ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
อโยธยา รูปร่างหน้าตาเมืองสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
เมืองอโยธยาถูกบังคับสูญหาย จึงไม่พบผังเมืองและเรื่องราวความเป็นมาของอโยธยาในเอกสารการศึกษาผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของแหล่งมรดกโลก พระนครศรีอยุธยา ทั้งๆ ระบบรถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างมีทิศทางแนวเหนือ-ใต้ ผ่าเมืองอโยธยาเต็มๆ
- อโยธยา อยู่ตรงไหน?
อโยธยา อยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางด้านตะวันออก บริเวณปัจจุบันเป็นทางรถไฟและสถานีรถไฟอยุธยา
ตัวเมืองอโยธยามีคูน้ำคันดินทำผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และกำกับด้วยตำนานพงศาวดารอโยธยาศรีรามเทพนคร
- รูปร่างหน้าตาเมืองอโยธยา
เมืองอโยธยาสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีรายละเอียดได้จากงานวิจัยที่ได้ทุนจากศูนย์มานุษยวิทยา สิรินธร (องค์การมหาชน) เรื่อง ระบบลำน้ำสมัยอยุธยา (ศูนย์มานุษยวิทยา สิรินธร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2562) ของ พเยาว์ เข็มนาค (2490-2561) ชาว อ.อุทัย พระนครศรีอยุธยา อดีตข้าราชการกรมศิลปากร ตำแหน่งสุดท้ายเป็นหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ดังนี้
ด้านกว้าง แนวตะวันออก – ตะวันตก ประมาณ 1,400 เมตร
ด้านยาว แนวเหนือ-ใต้ ประมาณ 3,100 เมตร
ลักษณะการวางผังเมืองคล้ายกันมากกับเมืองสุพรรณบุรี แต่ที่สุพรรณบุรีคันดินยังเหลืออยู่ ส่วนเมืองอโยธยาไม่ปรากฏให้เห็นเลย
พเยาว์ เข็มนาค ศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 พบว่า
ด้านเหนือ คูเมืองยังปรากฏแนวชัดเจน ตั้งแต่เหนือวัดอโยธยาพุ่งตรงไปผ่านคลองทรายหรือแม่นํ้าป่าสัก ปัจจุบันเข้าเกาะลอย ชาวบ้านเรียกคลองบนเกาะช่วงนี้ว่าคลองวัดข้าวสารดำ แผนที่ของพระยาโบราณยังปรากฏแนวคูคลองช่วงนี้ให้เห็นอยู่
ด้านทิศตะวันตก คูเมืองคือคูขื่อหน้า ตอนเหนือของคูด้านนี้อยู่บนเกาะลอย ผ่านวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ไปชนกับคลองข้าวสารดำ ยังปรากฏร่องรอยจากภาพถ่ายเก่าให้เห็น
ด้านใต้ คูเมืองจากคูขื่อหน้าพุ่งเข้าคลองสวนพลู ซึ่งเป็นคูเมืองเดียวกันไปบรรจบกับคูเมืองด้านใต้ที่คลองพระนอน ยังปรากฏแนวคูชัดเจน พุ่งตรงผ่านด้านทิศใต้ของวัดใหญ่ชัยมงคลไปที่บริเวณวัดไก่เตี้ย (ร้าง)
ด้านทิศตะวันออก คือ คูเมืองคลองมเหยงคณ์ แต่ช่วงจากคลองกระมังลงไปทางใต้ (เขตวัดใหญ่ชัยมงคล) มีขาดเป็นช่วง (ภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496)



- คูคลองในเมืองอโยธยา
พเยาว์ เข็มนาค เป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด ได้เดินสำรวจด้วยตนเองหลายครั้งแล้วพบดังนี้
คูขื่อหน้า เป็นตัวกลางระหว่างกรุงศรีอยุธยากับอโยธยา
ฝั่งอโยธยานั้นมีคลองขุดเชื่อมกับคูขื่อหน้ามากกว่าทางกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้วก็ตาม มิได้หมายความว่าอโยธยาจะหมดความสำคัญลง แต่ยังให้ความสำคัญอยู่มาก ด้วยเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าว และใช้เป็นทุ่งนาหลวง วัดวาอารามต่างๆ ยังได้รับการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา จนสิ้นกรุงศรีอยุธยา ขุนนางบางท่านหรือแม้แต่เจ้าแม่ดุสิตก็มีนิวาสสถานอยู่ในเมืองอโยธยา
คูคลองในเมืองส่วนมากจะขุดให้อยู่ในแนวตะวันออก – ตะวันตก เป็นตาหมากรุกอย่างเป็นระเบียบ วัดวาอารามนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาบริเวณนี้จะมีมากกว่าบริเวณอื่นๆ
คลองแนวตะวันออก-ตะวันตก นับจากเหนือลงใต้
1.คลองวัดกระโจม ขุดเชื่อมระหว่างคลองทราย (แม่นํ้าป่าสัก) หรือคูเมืองด้านทิศตะวันตก กับคลองอโยธยาใต้วัดโบสถ์ราชเดชะ (ร้าง) ปัจจุบันไม่เหลือสภาพ แต่เห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 และปากคลองวัดกระโจม จากแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์
2.คลองวัดประดู่ ขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้าใต้วัดนางชี กับคลองอโยธยาเหนือวัดกุฎีดาว ปัจจุบันขาดช่วงเป็นช่วงๆ มีถนนตัดผ่าน ลำคูแห้ง มีวัชพืชขึ้นหนาแน่น แต่เห็นได้ชัดเจน จากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 และแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์
3.คลองบ้านบาตรและคลองกระมัง ขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้ากับคลองหันตรา ไปออกคลองข้าวเม่า ปากคลองด้านทิศตะวันตกบรรจบกับคูขื่อหน้าหรือแม่นํ้าป่าสักปัจจุบัน เป็นที่ตั้ง ของวัดพิชัย คำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมว่าด้วยที่ค้าขายนอกกรุง กล่าวไว้ว่า บ้านสามเขาระบุบาตร์เหล็กน้อยใหญ่ขาย บ้านริมวัดพิชัย ต่อหุ่นตลุ่ม พานแว่นฟ้าสองชั้นขายบริเวณวัดพิชัยนี้เป็นที่ตั้งค่ายของพระยาตาก ก่อนที่จะตีฝ่าวงล้อมพม่าไปตั้งฐานทัพอยู่ที่จันทบุรี
4.คลองข้าวสาร เป็นคลองขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้ากับคลองดุสิต ปากคลองข้าวสาร เป็นที่ตั้งของวัดเกาะแก้ว วัดปราสาท (ร้าง) กองทัพของพม่าตั้งอยู่บริเวณนี้ ในคราวศึกเสียกรุงครั้งแรก ที่กล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารว่า พม่าเอาศพทหารถมคูเมืองเข้ายึดป้อมราชคฤห์ และเข้าเมืองได้คือบริเวณนี้ ปากคลองมีประตูนํ้า
แผนที่ของชาวยุโรปที่เข้ามาในสมัยอยุธยา เขียนไว้ว่า บริเวณนี้เป็นอ่างใหญ่ เป็นที่ชุมนุมกันทางเรือ และมีสถานีการค้าย่อยของฮอลันดาอยู่บนฝั่งเกาะแก้วนี้อีกแห่งหนึ่งด้วย ย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีน ตั้งโรงเหล้า เลี้ยงสุกร ย่านค้าขายข้าว จึงได้ชื่อว่าคลองข้าวสาร และเป็นที่ตั้งของสถานีย่อยของฮอลันดาอีกแห่งหนึ่งด้วย
5.คลองขนมตาล หรือคลองถนนตาล อยู่ฝั่งใต้ของเกาะแก้ว ปากคลองด้านทิศตะวันตกบรรจบกับคลองสวนพลู ตะวันออกบรรจบกับคลองดุสิต และวัดสมอ (ร้าง) ปัจจุบันตื้นเขินมาก เรือเล็กเดินไม่ได้ ปากคลองทั้งสองด้านมีประตูนํ้า
- คลองแนวเหนือ-ใต้ มีดังนี้
1.คลองดุสิต เป็นคลองขุดในแนวเหนือ-ใต้ ปากคลองด้านบนบรรจบกับคลองกระมัง ปากคลองด้านใต้บรรจบกับคลองพระนอน มีวัดดุสิต (ศาลเจ้าแม่ดุสิต) อยู่ริมคลองฝั่งตะวันออก ปัจจุบันยังพอมีนํ้าให้เรือเล็กแล่นได้ มีประตูนํ้าริมสะพานข้ามคลองถนนสายโรจนะ
2.คลองอโยธยา กุฎีดาว คือ คลองขุดเชื่อมคลองหันตรากับคลองกระมัง ปากคลองด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดดุสิตและวัดอโยธยา ปากคลองด้านล่างบรรจบกับคลองกระมัง มีวัดสำคัญๆ อยู่หลายวัด เช่น วัดอโยธยา วัดดุสิต วัดโบสถ์ราชเดชะ วัดจักรวรรดิ วัดกุฎีดาว วัดสมณโกษฐาราม วัดนางคำ วัดสิงห์นารายณ์ เป็นต้น เป็นคลองที่มีกลุ่มโบราณสถานเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากคลอง กลางเมืองอโยธยาหนาแน่น ตื้นเขินหมด เรือเล็กใหญ่เดินไม่ได้
3.คลองโพธารามเป็นคลองขุดเชื่อมคลองบ้านบาตร์กับคลองปากข้าวสาร ยังพอเห็นแนวคลองได้จากภาพถ่ายทางอากาศ ปัจจุบันเหลือแนวคลอง ลักษณะสระนํ้าที่บริเวณปากคลองด้านเหนือ ส่วนตอนกลางและปลาย ปัจจุบันไม่เหลือร่องรอยให้เห็น มีถนนโรจนะตัดผ่านคลอง และเป็นที่ตั้งของสำนักงานทางหลวงอยุธยา บ้านเรือนราษฎร
4. คลองไม่มีชื่อ นอกจากนี้ยังปรากฏร่องรอยของคูคลองจากด้านทิศตะวันตกของวัดอโยธยา วัดจักรวรรดิ วัดกุฎีดาว วัดสมณโกษฐาราม วัดโคกมะเกลือ มาชนกับคลองกระมัง แนวเดียวกับคลองดุสิต แต่แนวคูดังกล่าวขาดเป็นช่วงๆ