สถานีคิดเลขที่ 12 : ทางออกและจุดเปลี่ยน

สถานีคิดเลขที่ 12 : ทางออกและจุดเปลี่ยน อีกไม่กี่อึดใจ จะได้เดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง

อีกไม่กี่อึดใจ จะได้เดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งกันแล้ว ใครที่มีสิทธิมีเสียง คงไม่พลาดการไปร่วมใช้สิทธิครั้งนี้ อาจจะได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนคนไทยตื่นตัวกันมากที่สุดก็ได้
ดูจากบรรยากาศของผู้คนต่อการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 นี้ นับว่าคึกคักเข้มข้นอย่างเห็นได้ชัด
เกิดกระแสเรียกร้องต้องการ ให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงเสียที เพื่อให้พ้นจากความล้าหลังลำบากยากแค้น
จนสัมผัสได้ชัดเจนว่า กระแสร้อนแรงของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ขั้วตรงข้ามอำนาจเดิมนั้น แผ่กว้างไปทั่ว

ยิ่งถ้าผลการเลือกตั้งออกมา โดยพรรคที่เป็นความหวัง สามารถชนะแบบถล่มทลาย ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
นั่นจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นทางออกให้กับประเทศได้แท้จริง บรรยากาศประชาธิปไตยเสรีจะเริ่มเบ่งบาน เดินหน้าไปสู่ความเจริญทันสมัย เศรษฐกิจการค้าอันรุ่งเรืองจะกลับมา

เพียงแต่มีความกังวลกันว่า กลุ่มอำนาจที่กระแสตกต่ำดำดิ่ง พยายามคิดหาช่องทางดิ้นรนรักษาอำนาจเอาไว้ทุกวิถีทาง
จนเกิดกระแสข่าว สูตรรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยอาศัยเสียง 250 ส.ว.เข้ามาร่วม
ไปจนถึงกระแสข่าวยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และการเตะสกัดทุกทาง

ดังนั้น ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาในลักษณะที่พรรคในฝ่ายขั้วประชาธิปไตยชนะแบบเด็ดขาด กวาด ส.ส.ได้ทะลุ 200 มากๆ
อาจจะส่งผลให้ต้องเลิกล้มความคิดดิ้นรนพลิกเกมตั้งรัฐบาลแบบพิสดารอะไรดังกล่าว

ADVERTISMENT

เอาง่ายๆ ว่า ถ้าทุกฝ่ายยอมรับผล เคารพเสียงประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ เดินหน้าไปตามกฎกติกาอย่างตรงไปตรงมา
การเมืองหลังการเลือกตั้ง ก็จะไปในทิศทางถูกต้อง ทำให้การเลือกตั้งเป็นทางออกที่ดี ประเทศชาติเดินหน้า ปัญหาปากท้องประชาชนจะได้รับการคลี่คลาย

ใครแพ้ก็รอเวลาอีก 4 ปี หรือถ้ามีการยุบสภาก็จะเร็วขึ้น แล้วมาว่ากันใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนอาจจะหันมาเลือกพรรคการเมืองฝ่ายที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ให้กลับมาอีกครั้งได้

ADVERTISMENT

ทั่วโลกเขาเดินมาตามวิถีทางนี้ตลอด แพ้ก็ยิ้มรับ รอวาระอีก 4 ปี ไม่มีลากปืนลากรถถังออกมา การเมืองจึงไม่วุ่นวายและบ้านเมืองก็พัฒนารุดหน้าไปเรื่อยๆ

การเมืองไทยหลัง 14 พฤษภาคม ยังต้องจับตามองกันต่อไป โดยหวังว่า จะเป็นการเมืองที่รุดไปข้างหน้า เพราะปัญหาของชาวบ้านมากมายรอแก้ไขอยู่ โดยรัฐบาลชุดใหม่

ขณะเดียวกัน จับกระแสข่าว ทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับไทยมาเลี้ยงหลาน ในเดือนกรกฎาคม ถ้ามาจริงและมาโดยยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ลั่นวาจาไว้ ก็มองได้ว่าเป็นเรื่องที่ดี
แม้บางคนจะห่วงว่า จะจุดชนวนความวุ่นวาย แต่หลายคนก็มองว่า ถ้าทักษิณทำตามที่ประกาศไว้จริง บ่งบอกว่า เกิดการประนีประนอมแล้ว

ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมืองเกือบ 20 ปี อาจมาถึงจุดเปลี่ยนใหม่ก็ได้ โดยใช้การเจรจาเข้ามาแก้ไขปัญหา
ถึงขั้นมีข่าวว่า การเมืองหลังเลือกตั้ง จะมีการประนีประนอมรอมชอม ปรองดองสุดขีด อะไรประมาณนั้น

จะแนวไหนอย่างไรก็ตาม ขอให้อยู่ในวิถีทางประชาธิปไตย อยู่ภายใต้ผลเลือกตั้ง ยึดเสียงประชาชนในหีบบัตรเป็นสำคัญ

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image