โลภ โกรธ หลง ยุค “ร่าง” รัฐธรรมนูญ แฮร์รี่ พอตเตอร์

ระหว่าง โลภ โกรธ หลง อันเป็นเครื่องยังให้เกิด “ความเศร้าหมอง” เป็นมลทิน อย่างไหนมีความร้ายแรงมากกว่ากัน

โลภ นั้น “น่ากลัว” อยู่แล้ว

โกรธ ยิ่งเป็นเรื่องที่เฝ้าระวัง ตัวอย่างให้เห็นมากมายโดยเฉพาะที่กลายเป็น “พาดหัว” บนหน้า 1 ของสื่อทั่วโลก

ไม่ว่า “สื่อกระจก” ไม่ว่า “สื่อกระดาษ”

Advertisement

กระนั้น เกจิหลายระดับเฝ้าเตือนให้ระวังจงหนักในเรื่องของ “หลง” เพราะคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างโลภกับโกรธ

ดำเนินไปอย่าง “เงียบ” ดำเนินไปอย่าง “งำ” ประกาย

โลภนั้นสามารถสัมผัสได้ รู้สึกได้ เมื่อประสบไม่ว่ากับตนเองหรือกับคนอื่น ลักษณะอยากได้ ใคร่มี ยากที่จะปิดบังอำพราง

Advertisement

ถึงไม่เห็นโดยตรงก็เห็นผ่าน “บทเฉพาะกาล”

โกรธก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากดำเนินไปในลักษณะ “ผลักออก” เป้าหมายก็เพื่อกระทำกับคนอื่น เพียงมีคำสั่งเรียกไป “ปรับทัศนคติ” ก็อ่านแจ้ง แทงทะลุ

แต่ “หลง” นั้นซิ ย่องย่างเหมือนอาการแห่ง “เงา”

หากจะกล่าวอย่างวิเคราะห์ กล่าวอย่าง

จำแนกแยกแยะ อาการของสิ่งที่เรียกว่าเป็น “ความหลง” เป็นส่วนผสมอันเนื่องมาแต่ 2 ปัจจัย

1 ปัจจัยแห่งความโลภ 1 ปัจจัยแห่งความโกรธ

แต่เมื่อตกตะกอนนอนก้น ดำรงอยู่ในสภาพอันเรียกได้ว่าเป็น “วาสนา” มันจะมากด้วยเหลี่ยมเล่ห์ มากด้วยเพทุบาย

เป็นความจริงที่ “โลภ” มักมุ่งแต่ “ได้” แต่ก็ดำเนินไปอย่างนิ่งและเงียบ

เป็นความจริงที่ “โกรธ” มักมุ่งแต่จะสาดใส่เข้าหา “เป้า” หมายอื่น นอกเหนือจากตัวเราเอง เป็นโทสะอันร้อนแรงอย่างยิ่ง

แต่พลันที่เหยียบบาทก้าวเข้าสู่ภาวะแห่ง “ความหลง” ก็เริ่มมีอาการ “เก็บ”

ขอให้สังเกตดูคนที่หลงใน “อำนาจ” เป็นตัวอย่าง คนเหล่านี้มักมีคำพูดติดอยู่ 2 ริมฝีปากว่า ไม่ต้องการ ไม่อยากได้

ที่มาก็เพราะ “สถานการณ์” ที่มาก็เพราะ “จำต้อง” มา

กระนั้น เมื่อไปพิจารณาผ่าน “บทเฉพาะกาล” เมื่อไปพิจารณาสิ่งที่เรียกว่า “ยุทธศาสตร์” ก็จะประจักษ์ในเป้าหมายและความปรารถนา ถึงกับฟอกล้างให้ตนเองขาวสะอาด ถึงกับวางแผนอยู่ยาวหรือครอบงำไม่ต่ำกว่า 2 ทศวรรษ

ยาวววว “ตลอด” ยาววววไปเลย “เพ่”

ใครที่อ่าน “ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง” เสนอให้ศึกษาพ่อมดขาวและพ่อมดเทา ใครที่อ่าน “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เสนอให้ศึกษาลอร์ดโวลเดอมอร์ และ อัลบัส ดัมเบิลดอร์

แล้วจะประจักษ์ใน “วิถี” แห่ง “อำนาจ”

พ่อมดขาวต้องการ “อำนาจ” ดำเนินการทุกอย่างเพื่อ “อำนาจ” กระทั่งสร้าง “ปราการ” แห่งอำนาจอันแข็งแกร่งใหญ่โต

ในที่สุดก็มิอาจลงจาก “อำนาจ” ได้

ตรงกันข้าม พ่อมดเทา ไม่ต้องการอำนาจ ไม่เคยสร้าง “ปราการ” ไม่ว่าในทางนามธรรม ไม่ว่าในทางรูปธรรม

ในที่สุดก็ได้รับ “ความรัก” ได้รับ “ความเคารพ”

ตัวอย่างระหว่างพ่อมดเทากับพ่อมดขาวเมื่อนำไปวางเรียงเคียงกับตัวอย่างระหว่าง อัลบัส ดัมเบิลดอร์ กับ ลอร์ดโวล เดอมอร์

ก็จะต้องร้อง “เยส” ก็จะต้องร้อง “ฮ้อ”

ลอร์ดโวลเดอมอร์ “อยาก” อย่างยิ่งที่จะทะยานไปสู่แท่นแห่ง “อำนาจ” กระทั่ง ยินดีใช้ศาสตร์มืด บงการทุกอย่าง แต่

อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ไม่ต้องการเลย ถึงจะได้รับคำเชื้อเชิญให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ ต้องการเป็น “ครู”

ถามว่าแล้วใครได้รับ “ความรัก” แล้วใครได้รับ “ความเคารพ” มากกว่ากัน

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ “การเมือง” เรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นเรื่องของ “อำนาจ”

หากเป็นการพรรณนาถึงโลกธรรมอันประกอบด้วย โลภ โกรธ หลง ซึ่งมนุษย์ขี้เหม็นระดับปุถุชนล้วนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ไม่เว้นว่าเป็นผู้ดีหรือไพร่ ไม่เว้นว่าเป็นพลเอกหรือพลทหาร

เป็นเรื่องต้อง “ศึกษา” เป็นเรื่องต้องทำความ “เข้าใจ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image