บริหาร ทหาร การยุทธ์ การรบรุก บริหาร กองทัพ

บริหาร ทหาร การยุทธ์ การรบรุก บริหาร กองทัพ

บริหาร ทหาร การยุทธ์ การรบรุก บริหาร กองทัพ

แม้ว่าแก่นแกนของซุนวูในการรจนาบทว่าด้วย “การเดินทัพ” จะมีความชัดเจนอย่างยิ่งด้วยการเน้นรายละเอียดแต่ละภูมิประเทศ
กระนั้น ก็ยังแฝงรายละเอียดอันมิควรมองข้าม
ถ้าข้าศึกร้องตระหนกตกใจในยามกลางคืน แสดงว่าข้าศึกผวาหวาดกลัว ถ้าข้าศึกในค่ายชุลมุนวุ่นวาย แสดงว่าแม่ทัพนายกองไม่เป็นที่เคารพยำเกรงของเหล่าทหาร
ถ้าเห็นธงทัพข้าศึกโบกไหวไม่เป็นระเบียบ แสดงว่าข้าศึกได้แตกแถวชุลมุน
ถ้านายทหารของข้าศึกโมโห โกรธกริ้วง่าย แสดงว่าเหล่าทหารเหนื่อยอ่อน ไม่มีเรี่ยวแรง
ถ้าข้าศึกเอาเสบียงข้าวมาเลี้ยงม้า ฆ่าม้ากิน เก็บภาชนะหุงต้มขึ้น และไม่ยกทัพเข้าข่าย แสดงว่าข้าศึกกำลังจนตรอก
ตระเตรียมตีฝ่าวงล้อมอย่างไม่คิดชีวิต

ถ้าแม่ทัพนายกองของข้าศึกพูดจากับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างนบนอบ ขาดความสง่าผ่าเผย แสดงว่าผู้นั้นไม่เป็นที่เคารพเลื่อมใสของเหล่าทหาร
ถ้าแม่ทัพนายกองของข้าศึกต้องคอยปูนบำเหน็จรางวัลให้ทหารอยู่เสมอ
แสดงว่าเขาจนปัญญาที่จะบังคับบัญชากองทัพ
ถ้าแม่ทัพนายกองของข้าศึกต้องคอยลงโทษทหารอยู่เสมอ แสดงว่าข้าศึกกำลังเข้าตาจนอยู่ในสภาพลำบาก
ถ้านายทหารแสดงความโหดเหี้ยมต่อทหาร
แต่ต่อมาก็กลับหวาดระแวงพวกเขา แสดงว่าเขาเป็นแม่ทัพนายกองที่ไม่ชาญฉลาดที่สุด
และตอนหนึ่งก็ลงเอยตามสำนวนแปล อธิคม สวัสดิญาณ ว่า
แม่ทัพที่ไม่มีความคิดและประมาทข้าศึกจะต้องตกเป็นเชลยข้าศึกแน่

ลี่ก๊วง สืบเชื้อสายจาก ลี่สิ่น แม่ทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีอ๋อง ซึ่งนับว่าเป็นทหารอาชีพที่เก่าแก่ที่สุด
ลี่ก๊วงเริ่มมีชื่อเสียงในการรบเผ่าฮั่น ปี ค.ศ.378
ขณะนั้นแม้จะยังเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยแต่เป็นที่โปรดของกษัตริย์บู่ตี่เป็นอันมาก
สืบมาถึงกษัตริย์กงตี่ได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองตามชายแดน
นั่นก็คือเมืองทางด้านภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นเมืองที่ต้องรบกับเผ่าฮั่น
และเผ่าฮั่นก็กลัวลี่ก๊วงมาก
มีเหตุผลที่เผ่าฮั่นจำเป็นต้องกลัว
ครั้งหนึ่ง ลี่ก๊วงนำทหารจำนวนร้อยกว่าออกลาดตระเวนไปพบกับทหารเผ่าฮั่นจำนวนหลายพัน
เป็นสถานการณ์ที่ลี่ก๊วงไม่อาจถอย
จึงตั้งคุมเชิงกันอยู่ ในที่สุด เผ่าฮั่นคิดว่าลี่ก๊วงจะลวงทัพตนเข้าที่ล้อม เลยถอยไปเฉยๆ
ลี่ก๊วงออกรบเสมอและชนะทุกครั้ง
แต่เสียทหารมากเกินไปเพราะเผ่าฮั่นมักจะใช้ทหารจำนวนมากเข้าล้อมลี่ก๊วงเพื่อจะจับเป็น
และครั้งหนึ่งก็จับได้จริง

Advertisement

ล. เสถียรสุต ระบุผ่านหนังสือ “หลายชีวิตในพงศาวดารจีน” ว่า ลี่ก๊วงสามารถหนีออกจากที่คุมขังได้
ตามกฎข้อบังคับทหารราชวงศ์ฮั่น
นายทัพที่เสียทหารหมดและหนีทัพมาได้นั้นกลับจะต้องได้รับโทษหนัก อาศัยที่ลี่ก๊วงทำความดีไว้มาก
จึงเพียงไล่ออกเท่านั้น
ต่อมา เผ่าฮั่นเข้าตีจีนเป็นการใหญ่ทางการจึงต้องเรียกลี่ก๊วงเข้าประจำการอีก มอบหมายทหารม้าจำนวน 2,000 คน
ทำการลอบโจมตีจนเผ่าฮั่นตั้งตัวไม่ติดและถอยกลับไป
นับแต่นั้น ลี่ก๊วงก็ได้รับสมญาว่า “นายพลบิน” ความหมายก็คือ เข้าตีเร็วเหมือนบินมา
ถามว่าเส้นทางทหารลี่ก๊วงช่วงโชติชัชวาลหรือไม่

พ.ศ.425 จีนยกทัพ 300,000 เข้าตีเผ่า
ฮ่นขั้นเด็ดขาด ลี่ก๊วงขออาสาอยู่กองหน้า แต่อวยเซ่ง แม่ทัพใหญ่เห็นว่า
ลี่ก๊วงอายุมากและเป็นคนอับโชค
เพราะรบชนะมาเรื่อยแต่ไม่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ (จีนถือว่านายทหารที่มีบรรดาศักดิ์นั้น เป็นนายทหารที่มีความรู้ดี เป็นแม่ทัพได้ ที่ไม่ได้บรรดาศักดิ์เป็นทหารที่ไม่รู้จักหนังสือได้แต่รับคำสั่ง)
ฉะนั้น จึงให้ลี่ก๊วงนำทหารปีกขวาไปสมทบกับทัพหลวง
ที่แนวทัพลี่ก๊วงเกิดหลงทางในทะเลทราย ไปไม่ทันตามคำสั่งเป็นเหตุให้กองทหารฮั่นถอยหนีไปได้
ตามระเบียบลี่ก๊วงต้องถูกพิจารณาโทษ
ลี่ก๊วงเสียใจมากที่รบชนะมาหลายสิบครั้งเป็นที่กลัวเกรงของทหารเผ่าฮั่น แต่ไม่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
ซ้ำยังต้องถูกพิจารณาโทษในวัยชรา
จึงฆ่าตัวตายในที่คุมขัง

บทเรียนของลี่ก๊วงจึงเป็นบทเรียนอันทรงความหมาย สะท้อนให้เห็นว่าทหารที่รบเก่งก็ไม่แน่ว่าจะเป็นแม่ทัพที่ยอดเยี่ยม
แม้จะมีคนอย่าง “ลิบอง” ในทัพของซุนกวน
นั่นก็คือ รบเก่ง วางแผนเก่ง แต่พื้นฐานที่ขาดพร่องไปก็เป็นเช่นเดียวกับลี่ก๊วง นั่นก็คือ ไม่รู้หนังสือ
นี่จึงเป็นจุดที่ลี่ก๊วงจำเป็นต้องปรับปรุง
กระนั้น แม่ทัพก็ใช่ว่าจะสามารถดำเนินการโดยตนแต่เพียงผู้เดียวโดยมิได้พึ่งพิงต่อปัจจัยอื่น
ดังที่เมื่อมีลิบองก็ย่อมต้องมีลกซุน
จึงสามารถกำราบทัพของกวนอูให้ถอยร่นและเข้ายึดเกงจิ๋วได้อย่างงดงามด้วยการนำบทเรียนจาก “เพลงฉู่รอบทิศ” มาเป็นกลยุทธ์
การจึงดำเนินไปดังที่ “ซุนวู” ได้สรุปอย่างรวบรัด

Advertisement

อันการรบทัพจับศึกนั้น ไม่ใช่ว่ามีกำลังทหารมากแล้วจะดีเสมอไป ขอเพียงไม่ผลีผลาม
บุ่มบ่าม บุกเข้าตีข้าศึก
แต่ให้รวบรวมกำลังทหาร พิจารณาสภาพของข้าศึก และสร้างความสามัคคีขึ้นในหมู่ทหารก็เพียงพอแล้ว
แม่ทัพที่ไม่มีความคิดและประมาทข้าศึก จะต้องตกเป็นเชลยข้าศึกแน่
หากทำการลงโทษทหารทั้งที่พวกเขายังไม่เคารพนับถือในตัวผู้บังคับบัญชา จะทำให้พวกเขาเกิดความกระด้างกระเดื่อง
ซึ่งจะยากแก่การบังคับบัญชา

และหากไม่ลงโทษตามวินัยในเมื่อทหารมีความเคารพนับถือในตัวผู้บังคับบัญชาแล้ว ก็จะใช้พวกเขาออกรบไม่ได้
ถ้าต้องการให้ทหารทั้งกองทัพมีความพร้อมเพรียงกัน
ก็ต้องเอาชนะใจพวกเขาด้วยความเมตตากรุณา ควบคู่ไปกับการใช้วินัยทหารอย่างเฉียบขาด
เช่นนี้จึงจะเป็นที่ยำเกรงและรักใคร่ของทหาร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image