ที่มา | คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|---|
ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
เผยแพร่ |
มีความพะวงกันเรื่อง “เซตซีโร่”
เดี๋ยวก็แว่วข่าวว่า เซตซีโร่พรรคการเมืองตามด้วยเสียงปฏิเสธ
สักพักโมเดล “เซตซีโร่พรรคการเมือง” เปลี่ยนไปเป็น “เซตซีโร่สมาชิกพรรคใหม่”
จากพรรคการเมือง ขณะนี้ถึงคิวองค์กรอิสระ
กระแสเริ่มจากเสียงแผ่วๆ ว่าจะเซตซีโร่องค์กรอิสระทั้งหมด
แล้วก็มีการออกมาปฏิเสธข่าวเป็นระยะๆ
กระทั่งเมื่อ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ออกมาซัด กรธ.
พาดพิงไปถึง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ด้วยข้อกล่าวหาต่างๆ นานา
สะท้อนให้เห็นอาการสั่นไหวอันเกิดจากการร่างกฎหมายลูก
กฎหมายลูกที่ต้องร่ายตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แสดงเจตนาให้เซตซีโร่องค์กรอิสระอย่างชัดแจ้ง
มาตรา 216 วงเล็บ 3 กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามของคณะกรรมการองค์กรอิสระว่าให้เป็นไปตามมาตรา 202
มาตรา 202 วงเล็บ 1 สรุปว่า บุคคลต้องห้ามคือ บุคคลที่เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ย้ำอีกครั้งว่า “เป็น” หรือ “เคยเป็น”
เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
แล้วนี่ถ้ารัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ และกฎหมายลูกคลอดออกมา
ไม่เท่ากับว่า ต้องสรรหาคณะกรรมการองค์กรอิสระทั้งหลายกันใหม่ทั้งหมดหรือ?
เพราะทุกองค์กรอิสระล้วนมี ผู้ที่ “เป็น” ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอยู่
คนที่ “เป็น” อยู่ตอนที่กฎหมายประกาศใช้ จะอยู่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามหรือเปล่า
ถ้าว่าไปตามรัฐธรรมนูญก็ต้องสรรหากันใหม่ เหมือนกับที่มีคนตั้งข้อสังเกต
แต่ถ้ามองแบบอาจารย์ สมลักษณ์ จัดกระบวนพล ก็ต้องให้กรรมการทุกคนในองค์กรอิสระอยู่ต่อ
เพราะถือว่าแต่ละคนผ่านการสรรหามาถูกต้อง จึงมีสิทธิที่จะอยู่จนครบวาระ
ข้อบัญญัติใหม่ที่เป็นโทษ จะมาทำให้แต่ละคนในองค์กรอิสระสิ้นสภาพไม่ได้…มันไม่แฟร์
และถ้าใช้หลักเกณฑ์ตามที่อาจารย์สมลักษณ์แสดงความคิดเห็น
คุณสมบัติต่างๆ ที่กำหนดใหม่ก็ไม่น่าระคายผิวกรรมการในองค์กรอิสระ
เรื่องที่นายสมชัยฝันก็อาจไม่เป็นจริง
ดังนั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อาจารย์สมลักษณ์บอกไว้ กรธ.ก็น่าจะบอกไปเลยว่า องค์กรอิสระปลอดภัย
แต่คำชี้แจงของ กรธ.ที่บอกว่า ไม่มีเซตซีโร่ แต่ต้องดูคุณสมบัติว่าขัดหรือไม่นั้น แสดงว่า ยังไม่ปลอดภัย
ทำให้สงสัยว่า คุณสมบัติที่ว่านั้นรวมถึง “คุณสมบัติต้องห้าม” หรือเปล่า
ถ้าหมายถึงคุณสมบัติต้องห้ามที่มีมาตรา 202 วงเล็บ 1
งานนี้ก็เซตซีโร่แหงๆ
ถ้า คสช. หรือ กรธ. หรือใครจะอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ท่านๆ ทั้งหลายในองค์กรอิสระก็คงต้องซึม
เพราะคนเขียนกฎหมายลูกคือคนเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ดังนั้น เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว กรธ.รู้ดีที่สุด
แถมยังเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ได้รับการรับรองจากเสียงประชามติอย่างท่วมท้น
การลงประชามติก็เป็นไปตามที่ กกต.เป็นผู้ดำเนินการ
วันนี้องค์กรอิสระจะโดนเซตซีโร่หรือไม่ พรรคการเมืองจะรีเซตหรือเปล่า
ขึ้นอยู่กับกฎหมายลูกที่ กรธ.เป็นผู้ร่าง
แต่ผู้พิจารณา คือ สนช. … สนช.ที่ คสช.เป็นผู้คัดเลือก
อ้าวอำนาจวกกลับไปที่ คสช.อีกแล้ว…
ทุกประการยังอยู่ในอุ้งมือ คสช.