สถานีคิดเลขที่ 12 : 62 และ 66 ต่างกันมาก

สถานีคิดเลขที่ 12 : 62 และ 66 ต่างกันมาก การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ใกล้เข้ามาเต็มที

การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ใกล้เข้ามาเต็มที เริ่มเห็นแนวโน้มของผลการเลือกตั้งชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งหนล่าสุดที่ผ่านมา คือ 24 มีนาคม 2562 จะพบว่ามีความแตกต่างกันมากกับปี 2566 นี้ในหลายประเด็นทีเดียว

เริ่มต้นที่กติกาก็เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะการใช้บัตร 2 ใบ แยก ส.ส.เขตกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถมการคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ใช้สูตรหาร 100

กติกานี้ เข้าทางพรรคใหญ่อย่างมาก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงกล้าประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์

แถมหนที่แล้ว เพื่อไทยใช้กลยุทธ์แตกแบงก์พัน มีพรรคไทยรักษาชาติ เตรียมเก็บกวาดปาร์ตี้ลิสต์ แต่โดนยุบพรรคเสียก่อน จึงทำให้เหลือเพื่อไทยเดี่ยวๆ ได้แต่ ส.ส.เขต ไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่เก้าอี้เดียว

ADVERTISMENT

หนนี้ไม่เหมือนปี 2562 ทุกอย่างเข้าทางเพื่อไทย

ไม่เท่านั้น ที่เปลี่ยนไปอย่างมากระหว่างเลือกตั้ง 2562 และ 2566 ก็คือ กระแสความต้องการของประชาชน

ADVERTISMENT

กระแสความต้องการเปลี่ยนแปลงการเมือง มาแรงอย่างมากในคราวนี้

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ผลโพลของสำนักต่างๆ รวมทั้งโพลที่กว้างขวางครอบคลุมโดยความร่วมมือของ 2 สื่อใหญ่ มติชนและเดลินิวส์ ออกมาในทิศทางที่พรรคก้าวไกลมาแรงอย่างยิ่ง ตามติดมาด้วยพรรคเพื่อไทย

แน่นอนว่าผลโพล ไม่ใช่ผลการเลือกตั้ง จำนวนผู้แสดงความคิดเห็นในโพล ยังน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ไปเลือกตั้งจริงๆ หลายสิบล้าน

แต่โพลคือการบอกกระแสสังคมในเวลานี้ บ่งชี้ความต้องการของประชาชน บอกแนวโน้ม บอกทิศทางได้

กระแสโพลที่บ่งชี้ว่าพรรคก้าวไกลมาแรงอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่าพรรคก้าวไกล เป็นความต้องการของประชาชนอย่างมาก

รวมไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน บางโพลก็ระบุว่าเพื่อไทยมาแรงเป็นอันดับ 1 โดยมีก้าวไกลมาเป็นอันดับ 2

รวมๆ แล้วไม่ว่าโพลไหน ก็จะบ่งชี้ว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยคือ เพื่อไทยและก้าวไกลนี่แหละ คือความต้องการของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้

ขณะที่พรรคลุงๆ ผลโพลแทบทุกสำนักก็จะออกมาทำนองเดียวกัน คือ ตามหลัง 2 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยแบบห่างๆ

ทั้งนี้ เพราะพรรคลุงๆ บริหารประเทศมายาวนานเกินไป 5 ปียุครัฐบาลทหาร กับ 4 ปียุครัฐบาลที่มี 250 ส.ว.โหวตให้ และไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรให้ประชาชนดีพอ

ขณะที่ชาวบ้านกำลังนั่งคิดว่าจะเลือกพรรคไหน พอเห็นค่าไฟฟ้า เห็นค่าน้ำมันรถ เห็นค่าก๊าซหุงต้ม เห็นค่าเสื้อผ้าเด็กๆ ช่วงใกล้เปิดเทอม รวมทั้งเห็นคนแห่เข้าโรงจำนำเพื่อเตรียมส่งลูกเข้าเรียน

เช่นนี้แล้วแนวโน้มการเลือกตั้ง 2566 จะไม่ต่างจาก 2562 ได้อย่างไร

มองโพลก็ชัดว่า 2 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยนำลิ่ว ส่วนพรรคลุงๆ ก็หล่นวูบ

มองตัวเลขจากสนามเลือกตั้งจริง โดยไม่ดูแค่กระแส แต่ดูกลไกเครือข่ายหัวคะแนน เครือข่ายบ้านใหญ่ประกอบ

พบว่าตัวเลขของฝ่ายประชาธิปไตย นำโด่ง พรรคอันดับ 1 ทะลุ 200 ไปไกล ส่วนพรรคลุงๆ อยู่ต่ำกว่า 50 แน่ๆ

ความจริงวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า ผลเลือกตั้ง 2566 จะต่างจาก 2562 อย่างมาก

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image