ไม่มีช่องให้ลอดในสิงคโปร์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์

นักการเมืองไทย ทั้งในสนามเลือกตั้งและสนามยึดอำนาจ อยากทำประเทศไทยให้เป็นสิงคโปร์มานานแล้ว ในทศวรรษ 2510 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ตั้งพรรคการเมืองเลียนชื่อของพรรครัฐบาลสิงคโปร์ว่ากิจสังคม ผมเดาว่าเพราะท่านคิดว่าความสำเร็จของสิงคโปร์ มาจากการที่รัฐบาลสิงคโปร์สามารถระดมพลังประชาชนมาร่วมแรงร่วมใจในการดำเนินกิจการของรัฐให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งก็จริง แต่ทำไมถึงระดมได้ต่างหากที่สำคัญกว่าในการสร้าง “กิจประชา”

เราได้ยินการอ้างถึงสิงคโปร์อยู่เนืองๆ สืบมา จนไม่นานมานี้ รองนายกฯของรัฐบาลรัฐประหารยังพูดว่าสักวันหนึ่งเราจะล้ำหน้าสิงคโปร์ ถึงจะมองสิงคโปร์เป็นคู่แข่ง แต่ก็ถือเป็น benchmark หรือบรรทัดฐานด้วย

นักการเมืองไทยทั้งสองประเภทอยากเป็นสิงคโปร์ เพราะรัฐบาลสิงคโปร์มีอำนาจทางการเมืองอย่างเด็ดขาด ไม่มีอำนาจอะไรอื่นมาคัดง้างได้ทั้งสิ้น ฝ่ายค้านมีไม่ถึงหยิบมือ ซ้ำยังอาจถูกนายกฯฟ้องหมิ่นประมาทจนล้มละลายได้ ประชาชนหรือสื่อที่แข็งข้อทางการเมือง ก็อาจถูกจับในข้อหาความมั่นคงแห่งรัฐ อันเป็นข้อหาที่รัฐมีอำนาจจับกุมคุมขังและไต่สวนได้ ภายใต้กระบวนการพิเศษที่ไม่เหมือนคดีอาญาทั่วไป

นักการเมืองไทยอยากมีอำนาจอย่างนั้นบ้าง บางคนอาจคิดด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ถ้าไม่ต้องมาห่วงกังวลกับสิทธิประชาธิปไตยทางการเมืองของประชาชนและฝ่ายค้าน ก็จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยไปโลดแล้ว

Advertisement

ส่วนประชาชนไทยอยากเป็นสิงคโปร์ เพราะอยากรวยเหมือนเขา รายได้ต่อหัวของประชากรสิงคโปร์ในปัจจุบันเลยหน้าสหรัฐไปแล้ว ซ้ำหากคิดถึงราคาสินค้าและบริการที่ถูกกว่า ก็อาจกล่าวได้ว่าคนสิงคโปร์รวยกว่าอเมริกันมากกว่าที่ตัวเลขแสดงให้เห็นอีก

แต่ไม่มีนักการเมืองหรือประชาชนไทยคนไหนที่อยากเป็นสิงคโปร์ในแง่ การมีและใช้กฎหมายอย่างไม่ลูบหน้าปะจมูก หรือเรียกทางวิชาการว่าไม่มีลักษณะบุคคล (impersonal) จนนักลงทุน ไม่ว่าภายในหรือต่างชาติ มีความไว้วางใจสิงคโปร์เท่ากับไว้ใจลอนดอนหรือนิวยอร์ก ในการเอาเงินของตัวไปทำกำไรที่นั่น

อย่าว่าแต่นักลงทุนเลย คนขี้โกงทั่วอาเซียน ก็นิยมเอาเงินไปกองไว้ที่สิงคโปร์ เพราะเชื่อมั่นว่ามั่นคงปลอดภัยกว่าเก็บไว้ใต้เตียงในบ้านตนเองไม่ว่าจะเป็นนายพลพม่าหรือมหาโจรจากอินโดนีเซียก็ตาม ผมไม่ทราบว่ามีเงินไทยซุกอยู่ที่นั่นสักเท่าไร แต่ 1 ใน 5 ของคนรวยล้นฟ้าในสิงคโปร์ปัจจุบันคือมหาโจรอินโดนีเซีย

Advertisement

สิงคโปร์มีระบบกฎหมายสองส่วนที่ตรงข้ามกันเลย คือส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเอกชน ต้องถือว่าอยู่ในนิติรัฐ-นิติธรรมเต็มที่ ไม่ต่างจากประเทศที่มีนิติรัฐ-นิติธรรมดีที่สุดในที่อื่นใด ทั้งนี้ หมายถึงทั้งตัวบทกฎหมาย, การบังคับใช้ และการตัดสินกรณีพิพาท แต่ส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและเอกชนทางการเมือง ก็อย่างที่เรารู้อยู่แล้ว คือค่อนข้างกดขี่บังคับ มีกฎหมายหลายลักษณะที่ให้อำนาจรัฐอย่างไม่มีขีดจำกัด มีสัญญาณที่ทำให้เชื่อได้ว่ากระบวนการยุติธรรมถูกฝ่ายบริหารแทรกแซง

ฟังดูเหมือนทำได้ง่ายๆ แต่ความจริงแล้วยากมากนะครับ ระบบกฎหมายแบบใหม่นั้น ประเทศไหนๆ ก็มีเหมือนกันด้วยอิทธิพลของตะวันตก แต่จะทำกฎหมายเหล่านั้นให้หมดลักษณะบุคคลอย่างสิ้นเชิง ประเทศที่มีระบบกฎหมายสมัยใหม่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ หากคุณใช้กฎหมายกับพวกทักษิณอย่างหนึ่ง กับพวกที่เป็นศัตรูของทักษิณอีกอย่างหนึ่ง กฎหมายไทยก็อยู่ในลักษณะบุคคลเต็มที่เลย การปกครองด้วยกฎหมายไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ยังเป็นการปกครองโดยบุคคลเหมือนครั้งอยุธยาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ยิ่งเรื่องคอร์รัปชั่นด้วยแล้ว เมืองไทยเราแทบไม่มี “กฎหมาย” เอาเลย เป็นเรื่องบุคโขโลคณะ (บุคคโล+คณะ) โดยแท้

เมื่อสิงคโปร์ถูกรัฐสภามาเลเซียลงมติขับไล่ออกจากมาเลเซีย น้อยคนนักที่คิดว่าสิงคโปร์จะอยู่รอดไปได้เกิน 5 ปี ประเทศยากจนที่ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย แม้แต่น้ำกินน้ำใช้ รับมรดกระบบราชการที่เฟะฟอนด้วยการทุจริตอย่างหนักมาจากอังกฤษ อำนาจแท้จริงอยู่ในมือของแก๊งอันธพาล ที่มีผลประโยชน์อยู่กับอาชญากรรมประเภทต่างๆ นับตั้งแต่ซ่องโสเภณี, ยาเสพติด, ขนของเถื่อน, เรียกค่าคุ้มครอง ฯลฯ ซ้ำยังทำสงครามกันเองอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

มุขมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีในเวลานั้นคือลีกวนยูถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ในขณะกล่าวปราศรัยกับประชาชน ยอมรับการแยกตัวออกจากมาเลเซีย

จากสภาพเช่นนั้นของสิงคโปร์ ลีกวนยูและพรรคพวกในพรรคกิจประชาทำให้สิงคโปร์ไม่แต่เพียงอยู่รอด แต่รอดอย่างแข็งแกร่งได้อย่างไร ผมจะไม่เข้าไปสู่รายละเอียดในที่นี้ สรุปสั้นๆ ก็คือนายกฯลีมี
นโยบายมาแต่ต้นอย่างชัดเจน และหนักแน่นมั่นคง ที่จะทำให้สิงคโปร์มีความสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการลงทุนในภูมิภาคนี้

หนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำให้สิงคโปร์เป็นแหล่งลงทุนที่วิเศษสุดก็คือ รัฐบาลและระบบราชการต้องใสสะอาด ปราศจากการทุจริตหรือเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ เป็นอันขาด หนทางไปสู่ความสำเร็จทางด้านนี้ ไม่ใช่กฎหมายพิเศษ ไม่ใช่องค์กรปราบทุจริตที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษ หรือมาตรการยกเว้นกระบวนพิจารณาความอาญา แต่อยู่ที่การดำเนินงานของผู้นำที่เที่ยงธรรม แต่เด็ดขาด โดยไม่มีบุคโขโลคณะกับใครทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่าสิงคโปร์ไม่ได้ทำอะไร “พิเศษ” เพื่อปราบคอร์รัปชั่นเสียเลย ทำบางเรื่องเหมือนกัน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความมั่นคงไม่หวั่นไหวของกลุ่มผู้นำ

เรื่องการปราบทุจริตของลีกวนยู นับตั้งแต่ในวงการตำรวจ, ราชการ, ขึ้นมาจนถึงนักการเมือง และนักธุรกิจที่ใช้เงินบิดกฎหมาย เป็นเรื่องยาวที่คนไทยซึ่งอยากเป็นสิงคโปร์ควรศึกษาหาความรู้ ผมจะเล่าสองเรื่องที่ผมคิดว่าให้บทเรียนคนไทยได้ดีสุด

เรื่องแรกเกิดใน พ.ศ.2522 นายเผยยิวก๊ก (Phey Yew Kok) ซึ่งเป็น ส.ส.สังกัดพรรคกิจประชา และเป็นประธานของสหภาพแรงงานเพียงแห่งเดียวของสิงคโปร์ เขาถูกจับได้ว่าทุจริต พรรคพวกของเขาในรัฐสภาพยายามวิ่งเต้นเจรจากับลีกวนยูว่าเขาบริสุทธิ์ และขอให้สั่ง ป.ป.ช.สิงคโปร์ทบทวนคดีใหม่ แต่ลีไม่อนุมัติ เพราะเขาได้อ่านคดีนี้มาแต่ต้นเมื่อ ป.ป.ช. (ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาล) ส่งเรื่องมาให้ดู และได้สั่ง ป.ป.ช.ให้สืบสวนต่อไป หลังจากนั้น ผู้บริหารระดับสูงของสหภาพก็ขอพบเขาและร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ผู้เข้าพบกล่าวปกป้องความบริสุทธิ์ของนายเผยอย่างเต็มที่และรุนแรง ลีจึงโทรศัพท์ถึง ป.ป.ช.ว่า ให้เปิดเอกสารสืบสวนนายเผยให้ผู้บริหารสหภาพที่เข้าพบดูบางส่วน เมื่อได้อ่านแล้วก็งันไปกับข้อเท็จจริงที่ ป.ป.ช.สืบมาได้ เลิกตอแยอีกต่อไป ส่วนนายเผยก็หนีประกัน แล้วหลบเข้ามาอยู่ใน… แหะๆ… ประเทศไทยครับ แต่ก็กลายเป็นคนยากจนหาเช้ากินค่ำ เพราะไม่สามารถขนทรัพย์สมบัติออกจากสิงคโปร์ได้

อีกเรื่องหนึ่งเกิดหลังจากนั้นอีก 7 ปี คราวนี้เกิดกับเพื่อนสนิทของลีเอง ซ้ำดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลด้วย ชื่อนายเต้เจียงหวัน (Teh Cheang Wan) ป.ป.ช.สิงคโปร์ได้สืบสวนการรับสินบนของนายเต้มานานแล้ว มีมูลค่านับล้านเหรียญสิงคโปร์ นายเต้ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ก็พยายามวิ่งเต้นกับรองผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ให้ยุติเรื่อง ต่อมาก็ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี แต่ลีกลับปฏิเสธ บอกให้รอจนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้นลงเสียก่อน นายเต้จึงรู้แล้วว่าลีกวนยูไม่ช่วยแน่
เขาฆ่าตัวตายและทิ้งจดหมายสารภาพไว้ให้นายกฯ

เมื่อลีกวนยูไปเคารพศพเพื่อน ภรรยาม่ายได้ขอร้องให้เขาถือการตายของเพื่อนเป็นการตายปกติ ไม่ใช่อัตวินิบาตกรรม เพื่อจะไม่กลายเป็นข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ลีปฏิเสธ ซึ่งทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ และฝ่ายค้านขอสภาให้ตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนสาเหตุของอัตวินิบาตกรรมครั้งนี้ ซึ่งลีในฐานะหัวหน้าพรรคเสียงข้างมากก็ยอมอีกนั่นแหละ (คงเพื่อให้เป็นบทเรียนแก่นักการเมืองอื่นๆ) ลีบันทึกไว้เองว่า ภรรยาม่ายและลูกสาวของนายเต้ออกจากสิงคโปร์และไม่กลับมาเหยียบอีกเลย

แม้ไม่ประสงค์จะลดทอนความเป็นมหาบุรุษของลีกวนยู แต่อยากเตือนว่ามหาบุรุษอย่างเดียวอธิบายสังคมไม่ได้ ต้องไม่ลืมสมัครพรรคพวกทางการเมืองอีกมากของลีกวนยูด้วยว่า การที่พวกเขาไม่รวมหัวกันกดดันนายกฯ เพื่อปกป้องคนโกงเลย ก็มีส่วนทำให้ลีกวนยูสามารถจัดการเรื่องนี้ไปตามหลักการได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องทำให้กฎหมายกลายเป็นความต้องการส่วนบุคคล

นักปฏิรูปที่หลับหูหลับตาให้แก่พฤติกรรมผิดปกติของญาติหรือพรรคพวกที่ร่วมทำรัฐประหารกันมา เช่นเงินหลวงที่แลบไปอยู่ในบัญชีเงินเมีย, ไมโครโฟนทองคำ, อุทยานราชภักดิ์, ฝายกายสิทธิ์, มีตติ้งรุ่นที่ฮาวาย, ฯลฯ ไม่ได้ส่อให้เห็นเลยว่าจะทำให้กฎหมายพ้นไปจากความเป็นบุคคล คิดกันได้อย่างไรว่าเรากำลังเดินตามสิงคโปร์ ไม่ต้องเพ้อเจ้อถึงเรื่องเลยหน้าสิงคโปร์เลย

คนไทยที่อยากเป็นสิงคโปร์ คืออยากรวยมากกว่าอยากมีเสรีภาพ ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ อะไรคือสิ่งดีในชีวิตเป็นสิทธิที่แต่ละคนควรนิยามให้ตนเองได้ แต่สิงคโปร์ไม่ได้รวยขึ้นมาจากความไร้เสรีภาพ นั่นอาจมีส่วนช่วยบ้างในด้านที่ทำให้สามารถขจัดอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด แต่การปิดกั้นเสรีภาพในหลายต่อหลายสังคมไม่ได้ทำให้สังคมนั้นรวยขึ้นอย่างสิงคโปร์ ขึ้นอยู่กับว่าใช้อำนาจเด็ดขาดที่ปราศจากการคัดค้านตรวจสอบนั้นไปทำอะไร สร้างความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายด้วยการไล่คนที่ทำมาหากินอยู่ริมถนนและในเขตที่กฎหมายเรียกว่าป่า แต่ใช้กฎหมายพิเศษกันที่ให้คนรวยใช้ประโยชน์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และดับเครื่องกฎหมายเมื่อพรรคพวกตนเองอาจละเมิดกฎหมาย แล้วหวังว่าจะรวยเหมือนสิงคโปร์ จะเป็นไปได้อย่างไร

สิงคโปร์เป็นข้ออ้างของเผด็จการที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนอยู่เสมอ ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในประเทศเผด็จการอีกหลายแห่ง แต่สิงคโปร์ไม่ได้ประสบความสำเร็จเพียงเพราะระงับเสรีภาพของประชาชน มีอะไรอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ขาดไม่ได้เสียยิ่งกว่าความไม่ประชาธิปไตย แต่เผด็จการและผู้สนับสนุนเผด็จการมักไม่ใส่ใจ

ดังนั้น แทนที่จะปราบคอร์รัปชั่นด้วยกฎหมายที่ไม่บุคโขโลคณะ จึงทำได้แต่เพียงขึ้นไปยืนเอาแขนไขว้อกบนเวที แล้วคิดว่าคอร์รัปชั่นจะหายไปเอง… คุณเป็นหมอผีหรือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image