เซตซีโร่ โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

มีชัย ฤชุพันธุ์ (แฟ้มภาพ)

วาทกรรมเซตซีโร่ ล้างไพ่แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่เคยฮือฮามาแล้วในช่วงที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยกำลังร้อนแรงจนเป็นชนวนให้เกิดการชุมนุมใหญ่นำโดย กปปส. นำมาสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

เซตซีโร่ กลับมาดังอีกครั้งหลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยผ่านการลงประชามติ ถูกหยิบขึ้นมาใหม่แต่เป้าหมายเสนอให้ใช้กับพรรคการเมืองทั้งใหญ่ กลาง เล็ก ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น ให้โละทิ้งทุกพรรค แล้วเริ่มต้นจดทะเบียน เปิดรับสมาชิกกันใหม่

แค่นั้นยังไม่หยุด แนวคิดเซตซีโร่ลามเลยมาถึงองค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบที่กำลังเกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถูกเสนอให้โละทิ้งแล้วเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ก็เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศยุคปฏิรูป เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญใหม่อย่างน้อย 10 ฉบับเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติและต้องมุ่งหมายให้มีการขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ

Advertisement

ความท่อนท้ายที่ว่านี่แหละครับ เป็นที่มาที่ไปทำให้เซตซีโร่ดังไม่จบไม่สิ้น

เหตุผลการใช้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากเดิมเริ่มแรกเป็นแนวทางเพื่อกลับคืนเข้ามาสู่อำนาจใหม่ มาเป็นเครื่องมือเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจและบริหารอำนาจโดยการสกัดกั้นคู่แข่งทางการเมืองโดยเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม จนมาถึงเป็นเครื่องมือเพื่อจัดการปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบ

ปรากฏว่าถูกคัดค้านต่อต้านจากพรรคการเมือง ไม่เชื่อว่าจะสามารถใช้ได้ผลทำให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ระบบการเมืองมีเสถียรภาพ บริสุทธิ์ยุติธรรมจริง ตรงข้ามกับเป็นวิธีการที่จะเอาเปรียบคนอื่นที่เป็นคู่แข่งมากกว่า

Advertisement

ขณะที่องค์กรอิสระ โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งคู่กรณีโดยตรง โต้ตอบกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน

“ผมไม่อยากให้ กรธ.ทำตัวเหมือนนักศึกษาส่งวิทยานิพนธ์ที่ต้องสอบวิทยานิพนธ์ แต่ไม่ยอมพบอาจารย์ที่ปรึกษา หมกเม็ด ไม่ปรึกษาขอความเห็น พอถึงเวลาใกล้หมดอายุความก็ยื่นวิทยานิพนธ์เล่มเต็มมา แล้วก็อาศัยเวลาที่เหลืออยู่บีบบังคับให้จบ”

ครับ ใครจะถือหางข้างไหนก็สุดแท้แต่ การตอบโต้กันไปมาว่าด้วยเรื่องความถูกต้องชอบธรรมของกฎกติกาส่วนรวม สังคมได้ประโยชน์ อย่างน้อยทำให้บรรยากาศอึดอัด ขัดข้อง มีปากเหมือนมีตูด พูดไม่ออก ผ่อนคลายลงบ้างเล็กๆ น้อย แม้จะเกิดในวงคนมีอำนาจด้วยกันเองก็ตาม

องค์กรที่จะต้องตัดสินความขัดแย้ง ความเห็นต่าง จะทำแนวคิดเซตซีโร่เป็นจริง ถูกนำมาใช้กับใครหรือไม่ ด้วยเหตุผลหรือเป้าหมายอะไร ก็คือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้บัญญัติกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทุกฉบับ

ประเด็นมีว่า แนวคิดเซตซีโร่ถูกนำเสนอขึ้นมาใช้กับคนอื่น ฝ่ายอื่นเป็นด้านหลัก องค์กรที่มีอำนาจตัดสินควรนำมาใช้ชำระล้างตัวเอง ล้างไพ่ ล้มสำรับแล้วเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดด้วยหรือไม่

ผมกำลังหมายถึงผู้บัญญัติกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่มีเป้าหมายทางการเมืองด้วยหนทางเลือกตั้งหรือลากตั้งก็ตาม ถ้าเซตซีโร่เพื่อจำกัดสิทธิคนอื่น ก็ควรยอมรับการถูกจำกัดสิทธิตัวเองเช่นเดียวกัน

การที่ตัวเองเป็นผู้บัญญัติกฎหมายที่จะมาบังคับใช้กับตัวเองในอนาคต จึงเข้าข่ายมีประโยชน์ได้เสีย ควรเว้นวรรค ไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่

มาตรการเซตซีโร่ เป็นเพียงต้นทาง เกี่ยวกับที่มาของการเข้าสู่ตำแหน่ง จะสามารถบรรลุเป้าหมายขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบของทุกฝ่ายตามเจตนารมณ์ได้จริงหรือไม่ ยังไม่มีหลักประกันใดๆ

การใช้มาตรการตรวจสอบความเปิดเผย โปร่งใส ทั้งกลางทางและปลายทาง จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันด้วย ทั้งฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายถูกตรวจสอบ

นั่นคือ การเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและกรรมการองค์กรอิสระทั้งหมด

โดยกำหนดคำนิยาม “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” กันใหม่ให้ครอบคลุมถึงทุกตำแหน่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับวงจรอำนาจด้วยวิธีใดก็ตาม รวมถึงตำแหน่งใหม่ๆ ที่ประดิษฐ์คิดคำกันขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับการตรวจสอบ ไม่เปิดเผย โปร่งใส อ้างเป็นตำแหน่งทางวิชาการ เช่น คำว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรี ก่อนที่จะถูกกดดันให้แสดงบัญชีทรัพย์สิน เป็นต้น

การปฏิบัติโดยทัดเทียมบนพื้นฐานความยุติธรรม เป็นมาตรฐานเดียวกันเท่านั้น ถึงจะทำให้แนวคิดเซตซีโร่เกิดผลที่เป็นคุณได้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image