โลกปีหน้า โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

ถ้าไม่นับ “ศาสตร์แห่งโหร” หนังสือพยากรณ์สถานการณ์ปีต่อไปของสำนักพิมพ์มติชนแล้ว หนังสือที่มีบทวิเคราะห์สถานการณ์โลกในปีหน้าและน่าอ่านไม่แพ้กัน คือ นิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ของอังกฤษ เพราะครอบคลุมมุมมองทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อีกทั้งคาดการณ์ “แม่น” ในหลายๆ เรื่อง แม้จะทำนายโดยใช้คนละศาสตร์กับโหร

ทุกๆ ปี ช่วงท้ายปีอีโคโนมิสต์จะมีนิตยสารฉบับพิเศษ The World ตามด้วย in ปีต่อไป เช่นปีนี้ เป็น The World 2017 ทำนายเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในปีต่อไป

ในเล่มเดียวกันนี้ ทีมงานยังสรุปผลการวิเคราะห์ของปีที่ผ่านมาด้วยว่า มีอะไรที่ตรงตามคำทำนายและอะไรที่ผิดคาด-พลิกล็อก อย่างตรงไปตรงมา

เช่นปี 2559 นี้ถ้าดูเฉพาะหน้าปกหนังสือแล้ว ดิ อีโคโนมิสต์ทำนายถูกว่า สามสตรีที่จะครองอิทธิพลโลกคือ นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ และ นางฮิลลารี คลินตัน ผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ได้เห็นแล้วว่าแต่ละคนนั้นมีบทบาทสำคัญทั้งกับประเทศ กับภูมิภาคและกับโลกอย่างที่คิด

Advertisement

นอกจากนี้ เรื่องที่ทายถูกคือคะแนนนิยมของ บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐจะสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น ทั้งทายถูกว่า ซาดิก ข่าน นักการเมืองเชื้อสายปากีสถานจะชนะศึกเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน

แต่ที่ทำนายผิดอย่างจังคือ ผลประชามติที่คิดว่าอย่างไรแล้วชาวสหราชอาณาจักรจะเลือกอยู่กับสหภาพยุโรปต่อไปด้วยคะแนนเฉียดฉิว แต่ก็ไม่คิดว่าจะ “เบร็กซิต” เข้าจริงๆ

เช่นเดียวกับ นางดิลมา รูสเซฟฟ์ ที่นึกว่าจะประคองตัวอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ แต่สุดท้ายก็ต้องถูกถอดถอน

Advertisement

ยิ่งกว่านั้นคือการมองข้าม โดนัลด์ ทรัมป์ ไปอย่างไม่ชายตา พอๆ กับไม่เห็นวี่แววว่า โรดริโก ดูแตร์เต จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

สำหรับปีต่อไปนี้ เดอะ เวิลด์ อิน 2017 ทำนายว่า ปี 2560 จะเป็นปีที่บรรยากาศการปฏิวัติอบอวล

เพราะตรงกับวาระครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติบอลเชวิกในรัสเซีย, ครบรอบ 150 การออกหนังสือ “Capital” ของ คาร์ล มาร์กซ์, ครบ 50 ปีการตายของ เช เกวารา นักปฏิวัติลัทธิมาร์กซ์ และครบ 500 ปีที่ มาร์ติน ลูเธอร์ ตอกประกาศ “ญัตติ 95 ข้อ” หน้าประตูโบสถ์เพื่อต่อต้านสันตะปาปา เป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติและแยกนิกายจากคาทอลิก มาเป็นโปรเตสแตนต์

แต่แนวทางขบถในยุคปัจจุบันจะถูกบดขยี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับรัสเซียในการนำของ วลาดิมีร์ ปูติน และจีน ภายใต้การควบคุมของ สี จิ้นผิง

เมื่อรวมกับภัยคุกคามของการก่อการร้ายและการเขย่าขวัญในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือแล้ว เดอะอีโคโนมิสต์ทำนายว่า ความมั่นคงของโลกจะอยู่ในขั้นเปราะบางทีเดียว

สำหรับอเมริกาเอง การต่อต้านกระแสที่น่าจะเป็นก็เกิดขึ้นแล้วในชัยชนะของทรัมป์ และคงจะส่ง “ช็อกเวฟ” ไปทั่วโลก

การวิเคราะห์และคาดการณ์โลกในปีต่อไปดังกล่าวของอีโคโนมิสต์คงจะมีที่ถูกต้องและผิดคาดอีก เพราะในแต่ละวันนั้นสถานการณ์โลกผันเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

การจะไปกำหนดกฎเกณฑ์ว่าอนาคตในวันข้างหน้าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ใน 10 ปีหรือ 20 ปีนั้น จึงอาจจะกลายเป็นเรื่องฟุ้งซ่านได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image