สงครามตัวแทน

สงครามตัวแทน

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยอง เขต 3 (อ.แกลง อ.เขาชะเมา) กำหนดเปิดวันรับสมัคร 17-21 สิงหาคม 2566 และเลือกตั้ง 10 กันยายน 2566 จะเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง

“สาธิต ปิตุเตชะ” ได้โอกาสแก้มือหวังกู้วิกฤตศรัทธา ทั้งความเป็นบ้านใหญ่และของพรรคประชาธิปัตย์ หนที่แล้วยอมรับว่าพ่ายหมดรูป กระแสคนระยองอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง คะแนนนิยมของรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ร่วมอยู่ด้วย ไม่อาจตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประชาชนได้ทั้งหมดในเวลานั้น

ผลเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระยองชิงชัย 5 เขตเลือกตั้ง สาธิตพร้อมนามสกุลเดียวกันรวม 4 ผู้สมัคร เพลี่ยงพล้ำให้ผู้สมัครก้าวไกลที่แลนด์สไลด์ทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง คะแนนถูกทิ้งห่างกันหลายช่วงตัว โดยเขต 3 “บัญญัติ เจตนจันทร์” ของประชาธิปัตย์ เข้าที่ 3 ได้ 14,668 คะแนน ขณะที่ “นครชัย ขุนณรงค์” ของก้าวไกล ได้ 29,034 คะแนน เข้าวินเป็นที่ 1 ต่อมานครชัยได้ลาออกจากตำแหน่งเพราะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ

Advertisement

จากผลพ่ายแพ้ดังกล่าวและการที่ประชาธิปัตย์พ่ายอีกหลายจังหวัด “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ไลน์กลุ่มของพรรคขอลาออกจากหัวหน้าพรรคทันทีเพื่อรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้ง ขณะที่ “สาธิต” ที่ต้องอยู่ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาแถลงว่า คะแนนที่ประชาชนโหวตให้ได้น้อยกว่าที่คิด พร้อมยอมรับเสียงของประชาชนที่เป็นผู้กำหนดทิศทางประเทศ

ตอนหนึ่งยังกล่าวว่า ประชาชนมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มสะวิงโหวต และกลุ่มไม่ได้ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะกลุ่มหลังต้องสื่อสารให้เข้าถึงให้ได้

สาธิตกล่าวต่อว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ประชาชนรู้สึกว่าถูกกดมานานจนทำให้อยากเปลี่ยนแปลง ถ้าย้อนกลับไปได้ก็ไม่ควรให้ประชาชนรู้สึกแบบนั้น

Advertisement

“เวลาแพ้สงครามก็ต้องไปรวบรวมไพร่พลที่ยังไม่ตาย หรือได้รับบาดเจ็บเอาไปรักษา และต้องรวบรวมยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด แล้วมาตั้งหลัก จากนั้นก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา”

ล่าสุด เมื่อมีการเคาะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยอง เขต 3 สาธิตกล่าวว่า “มีความมั่นใจ แต่ก็ไม่ประมาท จะวางยุทธศาสตร์เพื่อให้รับชัยชนะที่ดีที่สุด ต้องมีการปรับกลยุทธ์ ในแง่การแบ่งคะแนนกันเอง ถ้าดูจากคะแนนรวมของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเมื่อรวมกันแล้วคะแนนมากกว่าที่พรรคก้าวไกลชนะแต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคนระยอง อยากจะให้มีการเน้นการเลือกคนมาแทนที่ ส่วนการเมืองใหญ่จะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง แต่การเลือกตั้งซ่อมขอให้เลือกคนดีที่ทำงานได้”

เป็นการตอกย้ำว่า คนที่จะเป็น ส.ส.ต้องไม่มีเรื่องด่างพร้อยเหมือนที่ ส.ส.ก้าวไกล ได้ลาออกไปเพราะต้องคดีความอาญา

ส่วน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความสำคัญกับพื้นที่ระยองมาตลอด ช่วงก่อนเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 กระแสประชาชนสีส้มมาแรงมาก มั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าระยองมีลุ้นทุกเขต จึงมาหาเสียงแบบเบิ้มๆ และยังมาขอบคุณชาวด้อมส้มหลังผลชนะ 5 เขตเลือกตั้ง

แม้กระทั่งหลังมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว พิธาก็ยังเดินทางมาร่วมงานสุราก้าวหน้า ที่ตลาดดิโอโซน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการเติมพลังกำลังใจให้ตนเอง เพื่อเดินหน้าสานต่อนโยบายสุราก้าวหน้าที่ใช้หาเสียงมาตลอด

สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่มีภารกิจในฐานะ ส.ส.แล้ว เจ้าตัวก็จะใช้เวลาทุ่มมาที่ จ.ระยอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะยึด ส.ส.เขต 3 อีกรอบ โดยเตรียมลงพื้นที่ อ.แถลง ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 3

การเลือกตั้งซ่อมระยองจึงเป็นสงครามตัวแทนเหลือเพียง 2 พรรค บรรดาอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิมและฝ่ายค้านเดิมที่เป็นพรรคหลักๆ จะไม่ส่งใครลง ปล่อยให้ประชาธิปัตย์กับก้าวไกลลุยเต็มที่ ชาวระยองอำเภอแกลงกับเขาชะเมาจะเป็นคำตอบ สุดท้ายแล้วการ “วัดพลัง” ครั้งนี้จะลงเอยที่ใคร

เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image