ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
ความต่าง3ผู้นำ
ภาวะผู้นำและบุคลิกภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา-เศรษฐา ทวีสิน และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้นแตกต่างกัน การแสดงออกได้ปรากฏต่อสังคมและมีการพูดถึง
หนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทหาร เข้าสู่อำนาจทางการเมืองด้วยการรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และเป็นนายกฯ เป็นเวลา 5 ปี
เมื่อมีการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 ประยุทธ์ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐได้กลับมาเป็นนายกฯสมัยที่สอง อยู่มาจนจะครบเทอม 4 ปี
คำว่า จะคืนความสุขให้กับคนไทย-จะอยู่ไม่นาน-จะปฏิรูปประเทศ เปรียบเสมือนหนามยอกอกที่คอยทิ่มแทงประยุทธ์มาตลอด
เพราะความที่ “อยาก” จะเป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี เพื่อทำสถิติเป็นนายกฯยาวนาน 11 ปี จึงแยกตัวออกมาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ต้อง “แตกหัก” และ “กินใจ” กับ “พี่ป้อม” ไปตลอด
ช่วง 9 ปีกว่าที่ผ่านมา ก็เห็นๆ กันแล้วว่า ประยุทธ์ไม่ได้ดำเนินการอะไรให้เกิดความปรองดอง ไม่สนับสนุนการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งๆ ที่เขียนไว้ในนโยบายรัฐบาล ฯลฯ
ประยุทธ์ ถูกขับไล่มาตลอด คนที่ออกมาเคลื่อนไหวถูกสลายการชุมนุม โดนดำเนินคดี เข้าคุกเข้าตะรางกันเป็นแถว
สุดท้าย ประยุทธ์ประกาศยุติบทบาททางการเมือง กลับไปอยู่ “บ้านหลวง”!?
หนึ่ง เศรษฐา นายกฯป้ายแดง จากพรรคเพื่อไทย เข้าสู่อำนาจตามครรลองประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง
พรรคเพื่อไทยยอมเสียคำพูดที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ทำให้ผู้นำหลายคน (แทบจะ) เสียคน
เศรษฐา เป็นนักธุรกิจที่เตรียมพร้อมจะเป็นนายกฯมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เรียนรู้การเมืองได้รวดเร็ว
ภาพที่ปรากฏเป็นคนอ่อนน้อม ลักษณะพิเศษคือ เป็นคนตัวสูงโย่ง-ไหว้สวย
เศรษฐามีความกล้า ใบหน้าและรอยยิ้มแสดงถึงความเป็นมิตรกับผู้คน มั่นใจในตัวเอง พร้อมเผชิญกับปัญหาและไม่หนีไม่หลบหน้านักข่าว
รู้จักให้เกียรติและรับฟังคนอื่น มีวาทศิลป์ในการพูดจาสื่อสารกับสาธารณชน
เมื่อเห็นว่าสังคมวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมบางอย่างก็พร้อมเอ่ยปาก “ขอโทษ” โดยไม่ลังเล
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ดูเหมือนจะต่างกับผู้นำทหารที่ชื่อ ประยุทธ์
อย่างไรก็ตาม คำพูดที่ว่า “จะเปลี่ยนประเทศ” นโยบายหลายเรื่องที่แถลงต่อรัฐสภาและเคยหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งจะเป็นความท้าทายให้เศรษฐาที่บอกว่า จะทำงานอย่างไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย จะทำได้จริงและประสบความสำเร็จหรือไม่ เพียงไร?!
หนึ่ง พิธา ระหว่างนี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น ส.ส.กรณีปมถือหุ้นไอทีวีตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง
ช่วงหลังเลือกตั้ง พิธาได้สร้างปรากฏการณ์ ในการเป็นขวัญใจมหาชน มีความเหมาะสมกับการเป็นนายกฯทั้งความรู้ ความสามารถ บุคลิกภาพ
ความเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ มีอัธยาศัยไมตรีที่ดี มีศิลปะในการพูดจาสื่อสาร
ที่สำคัญ เป็นคนรักษาสัจจะวาจา พูดคำไหนคำนั้น ไม่กลับไปกลับมา มีภาวะผู้นำสูง
ในทางพฤตินัย พิธาเป็นนายกฯที่พร้อมนำพาประเทศไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แต่ที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศไม่ง่ายอย่างที่คิด
พิธาและพรรคก้าวไกลจึงต้องเรียนรู้และยอมรับการปรับตัวโดยไม่เสียหลักการ
การเมืองไม่เหมือนธุรกิจ!?
บนเส้นทางอำนาจทางการเมือง ทั้งการเข้าสู่อำนาจ การรักษาอำนาจ การใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชน
คน 3 คน ได้แก่ ประยุทธ์-เศรษฐา-พิธา เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจยิ่ง!?!
เทวินทร์ นาคปานเสือ