ที่มา | คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
เผยแพร่ |
”สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจหัวข้อ “ความเห็นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล “
โพลถามว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหารกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร
คำตอบ คือ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ที่มาจากการรัฐประหาร ดีกว่า 48.84%
เพราะทำงานได้เร็ว คล่องตัว มีอำนาจพิเศษ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีผลงานให้เห็น ฯลฯ
อันดับ 2 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดีกว่า 23.72% เพราะมาจากเสียงของประชาชน เป็นประชาธิปไตย รู้ปัญหา มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ฯลฯ
สรุปทำนองว่า ”คนไทยชอบรัฐบาลรัฐประหารมากกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง”
ที่จริงไม่แปลกที่มีการสำรวจด้วยคำถามนี้ และผลออกมาเป็นแบบนี้
หลังจากสวนดุสิตโพลเผยแพร่ผลสำรวจกลุ่มที่พอใจในคำตอบก็ ”ฟิน” กันไป
เพราะบุคลิกของผู้นำรัฐบาลที่พูดจาโผงผาง ดูมีสีสัน มีส่วนอยู่มาก
ทำให้คนไม่น้อยนิยมลุงตู่ แต่จะสรุปรวบรัดว่า คนไทยชอบรัฐบาลจากรัฐประหารอาจจะยังไกลไป
ที่น่าสนใจคือ จริงหรือไม่ ที่รัฐบาลจากรัฐประหารมีประสิทธิภาพมากกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง
ความเชื่อว่า การรัฐประหารแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ไม่เคยจางหายไปจากประเทศไทย จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กับการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็น่าเป็นห่วง
โดยเฉพาะหากอยู่ในอำนาจนานๆ
ลองย้อนไปดูรัฐบาลรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์อยู่ในอำนาจจากปี 2502 จนถึงแก่อสัญกรรม ในปี 2506 และรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ที่ขึ้นมาสืบทอด จนถูกขับไล่ในปี 2516
เป็นบทเรียนให้นักปฏิวัติรุ่นหลังหลายเรื่อง รวมถึงประเด็นการอยู่ในอำนาจนานๆ รัฐบาลจากระบบพิเศษ ได้เปรียบรัฐบาลเลือกตั้งแน่นอน เพราะอำนาจพิเศษในมือ อย่างน้อยที่สุด คือบ้านเมืองสงบราบคาบ
แต่เป็นความราบคาบแบบไหน ก็ทราบกันดีอยู่
ส่วนถ้าเปรียบเทียบเรื่องการทำงาน การแก้ปัญหา มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันมาก
จุดเด่น จุดด้อย และผลงานการแก้ปัญหานี้เอง เป็นตัวกำหนดอายุของรัฐบาลว่าควรอยู่ยาวหรือสั้น
ฝืนกฎข้อนี้เมื่อไหร่ หืดขึ้นคอกันถ้วนหน้า