ที่มา | สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
เผยแพร่ |
ในช่วงเวลาที่เหลืออีกครึ่งเดือนจะพ้นปี 2559 หรือ 2016 บรรดาสำนักข่าวต่างๆ ชิงสรุปและคัดเลือกข่าวเด่นแห่งปีกันแล้ว เช่นเดียวกับสถาบันที่แจกรางวัลต่างๆ ตั้งแต่ด้านบันเทิง กีฬา ไปจนถึงโนเบลก็ดำเนินการกันอย่างคึกคัก
สำหรับตัวบุคคลแห่งปีระดับอินเตอร์ ดูจะไม่มีใครไปแย่งตำแหน่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ เพราะครองพื้นที่สื่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ อาจเพราะทรัมป์พูดในสิ่งที่ชาวอเมริกันจำนวนมากคิด แต่นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่พูดให้ เพราะรู้ถึงผลกระทบที่จะมีต่อพรรคและต่อประเทศ
ล่าสุดการเปิดศึกกับพญามังกรจีน ไม่เคยมีว่าที่ประธานาธิบดี หรือประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใดเคยพูดและแสดงออกผ่านสื่อแบบนี้มาก่อน
นอกจากรับสายคุยตรงกับผู้นำหญิงของไต้หวันแล้ว ทรัมป์ยังกล้าท้าทายจีนด้วยคำถามว่า จำเป็นต้องยึดถือหลักการ จีนเดียว ด้วยหรือ? ถ้าให้ยึดจริงๆ สหรัฐควรได้ประโยชน์มากกว่านี้หรือไม่
นี่ดูจะเป็นการต่อรองในแนวธุรกิจที่ทรัมป์ถนัด
ปฏิกิริยาตอบกลับจากรัฐบาลจีนและสื่อกระบอกเสียงนับว่ายังคุมโทนอยู่ในระดับไม่เกรี้ยวกราด แค่เตือนเบาะๆ ว่าทรัมป์ไม่ควรทำเป็นเด็ก ให้เสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ทางการทูต
งานนี้น่าหวั่นวิตกไม่ธรรมดา แม้ว่าทรัมป์ดูจะมีท่าทีดีกับรัสเซียในการนำของ วลาดิมีร์ ปูติน แต่การวางท่าทีที่อาจทำให้จีนขุ่นใจนั้นเป็นการเดิมพันที่คาดเดาผลกระทบไม่ออก เพราะไม่มีใครเคยทำมาก่อน
นิวยอร์กไทม์ส สื่อทรงอิทธิพลของอเมริกา ประเมินผลที่อาจสะท้านสะเทือน 5 ด้าน
อย่างแรกคือการค้าและการลงทุน อย่างบริษัทโบอิ้งที่เคยลิงโลดว่าขายเครื่องบินให้จีนได้หมื่นล้านดอลลาร์ ถ้าจีนเคืองขึ้นมาจริงๆ อาจเปลี่ยนไปซื้อแอร์บัสของยุโรปแทน ส่วนเรื่องการลงทุน ตั้งแต่ปี 2558 จีนลงทุนในสหรัฐมากกว่าที่สหรัฐไปลงทุนในจีน
ผลอย่างที่สองคือเรื่องเกาหลีเหนือ ที่ทรัมป์ต่อว่าจีนไม่ช่วยอะไรเลย ทั้งๆ ที่จีนโอนอ่อนเห็นชอบกับมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือในนามสหประชาชาติไปแล้ว ถ้าหมางใจกัน นอกจากจีนไม่ช่วยแล้วอาจไปถือหางเกาหลีเหนือเลยก็ได้
ผลอย่างที่สาม คือเรื่องมาตรการลดโลกร้อน จากเดิมที่บารัค โอบามา จับมือสี จิ้นผิง ว่าจะช่วยกันลดปริมาณปล่อยคาร์บอนเพื่อเห็นแก่โลกใบนี้ แม้ว่าท่านสีคงไม่ยกเลิกสัญญานั้น เพราะท่านได้ใจคนจีน แต่สำหรับทรัมป์ผู้เคยปรามาสว่าโลกร้อนเป็นเรื่องหลอกลวง กรณีนี้จะย้อนกลับไปดิสเครดิตอเมริกาเอง
ผลอย่างที่สี่ อนาคตของไต้หวัน ถ้าคิดแยกตัวขึ้นมาจริงๆ เพราะมีอเมริกาหนุนหลัง ชาวโลกคงต้องหวาดหวั่นกับการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของจีน
ผลสุดท้าย ข้อตกลงยกเลิกแซงก์ชั่นอิหร่าน จากเดิมที่ทำให้จีนสบายใจการทำการค้ากับอิหร่านอย่างเปิดเผย ส่วนอเมริกาก็พาจะขายของเพิ่มได้ เช่นขายเครื่องบินโบอิ้งให้อิหร่าน ถ้าทรัมป์ยอมทิ้งผลประโยชน์ตรงนี้ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้
สำหรับประเทศเล็กประเทศน้อยอื่นๆ รวมถึงไทย ถ้าพญามังกรกับพญาอินทรีแตกหักกันขึ้นมาจริงๆ การเลือกข้างนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก และการไม่เลือกก็อาจทำให้ลำบากพอๆ กัน
นี่จึงเป็นเรื่องระทึกต่อในปีหน้า