เมื่อไม่นานมานี้ได้เดินทางไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อประชุมคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ได้พบกับคุณชูเกียรติ จันทรมานะ เป็นข้าราชการเก่าที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2558 ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับงานของมหาวิทยาลัยสมัยที่เคยเป็นอธิการบดีช่วงปี พ.ศ.2531-2534 เขาได้เล่าว่าขณะนี้มหาวิทยาลัยกำลังรวบรวมเกร็ดประวัติของมหาวิทยาลัย เพื่อบอกเล่าให้แก่คนรุ่นหลังได้ทราบกัน และได้ขอร้องให้ผมช่วยเขียนเล่าเกี่ยวกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในปี พ.ศ.2531 ซึ่งมีหลายเรื่องที่ชาวธรรมศาสตร์ควรได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจเขียนบทความนี้ ซึ่งมีเรื่องที่ควรเล่าสู่กันฟัง 3 เรื่อง ดังนี้
1.การถวายเครื่องราชสักการะในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ
2.การส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยบัณฑิตทั้งหมดที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้น ร้องเพลงสดุดีมหาราชาพร้อมกัน
3.การเปลี่ยนปกสมุดปริญญาบัตรเป็นผ้าไหมในปีต่อมา และเป็นแบบอย่างแก่มหาวิทยาลัยอื่นด้วย
1.การถวายเครื่องราชสักการะในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ
ในปี พ.ศ.2531 เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ หรือครบรอบ 60 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดพิธีถวายพระพรแด่พระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะนั้นได้คิดว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ควรจะทำอย่างไรเพื่อถวายพระพรและสดุดีพระเกียรติยศแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีนั้น ในขณะนั้น ดร.วินิจ วินิจนัยภาค เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย และเป็นรองเลขาธิการสำนักพระราชวังอยู่ด้วย จึงได้นำเรื่องไปปรึกษาท่าน ดร.วินิจได้เสนอว่า ควรจะได้จัดพิธีดังกล่าวในงานพระราชทานปริญญาบัตรจะเหมาะสมที่สุด ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้จัดทำพิธีถวายเครื่องราชสักการะในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ก่อนที่พระองค์จะพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้น
2.การส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยบัณฑิตทั้งหมดที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้น ร้องเพลงสดุดีมหาราชาพร้อมกัน
สืบเนื่องจากพิธีการถวายเครื่องราชสักการะในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันนั้นได้ตกลงกันว่า เมื่อเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ให้บัณฑิตทั้งหมดในวันนั้น ร้องเพลงสดุดีมหาราชา ถวายพระพรด้วย
ในวันนั้นได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวัง เรื่องร้องเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการส่งเสด็จด้วย ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบ ปรากฏว่าในวันนั้น บัณฑิตทั้งหอประชุมได้ร่วมกันร้องเพลงพร้อมกับการเปิดเพลงดังกล่าวในหอประชุม เสียงเพลงได้ดังกระหึ่มทั้งหอประชุม ทุกคนต่างปลื้มปีติยินดีในงานพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้น
เมื่อเสร็จสิ้นงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว นายกสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด และพูดคุยเกี่ยวกับงานพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้น ในวันนั้นได้รู้สึกยินดี และโล่งอกเป็นอย่างยิ่งที่งานพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้นได้ผ่านไปด้วยดี และทรงโปรดที่บัณฑิตทั้งหอประชุมร้องเพลงสดุดีมหาราชาในวันนั้น
3.การเปลี่ยนปกสมุดปริญญาบัตรเป็นผ้าไหมในปีต่อมา และเป็นแบบอย่างของมหาวิทยาลัยอื่น
จากการที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดพร้อมกับนายกสภามหาวิทยาลัยในวันนั้น ได้ทราบว่า มหาวิทยาลัยได้มีข้อบกพร่องเกี่ยวกับปกสมุดของปริญญาบัตรที่ทำด้วยกระดาษแข็ง และมีขนาดใหญ่เกินไป ได้กลายเป็นปัญหาในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตในวันนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับปกสมุดปริญญาบัตรว่าแข็งและใหญ่เกินไป ทำให้ไม่สะดวกในการหยิบพระราชทานแก่บัณฑิต ได้ทรงให้ดูฝ่าพระหัตถ์ที่ได้ถูกปกสมุดปริญญาบัตรขูดจนเห็นเป็นสีแดง อธิการบดีและนายกสภามหาวิทยาลัยได้กราบบังคมทูลว่า จะได้แก้ไขในปีต่อไป
หลังจากเสร็จงานพระราชทานปริญญาบัตรในวันนั้นแล้ว ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เกี่ยวกับการจัดทำสมุดปริญญาบัตร ในขณะนั้น ผศ.วรวรรณ ศุภจรรยา เป็นผู้อำนวยการสำนักทะเบียนได้ประชุมปรึกษากันว่าจะแก้ไขเรื่องสมุดปริญญาบัตรอย่างไร ในที่สุดได้ตกลงให้ปรับปรุงขนาดของปริญญาบัตรและสมุดปริญญาบัตรด้วย โดยให้มีขนาดและน้ำหนักเบาที่สุด และให้หุ้มปกด้วยผ้าไหม
เข้าใจว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงขนาดและปกสมุดของปริญญาบัตร และได้เป็นแบบอย่างของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเวลาต่อมา ดังที่ได้เห็นกันในปัจจุบัน
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ
เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม