ที่เห็นและเป็นไป : หรือทิ้งความหวังประชาชน

ที่เห็นและเป็นไป : หรือทิ้งความหวังประชาชน

ที่เห็นและเป็นไป : หรือทิ้งความหวังประชาชน

คนที่ปรารถนาให้พรรคการเมืองในฟากยึดมั่นในประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลได้ สมกับที่พร้อมใจกันเข้าคูหากาบัตรให้ชนะเลือกตั้ง ส่วนใหญ่เจ็บปวดกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล”

เข้าสู่ปีที่ 10 แล้วที่ประชาชนต้องทนกับผู้ครองอำนาจที่มาจากการทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จากนั้นเขียนรัฐธรรมนูญและจัดตั้งกระบวนการเพื่อ “สืบทอด” ครองอำนาจต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้

พรรคที่ถูกทำรัฐประหารทำให้ผู้นำพรรคต้องหลบหนีออกนอกประเทศสองคนติดๆ คือ ผู้พี่ “ทักษิณ ชันวัตร” สมัยเป็น “พรรคไทยรักไทย” และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จาก “พรรคเพื่อไทย”

Advertisement

คนจำนวนไม่น้อยทุ่มเทต่อสู้เพื่อต่อต้านการแย่งชิงอำนาจจากประชาชน บ้างสละชีวิต บ้างสละเลือดเนื้อ บ้างสละอิสรภาพ บ้างยืนหยัดความคิด แสดงจุดยืนต่อต้านอย่างท้าทาย หลายคนส่งกำลังใจ กำลังทรัพย์ช่วยสนับสนุนความเคลื่อนไหว

คนที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย ในอำนาจประชาชน ไม่มีใครนิ่งนอนใจ ไม่มีใครย่อท้อที่จะยืนหยัดในความเชื่อมั่นต่ออำนาจประชาชน

ชัดเจนที่สุดคือทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ได้พิสูจน์ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะช่วยกันเทคะแนนให้พรรคที่มีอุดมการณ์มั่นคงกับ “อำนาจประชาชน”

Advertisement

“ไทยรักไทย พลังประชาชน” จนมา “เพื่อไทย”

แต่ทั้ง “รัฐบาลไทยรักไทย-รัฐบาลพลังประชาชน-รัฐบาลเพื่อไทย” ถูกทำลายยับเยินจาก “ขบวนการสืบทอดอำนาจ” โดยมองไม่เห็นทางที่จะผงกหัวขึ้นมาเห็นเดือนเห็นตะวันแห่งความหวังว่า “อำนาจจะคืนมาเป็นของประชาชน”

เข้าสู่ปีที่ 10 แล้วที่ประชาชนทนอยู่กับความอึดอัด

เป็นความอึดอัด เบื่อหน่าย ที่มีผู้นำจำนวนมากออกมาหาทางต่อต้าน ขับไล่

พลเมืองที่ไม่ทนอายุน้อยลงเรื่อยๆ ผู้แสดงความสิ้นหวังต่อการไม่เห็นโอกาสจะมีอนาคตที่ดีงามอายุน้อยลงเรื่อยๆ จากคนทั่วไป มาเป็นนักศึกษา มาเป็นนักเรียนมัธยม การต่อต้านขยายประเด็น ไปมากมาย

มีพรรคการเมืองที่ต่อสู้เพื่อต่อต้าน “ขบวนการสืบทอดอำนาจ” หลายพรรค ทั้งพรรคเก่าและพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่

การต่อสู้ที่ทรงพลังของเยาวชนค่อยๆ แผ่วลง เพราะยิ่งนับวันยิ่งรับรู้ถึงความโดดเดี่ยว และถูกทอดทิ้งจากพรรคการเมืองเกือบทั้งหมด

มี “พรรคอนาคตใหม่” เกิดขึ้น การเลือกตั้งปี 2562 ได้รับเลือกตั้งมามากเหนือความคาดหมาย แต่ถูกยุบพรรคด้วยข้อมูลที่รู้กันว่าเพราะอะไร

“อนาคตใหม่” เปลี่ยนมาเป็น “ก้าวไกล” จะยืนหยัดหนักแน่น ห้าวหาญทั้งการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภา และการเสนอแนวคิดเคลื่อนไหวยืนอยู่ข้างนักสู้เยาวชนที่ลำบากยากเย็นอยู่บนท้องถนน พร้อมๆ กับแสดงออกชัดเจนถึงการยืนหยัดต่อต้านโครงสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมทุกมิติ เข้มข้น

ท่ามกลางกลิ่นอายของการแช่แข็งประเทศไทยเพื่อสืบทอดอำนาจต่อเนื่องยังกดข่มผู้คนให้สิ้นหวัง การเลือกตั้งครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น

การเลือกตั้ง 2566 ที่เพิ่งผ่านมา

พรรคเพื่อไทยยังเป็นความหวังของประชาชน ฝ่ายประชาธิปไตยที่เริ่มหันมามอง “พรรคก้าวไกล” มากขึ้น

ในโค้งสุดท้ายชัดเจนว่า “กระแสต่อต้านการสืบทอดอำนาจ” พลิกมาเป็นฐานคะแนนหลักของการเลือกตั้ง

“ความชัดเจน” ของ “พรรคก้าวไกล”

“ความอ้ำอึ้ง” ของ “พรรคเพื่อไทย”

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ “เพื่อไทย” หลีกหนีดีเบต ขณะของ “ก้าวไกล” โชว์เหนือพรรคอื่นในแทบทุกเรื่องในทุกเวที

ระหว่างนโยบายที่สร้างความหวังในเรื่องปากท้อง กับการประกาศกร้าวที่จะ “เปลี่ยนประเทศ” ในความหมายเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจให้มีประสิทธิภาพ สร้างความหวังในอนาคตที่ดีกว่าให้ประชาชน โดยเฉพาะคนเยาวชนคนรุ่นใหม่

ผลเลือกตั้งออกมาชัดเจนว่า “ประชาชนร่วมสู้กับการสืบทอดอำนาจด้วยการเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาถล่มทลาย”

เพียงแต่ที่ผิดคาดคือ “ก้าวไกล” ได้รับเลือกตั้งมามากกว่า “เพื่อไทย” ที่ตั้งเป้าไว้สูงมาก แต่ไม่เป็นไปตามนั้น

มีการลงนามใน “บันทึกความเข้าใจร่วมกัน” หรือ “MOU” ของ 8 พรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

เป็นบันทึกความเข้าใจ เพื่อสนองรับการตัดสินใจของประชาชนที่ต้องการ “ปลดล็อกประเทศจากขบวนการสืบทอดอำนาจ”

แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น ตำแหน่ง “ประธานสภา” หรือกระทั่ง “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” รวมถึง “โควต้ารัฐมนตรี”

มีความสำคัญต่อ “พรรคการเมืองที่ประชาชนเทใจฝากความหวังไว้” มากกว่า “ภารกิจหยุดขบวนการสืบทอดอำนาจ” หรือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image