วัน เมื่อ พ.ศ.2562 ในสมัยรัฐบาล เทเรซา เมย์ แต่ถูกบอริส จอห์นสัน ปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเนื่องจากเธอสนับสนุนคนอื่นในการเลือกหัวหน้าพรรคในปีนั้นเอง นางเพนนี มอร์ดันท์ ได้คะแนนเสียงเป็นที่ 2 ในการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษนิยมในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ทั้งสองครั้ง

2) นายริชิ ซูนัค ชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่ง ถือเป็นนักการเมืองที่เคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่มีศักดิ์เป็นลำดับที่ 3 ในคณะรัฐบาล รองจากนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี โดยซูนัคถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากการขับเคลื่อนนโยบายสนับสนุนด้านการเงินแก่ประชาชน ทั้งนี้ นายริชิ ซูนัค ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษนิยมในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ทั้งสองครั้ง

Advertisement

3) นางลิซ ทรูส เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน โดยเธอเป็นรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อังกฤษ ซึ่งเธอมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการผลักดันมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจากการที่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครน นางลิซ ทรูส ได้รับคะแนนเสียงเป็นที่ 3 ในการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษนิยมในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ทั้งสองครั้ง

4) นางเคมี่ บาเดน็อช ชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสตรีและความเท่าเทียม ได้คะแนนเสียงเป็นที่ 4 ในการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษนิยมในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ทั้งสองครั้ง

เมื่อแข่งขันกันจนถึงรอบสุดท้ายแล้วจะเป็นการเลือกตั้งโดยสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมทั่วประเทศอังกฤษที่มีจำนวนเป็นแสนคน ดังนั้น การตั้งอัตราต่อรองของแวดวงการพนันของอังกฤษจึงอยู่บนพื้นฐานที่ว่าคนอังกฤษผิวขาวส่วนใหญ่ยอมรับผู้นำที่เป็นสตรีได้โดยไม่รังเกียจเดียดฉันท์แต่อย่างใด เพราะในอดีตก็เคยมีนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษแล้ว 2 คน นอกจากนี้ ประมุขของประเทศอังกฤษก็เป็นสตรีอีกด้วยแต่การที่คนอังกฤษจะเลือกผู้นำคนต่อไปจากคนที่มีเชื้อสาย และหน้าตาผิวพรรณเป็นคนจากอดีตอาณานิคม เช่น อินเดีย ก็คงจะตะขิดตะขวงใจมากกว่าที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษนิยมเลือกมาแล้วใน 2 รอบแรกอย่างแน่นอน

คงพอฟันธงได้กระมังครับว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษในเดือนกันยายนคงเป็นสตรีระหว่างนางเพนนี มอร์ดันท์ กับ นางลิซ ทรูส สำหรับนายริชิ ซูนัค กับนางเคมี่ บาเดน็อช คงจะมีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้น้อยมากนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image