| ผู้เขียน | สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม |
|---|
เกม ‘กัญชา’
“กัญชา” มีทั้งคุณและโทษ เดิมทีถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติด ด้วยมองด้านโทษเป็นหลัก ทำให้ด้านที่เป็นประโยชน์ถูกจำกัด
กระทั่งพรรคภูมิใจไทย ชูนโยบายกัญชาเสรีหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้คะแนนเสียงจากคนบางกลุ่มไม่น้อย
จนเมื่อพรรคภูมิใจไทย ร่วมเป็นรัฐบาล ก็เดินหน้าปลดล็อกกัญชาพ้นจากบัญชียาเสพติด เพื่อนำด้านคุณประโยชน์มาเป็นหลักเน้นใช้ทางการแพทย์ แล้วจำกัดด้านที่เป็นโทษ ขณะเดียวกันจะผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ด้วย
แม้จะปลดล็อก (อย่างหลวมๆ) ด้วยการใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ระหว่างรอสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ก็ทำให้สังคมตื่นตัวกันมาก
มีการเปิดตัวตำรับยาและผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ที่ใช้สารในกัญชาเป็นส่วนประกอบ โดยมีงานวิจัยทั่วโลกเกือบ 3 หมื่นชิ้น อาทิ การใช้รักษาโรคจิตเวช โรคปวด โรควิตกกังวล
นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิภาวดี ปิยราษฎร์ ออกมาเผยว่า มีผู้ป่วย 2 ราย โดยรายแรกหญิง อายุ 79 ปี เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อลองใช้กัญชาตามสูตรร่วมรักษา อาการดีขึ้น กินได้ นอนหลับลึก ลุกช่วยเหลือตัวเองได้ รายที่ 2 เพศหญิง อายุ 53 ปี ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 ผ่าตัดออกแล้ว ใช้เคมีบำบัด 3 จาก 8 ครั้ง แต่อาเจียนมาก เมื่อรักษาด้วยกัญชาทางการแพทย์ อาการดีขึ้นมาก
ขณะที่สมาคมเซลล์บำบัดไทย เผยตำราการแพทย์แผนไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยหลวงพรหมพิทักษ์ หมอแผนไทย บันทึกไว้ว่ากัญชารักษามะเร็ง เป็นพันธุ์เฉพาะที่เกิดบริเวณภูพาน เป็นพันธุ์ใบสีทอง
มีผู้ป่วยชายชาวเบลเยียม อายุ 81 ปี เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และลุกลามไปที่กระดูก หลังใช้สารซีบีเอ็นในกัญชาพันธุ์ใบสีทองนี้ ผู้ป่วยเริ่มเดินได้ กินข้าวได้ ค่ามะเร็งลดลง โดยไม่ได้ใช้เคมีบำบัด
นอกจากนี้สารซีบีดีในกัญชา ยังนำมาใช้รักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ โรคผมร่วงบางชนิด โดยสถาบันโรคผิวหนัง วิจัยสูตรเวชสำอางต้นแบบ 18 ตำรับ อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์นวดผิวเพื่อผ่อนคลาย
หากตำรับยาต่างๆ จากกัญชาใช้ได้ผลดี จะทำให้อุตสาหกรรมยาแผนปัจจุบันถูกแย่งชิงตลาด รายได้หดหายไปไม่น้อย จึงต้องหนุนหลังฝ่ายคัดค้านการใช้กัญชา และหวังจะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง
ขณะที่การปลดล็อกกัญชายังไม่สะเด็ดน้ำ ด้วยเพราะใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเป็นกุญแจเปิดทางกัญชา ที่ยังมีช่องโหว่ในการดูแลส่วนที่เป็นโทษ
พรรคภูมิใจไทยจึงยกร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งการแพทย์ ส่งเสริมการเพาะปลูก และควบคุมด้านที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและสังคม ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ผ่านสภาวาระแรกแล้ว แต่พอถึงวาระสอง กลับมีการยื้อที่จะไม่ให้ผ่านฉลุย เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงจากกัญชา
โดยฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ ที่เห็นว่าในภาคใต้ ซึ่งเป็นที่มั่นหลักของตัวเอง มีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยแม้จะเน้นใช้ทางการแพทย์ แต่เกรงว่าจะมีช่องโหว่ให้ชาวบ้านและเยาวชนไปเสพเพื่อสันทนาการ จึงต้องออกโรงค้านเต็มที่
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แม้จะออกมาตอบโต้ฝ่ายที่คัดค้าน แต่ลึกๆ แล้วก็ยังไม่อยากให้ร่างกฎหมายผ่านสภาในสมัยนี้ จะได้นำเอาไปหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ปั่นกระแสเรียกคะแนนได้อีกรอบ และคงจะมีกลุ่มคนไม่น้อยพร้อมจะกาบัตรให้
เมื่อพรรคภูมิใจไทย ได้กัญชาช่วยปั่น “กระแส” อีกรอบ รวมกับ “กระสุน” ที่เต็มคลัง ก็ไม่แปลกใจที่จะมีอดีต ส.ส.จากพรรคต่างๆ แห่ไปซบพรรคภูมิใจไทย
“กัญชา” จึงเป็นเกมที่มีผลประโยชน์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจอยู่เบื้องหลัง
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
