ฤาฝรั่งเศสจะเป็นแชมป์โลกรักบี้ฟุตบอลปีนี้

 การแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพชิงแชมป์โลกครั้งที่ 10 มีประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในวันที่ 8 กันยายน ถึงวันที่ 28 ตุลาคม พ..2566 ขณะนี้นั้นจัดเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกรองลงมาจากฟีฟ่าฟุตบอลเวิลด์คัพและการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน

ในการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพชิงแชมป์โลกครั้งนี้นั้น สหพันธ์รักบี้ระหว่างชาติแบ่งสายในรอบแรกออกเป็น 4 สาย สายละ 5 ทีม คือ

1) สายเอ นิวซีแลนด์ / ฝรั่งเศส / อิตาลี / อุรุกวัย / นามิเบีย

2) สายบี แอฟริกาใต้ / ไอร์แลนด์ / สกอตแลนด์/ ตองกา / โรมาเนีย

Advertisement

3) สายซี เวลส์ / ออสเตรเลีย / ฟีจี / จอร์เจีย / โปรตุเกส

4) สายดี อังกฤษ / ญี่ปุ่น / อาร์เจนตินา / ซามัว / ชิลี

สำหรับการแข่งขันนัดแรกเปิดสนามเมื่อวันเสาร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมานี้ระหว่างแชมป์โลก 3 สมัยนิวซีแลนด์ (ออลแบล๊ก) กับ ฝรั่งเศส (ตราไก่) เจ้าภาพรองแชมป์โลก 3 สมัยเช่นกัน ปรากฏว่าเสียงเพลงชาติฝรั่งเศสลามาร์แซแยซ (La Marseillaise) ที่กระแทกกระทั้น

Advertisement

กระหึ่มอยู่เกือบตลอดเวลาที่ทีมรักบี้ฝรั่งเศสได้โชว์การเล่นรักบี้ที่ยอดเยี่ยมด้วยการเล่นเป็นทีมแบบแข็งขันและมีการประสานงานอย่างไร้ที่ติที่สำคัญที่สุดคือการเล่นแบบใช้สมองแบบว่าวิ่งไปคิดไปด้วย

ผลการแข่งขันท่ามกลางแฟนรักบี้ 82,000 คนในสนาม Stade de France ฝ่ายฝรั่งเศสชนะนิวซีแลนด์ไป 27-13 จุดโดยแต่ละฝ่ายสามารถวางทรัยฝ่ายละ 2 ทรัยเท่ากัน แต่ฝรั่งเศสสามารถทำคะแนนได้จากการเตะลูกโทษได้ถึง 5 ลูก จึงชนะขาดไปด้วยคะแนน 14 จุด 

สำหรับสถิติของทีมรักบี้แต่ละประเทศที่เคยได้เป็นแชมป์โลกในการแข่งขัน 9 ครั้งที่ผ่านมามีดังนี้คือ

สถิติทีมแต่ละประเทศ

ทีม ชนะเลิศ   รองชนะเลิศ

นิวซีแลนด์     3 (1987, 2011, 2015) 1 (1995)

แอฟริกาใต้    3 (1995, 2007, 2019)              

ออสเตรเลีย   2 (1991, 1999)              2 (2003, 2015)

อังกฤษ        1 (2003)                 3 (1991, 2007, 2019)

ฝรั่งเศส                                3 (1987, 1999, 2011)

ส่วนอีก 15 ทีมที่เหลือไม่เคยที่จะได้ชนะเลิศหรือรองชนะเลิศเลยซึ่งดูจากสถิติข้างบนแล้วประกอบกับการเล่นรักบี้ของทีมชาติฝรั่งเศสในการแข่งขันครั้งแรกกับแชมป์ 3 สมัยที่ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของทีมรักบี้ของโลกตลอดกาลแล้วจึงมีความน่าจะเป็นที่ปีนี้ฝรั่งเศสจะได้เป็นแชมป์โลกรักบี้ฟุตบอลเสียที

สำหรับประวัติของกีฬารักบี้ฟุตบอล หรือเรียกกันทั่วไปว่ารักบี้เป็นกีฬาที่เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในโรงเรียนรักบี้ ซึ่งเป็นโรงเรียนแบบพับลิกสคูลแบบอังกฤษ (เป็นโรงเรียนประจำนักเรียนกินนอน และเรียนตลอดจนทำกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน ความจริงแล้วเป็นโรงเรียนราษฎร์ หรือโรงเรียนเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนต้องเป็นผู้มีเงิน มั่งคั่งพอสมควร จึงจะสามารถส่งลูกหลานมาเรียนที่พับลิกสคูลเหล่านี้ได้ ส่วนโรงเรียนของรัฐบาลเรียกว่า สเตรทสคูล นั้นนักเรียนอังกฤษส่วนใหญ่เข้ารับการศึกษาเพราะเรียนฟรี) โดยเริ่มต้นขึ้นใน พ..2369 (ตรงกับต้นรัชสมัย ร.3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ขณะนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอลภายในของโรงเรียนรักบี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองรักบี้ ผู้เล่นคนหนึ่งชื่อ วิลเลียม เวบบ์ เอลลิส ได้ทำผิดกติกาการแข่งขันที่วางไว้ โดยวิ่งอุ้มลูกบอล ซึ่งตัวเขาเองไม่ได้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้วิ่งอุ้มลูกบอลไปเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม

จากการเล่นฟุตบอลนอกกติกาของ นายวิลเลียม เอลลิส เป็นที่กล่าวขวัญกันในบรรดาโรงเรียนพับลิกสคูลทั่วประเทศอังกฤษ เนื่องจากกีฬาฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาหลักของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในขณะนั้น มักถูกล้อว่าเป็นกีฬาของคนแขนขาดเล่นแล้วไม่สนุกถึงใจเลย ในที่สุดก็มีนิสิตเคมบริดจ์กลุ่มหนึ่งได้นำเอาวิธีการเล่นของนายเอลลิสไปจัดการแข่งขัน โดยเรียกชื่อเกมชนิดใหม่นี้ว่า รักบี้เกม ภายหลังจากนั้นก็เป็นที่นิยมเล่นกันมากขึ้นทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการเล่นเรื่อยมาในประเทศอังกฤษ และรักบี้ยังเป็นต้นกำเนิดของกีฬาอเมริกันฟุตบอลอันเป็นกีฬาโปรดของชาวอเมริกันอีกด้วย

ความจริงกีฬารักบี้ฟุตบอลเคยถือว่าเป็นเกมกีฬาที่สร้างสุภาพบุรุษอังกฤษเนื่องจากคุณสมบัติสำคัญที่สุดของสุภาพบุรุษอังกฤษคือ ต้องไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นโดยมีคติประจำใจเป็นภาษาอังกฤษว่า “Fair play” แปลว่าการเล่นอย่างยุติธรรม, พฤติกรรมที่เที่ยงธรรม, การตัดสินอย่างยุติธรรมด้วยสาเหตุที่ว่ารักบี้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ใช้คนเล่นมาก คือ แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายละ 15 คน เนื่องจากรักบี้เป็นกีฬาที่มีการปะทะด้วยกำลังและความรวดเร็วคล่องแคล่วว่องไว เป็นกีฬาที่หนักในเกมมีการเข้าสกรัม การแทคเกิล การเข้าแถวเพื่อกระโดดแย่งลูกรักบี้ และรักบี้เป็นกีฬาที่ต้องใช้การวางแผนยุทธศาสตร์และต้องใช้ยุทธวิธีหลากหลายของทั้งทีมและของเฉพาะตัวผู้เล่นแต่ละบุคคลด้วย รวมทั้งต้องมีการประสานงานให้เหมาะเจาะจึงจะนำไปสู่ชัยชนะได้ นอกจากนี้ กฎกติกาที่หยุมหยิมมากมาย อาทิ ห้ามส่งลูกให้แก่กันไปข้างหน้าต้องส่งไปทางข้างหลังเท่านั้น ห้ามแทคเกิล (คือการพุ่งตัวเข้าจับฝ่ายตรงข้าม) คนที่ไม่ได้ครองลูกอยู่ในขณะนั้น ฯลฯ

ที่สำคัญที่สุดคือ การเล่นรักบี้นั้นเล่นสกปรกได้ง่ายที่สุดเนื่องจากมีนักกีฬาอยู่ในสนามถึง 30 คน และมีการเล่นชุลมุนบ่อยครั้งโดยเฉพาะตอนเข้าสกรัม (การใช้นักรักบี้กองหน้าข้างละ 8 คนดันกันเพื่อแย่งลูกรักบี้กัน) โดยมีกรรมการอยู่คนเดียวกับผู้ช่วยที่กำกับเส้นอีก 2 คนเท่านั้น จึงสามารถเล่นสกปรกได้อย่างสะดวกด้วยการชกหมัดสั้น เตะหน้าแข้ง ใช้นิ้วทิ่มลูกตาหรือกระทืบผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่เสียหลักล้มลงไป ฯลฯ 

ซึ่งกรรมการก็มักจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่ผู้เล่นรักบี้ในสนามจะรู้ซึ้งถึงนิสัยของผู้เล่นรักบี้ด้วยกันเลยว่า ใครเป็นสุภาพบุรุษ ใครเป็นกุ๊ย จากเกมการเล่นรักบี้ 80 นาทีได้อย่างชัดแจ้ง

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image