คลิปตัดสิน โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

“อย่าตัดสินคนจากคลิป 1 นาทีกว่า” วาทะนี้เกิดขึ้นในเหตุการณ์กราบรถ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในช่วงสองสามวันมานี้

แม้จะเป็นวาทะที่น่าคิด แต่นาทีนี้คงยากเกินกว่าจะทานกระแสสังคมได้ โดยเฉพาะกับดาราหนุ่ม น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ผู้ปรากฏในคลิปเช็กบิลคู่กรณีบนท้องถนน

ยิ่งตามมาด้วยคำอธิบายของชายหนุ่มว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการปกป้องสิทธิที่ทรัพย์สินเสียหาย ยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก

โลกของการสื่อสารตอนนี้ คลิปวิดีโอเป็นสื่อทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง

Advertisement

หลายๆ ครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือและเป็นอาวุธทำร้ายผู้อื่น เช่น คลิปที่แฟนเก่านำมาแพร่ในโลกออนไลน์เพื่อสร้างความอับอาย แบล๊กเมล์ ข่มขู่ เยาะเย้ยถากถาง ฯลฯ

หลายๆ ครั้ง คลิปคือหลักฐานบันทึกเหตุการณ์และพฤติกรรมของบุคคล ไม่ว่าคนทั่วไป โจร หรือ ตำรวจ มีทั้งเหตุการณ์ทั่วไปตามท้องถนน ไปจนถึงประเด็นทางการเมือง

อย่างในศึกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง โดนฤทธิ์คลิปตัดสินเข้าด้วยเหมือนกัน หลังจากเคยพูดจาที่มีเนื้อหาสะท้อนว่าเห็นผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ

Advertisement

ถึงแม้นายทรัมป์แก้ต่างว่า ตนเองทุกวันนี้ไม่ใช่คนเดิมแบบในคลิปแล้ว แต่สุดท้ายแล้วผู้คนไม่ได้ตัดสินนายทรัมป์ด้วยคลิปแค่ไม่กี่นาที หากดูย้อนไปยังพฤติกรรมเก่าๆ ด้วย

ในช่วงเวลาหาเสียง นายทรัมป์พูดจาให้ร้ายและเหยียดหยามอดีตนางงามระดับมิสยูนิเวิร์สคนหนึ่งที่ตนเองเคยเรียกว่า “ยัยหมูตอน” และเรียกร้องให้ผู้คนลองไปคุ้ยหาประวัติดูว่า เธอคนนี้เคยมีเซ็กซ์เทปหรือไม่

เมื่อปรากฏว่าไม่มี คุณทรัมป์จึงแก้ต่างอีกว่าแค่ให้ลองไปหาดูเฉยๆ เผื่อจะได้เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้มีดีอะไร

ไม่เท่านั้น นายทรัมป์ยังพูดวิจารณ์สตรีผู้เป็นแม่ของทหารอเมริกันเชื้อสายปากีสถานที่เสียชีวิตในสงคราม ขณะสตรีท่านนี้ขึ้นไปเวทีพร้อมสามีซึ่งกล่าวปราศรัยในงานประชุมพรรคเดโมแครต โดยที่นางไม่ได้กล่าวถ้อยคำใดๆ จนเป็นจุดที่นายทรัมป์พูดเชิงเยาะเย้ยว่า คงไม่ได้รับอนุญาตให้พูด

สำหรับ นางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่ง ก็ไม่พ้นถูกนายทรัมป์เรียกว่า ผู้หญิงน่ารังเกียจ หรือ nasty woman

วาทะและท่าทีต่างๆ เหล่านี้เมื่อประกอบกับคลิปไม่กี่นาทีในอดีต จึงทำให้นายทรัมป์ยากจะหลีกเลี่ยงคำพิพากษาจากสังคม ส่วนชาวอเมริกันจะไปลงคะแนนให้นายทรัมป์มากน้อยเท่าใดนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

วกกลับมาดูกรณีหนุ่มน็อต การถูกลงโทษอย่างสาหัสในด้านชื่อเสียงและอาชีพการงาน และการถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายคู่กรณีก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองก็เป็นอีกเรื่อง

เมื่อพูดว่า “ผมผิด ผมขอโทษ” และแสดงให้เห็นว่ารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ก็เพียงพอแล้ว ส่วนใครจะตัดสินใครจากคลิปสั้นๆ หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องของเราอีกแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image