ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
ซีรีส์‘ฟรุตสลัด’
การเมืองไทยช่วงนี้เหมือนดูซีรีส์เกาหลี จบ EP.1 ไปแล้วเมื่อ 14 พ.ค. ที่หลายคนเซอร์ไพรส์ หลายพรรคถึงกับช็อก เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคก้าวไกลกวาดว่าที่ ส.ส.ไปได้มากสุด เบ็ดเสร็จรวมทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ 151 คน มากกว่าพรรคเพื่อไทย ที่เสียแชมป์หล่นไปอันดับ 2 ได้มา 141 ที่นั่ง
ขณะนี้เริ่ม EP.2 ตอนการจัดตั้งรัฐบาล มาสักพักแล้ว
พรรคก้าวไกล ที่มีเสียงมากสุดได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลโดยชู “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ
แต่ 151 เสียงของพรรคก้าวไกล ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือ 250 คน ของสภาผู้แทนราษฎร 500 คน จึงต้องดึงขั้วพรรคร่วม ฝ่ายค้านเดิมและพรรคใหม่รวม 8 พรรค 312 เสียง
หากเป็นรัฐธรรมนูญฉบับก่อน การตั้งรัฐบาลคงฉลุยมี “พิธา” เป็นนายกฯชัวร์ป้าบ แฮปปี้เอนดิ้ง สมใจด้อมส้ม
แต่ทว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทพิสดาร นั่นคือ มาตรา 272 ที่ให้ 250 ส.ว.เป็นผู้ร้ายมาแจมโหวตเลือกนายกฯด้วยจึงต้องมีเสียงทั้งสองสภา 376 เสียงขึ้นไป
ดังนั้น ต้องหาทางดูดเสียงจาก ส.ส.พรรคอื่นหรือจาก ส.ว.มาหนุนเพิ่ม แต่จะได้ตามเป้าหรือไม่ …เป็นอีกฉากที่ต้องรอลุ้นระทึกในวันรัฐสภาเปิดโหวตเลือกนายกฯ
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ก็มีฉากเดือดให้ซี้ดปากหลายตอน จากวันที่หัวหน้า 8 พรรคเซ็นเอ็มโอยู 23 ข้อ และแถลงข่าวเมื่อ 22 พ.ค.
ปรากฏว่า “ศิธา ทิวารี” รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แอบสวมบทเป็นสื่อ ถามและเสนอให้ทั้ง 8 พรรค ยกระดับเป็นแอดวานซ์เอ็มโอยู จับมือกันตลอดไป แม้จะเป็นฝ่ายค้าน ท่ามกลางข่าวสะพัดมีบางพรรคจะสลับขั้วใหม่
ทำให้ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดือดดุออกมาซัด “ศิธา” ว่าเสียมารยาท ทั้งที่อยู่ในวงเจรจาเอ็มโอยูด้วยกัน กลับไปทำเป็นคนนอกมาถามกลางวงแถลงข่าว
จากนั้นก็เปิดศึกวิวาทะโต้กันไปมาทั้งผ่านสื่อโซเชียลและการให้สัมภาษณ์ จนถึงขั้นที่ “ชลน่าน” ฉุนขาดหลุดปากว่า “ถ้าชกได้ ชกไปแล้ว” แถมบีบพรรคก้าวไกลจะเลือก 6 เสียง หรือ 141 เสียง…เป็นอีกซีนที่ตื่นเต้นเร้าใจ
อีกฉากที่ดุเดือดเลือดพล่านคือศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยแต่ละพรรคต่างยกเหตุต่างๆ นานา เพื่อขอนั่งเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
แกนนำทั้งสองพรรคต้องเจรจาหาข้อสรุปหาทางลงสวยๆ วินๆ ไม่เช่นนั้นการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอาจมีปัญหาบานปลายได้
ขณะที่กองเชียร์ กองแช่งทั้งสองพรรคยังออกมาใส่กันแรงๆ ผ่านสื่อโซเชียล เพื่อหวังให้คนของพรรคตัวเองได้เป็นประธานสภา แถมมีเอฟซีบางส่วนยุให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลด้วยซ้ำ
ขณะนี้ EP.2 ว่าด้วยการจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่จบ ตามโปรแกรมแล้ว ต้องรอ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.เป็นทางการ ภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง หรือไม่เกิน 13 ก.ค. และต้องรับรองอย่างน้อย 95% หรือ 475 คน เพื่อเปิดประชุมรัฐสภา คาดว่าจะเป็นช่วงปลาย ก.ค.
รอลุ้นฉากการโหวตเลือกประธานสภา หากเคลียร์กันจบก่อนว่าจะให้ใครนั่ง คงไม่เร้าใจเท่าไหร่ แต่ถ้าถึงขั้นแข่งโหวตกันก็มันพ่ะย่ะค่ะแน่ เพราะจะเปลี่ยนบทไปถึงฉากการโหวตเลือกนายกฯทีเดียว
ตอนนี้คนดูต่างเดาฉากจบ EP.2 จะลงเอยอย่างไร…เก้าอี้ประธานสภาอาจผ่านฉลุย แต่เก้าอี้นายกฯที่ชื่อ “พิธา” จะฝ่าด่าน 376 เสียงได้ไหม หรือจะมีต่อ EP.3 ต้องโหวตกันอีกรอบ แต่ไม่ใช่ชื่อ “พิธา”
ซีรีส์ “ฟรุตสลัด” จะมีส้ม-สตรอเบอรี่แดง และอีก 6 ชนิดเหมือนเดิมไหม หรือจะมีแห้วโผล่มาแทรก…ลุ้นด้วยความระทึก
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม