ตลก! ไม่ผูกเนกไท เป็นการแต่งกายไม่สุภาพ

นายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แต่งกายสุภาพในรัฐสภาสิงคโปร์อย่างนี้ครับ

อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนเมื่อเช้าความว่า วันที่ 24 ..66 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม บุญวิเศษ ส..บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นตำหนิการแต่งกายของ นาย

ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ที่แต่งกายใส่เสื้อคอจีนและใส่เสื้อสูททับ โดยไม่ผูกเนกไท เป็นการแต่งกายไม่สุภาพ ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ ส..บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า การแต่งกายของประธานไม่ใช่สากลนิยม ควรตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาเรื่องการแต่งกายของ ส..ให้เป็นสากลนิยม ให้ทุกคนปฏิบัติโดยพร้อมเพรียง ไม่อยากให้ประธานโดนอะไรไปมากกว่านี้ มองยังไงก็ไม่ใช่ชุดสากล

จากสิ่งที่ ส..เพื่อไทย 2 คนที่กล่าวหารองประธานสภา สรุปได้ว่า 

1) การไม่ผูกเนกไทเป็นการแต่งกายไม่สุภาพ และ 

Advertisement

2) การแต่งกายของ ส.. ควรต้องเป็นแบบสากลนิยม คือ กางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต ผ้าผูกคอ (เนกไท) เสื้อนอกคอแบะ ถุงเท้า และรองเท้าหุ้มส้น เอาง่ายๆ ก็คือกล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ผู้ไม่ได้ผูกเนกไทมาประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการแต่งกายที่ไม่สุภาพ

ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีจ้างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาทำงาน การต้องมาฟังความอันไร้สาระและไร้ประโยชน์เช่นนี้สร้างความรู้สึกชวนคลื่นไส้และดูถูกสติปัญญาของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม หากจะต้องพูดกันเรื่องการแต่งกายและเนกไทจริงๆ ก็ควรจะต้องศึกษาความเป็นมาของเนกไทและชุดสากลมาเสียก่อนที่จะมากล่าวหาคนอื่นแบบผิดๆ เช่นนี้

เป็นที่แน่ชัดว่า เนกไท นั้นมีประวัติเริ่มต้นจากทหารรับจ้างชาวโครแอตที่มารบให้ฝรั่งเศสในสงครามสามสิบปี (Thirty Years’ War 1618-1648) ซึ่งทหารเหล่านี้จะมีผ้าไหมคล้ายๆ ผ้าเช็ดหน้านำมาพันคอ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งประเทศฝรั่งเศสเห็นแล้วทรงโปรดก็เลยนำผ้าลูกไม้มาผูกเป็นผ้าพันคอบ้าง หลังจากนั้นผ้าพันคอแบบชาวโครแอต (หรืออย่างน้อยก็เป็นผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทหารโครแอต เพราะทหารไม่น่าจะใช้ผ้าลูกไม้พันคอเวลาไปรบ) จึงกลายเป็นแฟชั่นของชาวกรุงปารีสไป ประชาชนทั้งหญิงชายหันมาใช้ผ้า หรือผ้าลูกไม้พันคอประดับกันเป็นการใหญ่ และเรียกผ้าทั้ง 2 แบบนี้ว่า Cravat

Advertisement

หลังจากการนิยมใช้ผ้า Cravat แล้ว การนำเอาผ้าชนิดต่างๆ มาพันคอในรูปแบบต่างๆ ก็มีวิวัฒนาการต่อมาอีกมากมาย เช่น สต๊อก (Stock) เป็นผ้าพันคอสำหรับนักขี่ม้า ลักษณะคือผ้าสีขาวยาวพอที่จะพันรอบคอได้หลายรอบ ใช้เข็มกลัดกลัดไว้ที่หลังคอ ว่ากันว่าผ้าประเภทนี้เอาไว้พันแผล หรือพันขาม้าบาดเจ็บ สต๊อกยังวิวัฒนาการไปเป็นสายหนังที่หุ้มด้วยผ้าสำหรับทหารเอาไว้หุ้มคอ เพื่อป้องกันการโดนดาบแทงเสียบคอ คล้ายๆ เป็นเกราะป้องกันคอ แต่ก็เป็นแฟชั่นด้วยเพราะถ้าสายหนังมีความกว้างพอก็จะทำให้ต้องเชิดหน้าอยู่ตลอดเวลาส่งเสริมความสง่างามของผู้สวมใส่ แล้วก็ยังมีผ้าแอสค็อต (Ascot) เป็นผ้าผูกคออีกประเภทหนึ่งที่อาจจะไม่ต้องพันคอแน่นมากเหมือน cravat หรือ Stock เอาไว้ใส่สบายๆ ไปดูแข่งม้าเป็นแฟชั่นในอังกฤษ

เนกไทแบบที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนรู้สึกว่าสำคัญยิ่งใหญ่เหลือเกินนี้ ถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อผู้ชายจำนวนมากเข้าสู่สถานที่ทำงานในระบบอุตสาหกรรมที่มีตารางเวลาชัดเจน เสื้อผ้าต้องเป็นอุปสรรคต่อการทำงานน้อยที่สุด ผ้าผูกคอที่เคยต้องพันหลายรอบ มีวิธีการผูกที่ซับซ้อนและสวยงามแต่ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ก็กลายเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนา เนกไทสมัยใหม่จึงถูกคิดค้นขึ้นและมีคุณสมบัติคือ เป็นผ้าผืนยาว ผูกง่าย และเมื่อผูกแล้วอยู่ได้ทั้งวัน ไม่มีการหลุด หรือรุ่ยให้ต้องผูกใหม่ เพราะไม่เหมือนสุภาพบุรุษในสมัยก่อนหน้านี้ที่มีเวลาเหลือเฟือ

หลายคนอาจจะถามว่า แล้วเนกไทสมัยใหม่นี้มีประโยชน์อะไร ผู้เขียนก็คงต้องสารภาพว่าตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะใช้กันหนาวก็ไม่ได้ ใช้เช็ดปากก็ไม่ได้ ใช้ซับเหงื่อแทนผ้าเช็ดหน้าก็คงดูน่าสมเพชแปลกๆ  ผู้เขียนเคยให้ลูกศิษย์หลายรุ่นเขียนประโยชน์ของเนกไทเท่าที่จะคิดได้มาให้เนื่องจากนิสิตชายของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สมัยที่ผู้เขียนยังสอนอยู่ต้องผูกเนกไทตอนเข้ามาเรียนปีหนึ่งทุกคน คำตอบส่วนใหญ่ก็เขียนมาว่าผูกเนกไทแล้ว ดูเท่ ดูโก้ ทำนองนี้ แต่มีนิสิตหลายคนเขียนจากประสบการณ์จริงและเห็นประโยชน์เป็นรูปธรรม เช่น ตัวเตี้ยต้องโหนรถเมล์ร้อนก็ใช้เนกไทคล้องราวแล้วโหนได้ หรือเข้าส้วมแล้วกลอนประตูส้วมชำรุดก็ใช้เนกไทผูกแทนกลอนประตูไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ

นอกจากความคิดอันสร้างสรรค์เหล่านี้แล้วผู้เขียนก็นึกประโยชน์ใดๆ ของเนกไทไม่ออก ส่วนคนที่ยืนยันว่าการผูกเนกไทคือมารยาทสากลนิยมก็คงต้องปล่อยให้เป็นอาหารของปลาและเต่าไปตามยถากรรม เพราะความคิดพยายามกำหนดการแต่งกายของผู้อื่นในโลกยุคนี้ เป็นความคิดที่ล้าหลัง เชย และแสดงความเป็นทาสที่ปล่อยไม่ไปของผู้พูดเองนั่นแหละครับ

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image