ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป มติชนรายวัน ฉบับ 14 ก.พ. 2559
เอาเข้าจริงร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานร่าง ที่ถูกมองว่ามีเป้าหมายอยู่ที่ทำให้ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง อ่อนแอ และพยายามแทรกให้ นักการเมืองที่รอการแต่งตั้ง เข้าไปมีส่วนในอำนาจให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะพลิกแพลงหาให้เนียนได้เท่านั้นหรอก
เมื่อมีการศึกษาลึกและละเอียดลงไป ก็เริ่มมีการเปิดประเด็นมาให้วิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้นในส่วนของกระบวนการตรวจสอบ ที่เหมือนจะทำให้คนที่เข้าไปดูแลอำนาจรัฐ ติดคุก ติดตะราง ได้ไม่ยากเย็น
และอีกไม่ช้าคงมีการเปิดประเด็นไล่ขยี้ นักการเมือง เพิ่มเติมเข้ามาอีก ตามวันเวลาที่จะเริ่มมองเห็นกันมากขึ้น
ก็ว่าไป อาจจะดีงามตามที่คนดีทั้งหลายคาดหวังไว้ว่าจะทำให้ ประชาธิปไตยไทย ทั้ง เป็นไปตามหลักสากล และ กลมกลืนไปกับวัฒนธรรมไทย หรือที่สำคัญเป็น รัฐธรรมนูญปราบโกง อย่างที่พยายามโฆษณาประชาสัมพันธ์กันถี่ยิบทางสื่อของรัฐอยู่ในเวลานี้ก็ได้
เรื่องที่อยากหยิบยกมาแลกเปลี่ยนด้วยความเป็นห่วงคือ
หากดูท่าทีของ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน กับ คนบางกลุ่มบางพวกที่พร้อมจะแสดงออกในจุดยืนเพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันของประชาชน มองไม่เห็นเลยว่าคนกลุ่มนี้จะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
การเคลื่อนไหวคัดค้านต่อต้านจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และนั่นเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงว่าความวุ่นวายที่พยายามหลีกหนี จนคนส่วนใหญ่ยอมรับที่จะปล่อยให้มีการควบคุมความสงบจะกลับมาอีก
ต้องอย่าลืมว่า ไม่ว่าอย่างไรเสีย ประชาธิปไตยไทยก็พัฒนามายาวนาน พรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าพรรคเล็กพรรคใหญ่ล้วนมีฐานมวลชนที่มั่นคงของตัวเองในระดับหนึ่ง
และไม่มีพรรคไหนกล้าประกาศทรยศต่อมวลชนของตัวเองที่ได้รับการพัฒนาประชาธิปไตยจนรู้ถึงสิทธิในอำนาจของตัวเองมาระดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรเสียนักการเมืองจะต้องหาทางสู้เพื่อรักษาอำนาจไว้ที่ประชาชน เพื่อแสดงออกว่ายังยืนอยู่ข้างมวลชนที่สนับสนุนพรรค
ความยุ่งยากจะเกิดขึ้น
และจุดนี้คือความน่าเป็นห่วงอย่างที่ว่า
ข้อสรุปที่ รองนายกรัฐมนตรี-วิษณุ เครืองาม แถลงถึงผลการประชุมทีมงานทำประชามติ ที่เปิดประเด็นไว้เหมือนว่าจะมีการใช้มาตรา 44 ออกกฎหมายควบคุมความเคลื่อนไหวก่อนประชามติทำนอง แสดงความเห็นคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ห้ามต่อต้าน หรือ เปิดเวทีให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นได้ แต่ห้ามถกเถียงกันทางการเมือง
หรือที่รวบยอดว่าการพูดถึงรัฐธรรมนูญ ต้อง ไม่เบี่ยงเบน ฉ้อฉล ชี้นำ
ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะตีความว่า คัดค้านอย่างไรไม่ให้ต่อต้าน ออกความเห็นอย่างไรไม่ให้เป็นการถกเถียง ตีความเพื่อเสนอมุมมองอย่างไรไม่ให้ถูกคนอื่นรู้สึกว่าเป็นการเบี่ยงเบน ฉ้อฉล หรือชี้นำ
และหากจะต้องตั้งคนที่ตัดสินขึ้นมาว่าแบบไหนถูก แบบไหนผิด
ความยุ่งยากจะเกิดขึ้นอีกพะเรอเกวียน
และอย่างที่ว่า ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีทางที่ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะอยู่เฉยยอมให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ได้
ความขัดแย้งอันเกิดจากร่างรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้
ทางออกในเรื่องนี้คือ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญนี้เป็น ร่างแรก ที่การแก้ไขยังทำได้อย่างกว้างขวาง จึงควรยอมรับข้อคิดความเห็นของคนกลุ่มต่างๆ ให้มากที่สุด เพื่อลดพลังที่เกิดจากความอึดอัดให้มากที่สุด
การดันทุรังด้วย ทิฐิของคนเฒ่า ยังแต่จะก่อให้เกิดความยุ่งยาก