วิถีแห่งกลยุทธ์ : ต้นไม้ ผลิดอก ทาบกิ่ง เพื่อ ต่อยอด ดอกไม้ ปลอม

วิถีแห่งกลยุทธ์ : ต้นไม้ ผลิดอก ทาบกิ่ง เพื่อ ต่อยอด ดอกไม้ ปลอม

ซุนเซินจวิน เริ่มรับราชการในสมัยฉู่ฉิ่งเซียงอ๋อง ทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์ของรัชทายาท

เมื่อฉิ่งเซียงอ๋องสิ้น รัชทายาทสืบต่อเป็น “ฉู่เข่าเลี่ยอ๋อง”

ทรงแต่งตั้งซุนเซินจวินเป็น “อัครเสนาบดี” เนื่องจากฉู่เข่าเลี่ยอ๋องไมมีพระโอรส ในฐานะอัครเสนาบดีมีความวิตกในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

Advertisement

พยายามเสาะหาหญิงที่ต้องลักษณะถวายตัวให้ แต่ก็ไม่สามารถได้พระโอรส

ที่แคว้นจ้าวมีชายชื่อ “หลีหยวน” เป็นคนเฉลียวฉลาดมากแผนการคิดจะยกน้องสาวของตนให้เข่าเลี่ยอ๋อง

แต่เกรงท่านอ๋องจะไร้ความสามารถ หากน้องของตนไม่มีบุตร ย่อมไม่ทรงโปรด หากเป็นเช่นนั้น “จังซิงแซ” สรุปอย่างรวบรัดว่า “ไยมิใช่เป็นการยกให้เสียเล่า”

Advertisement

พลันคิดแผนยักย้ายถ่ายเทที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้แผนการหนึ่ง

จังหวะก้าวของ “หลีหยวน” อัน “จังซิงแซ” เรียบเรียงและจัดระบบให้ เริ่มด้วยการเดินทางไปยังแคว้นฉู่

เข้าทำงานเป็น “ที่ปรึกษา” อยู่จวนของซุนเซินจวิน

เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็ขอลากลับเยี่ยมบ้าน และเจตนากลับมาช้า “ช้า” กว่ากำหนดหลายวัน

“เพราะเหตุใดจึงกลับมาล่าช้า” ซุนเซินจวิน ถาม

“เนื่องจากอ๋องแห่งแคว้นฉีส่งคนมาทาบทามสู่ขอน้องสาวข้าไปเป็นสนม ต้องรับรองแขกอยู่หลายวัน” เป็นคำตอบ

“เจ้าได้ตอบตกลงไปหรือเปล่า”

เมื่อได้รับคำตอบว่า “เปล่า” ซุนเซินจวินจึงสั่งการนิ่มๆ “เจ้าพาน้องของเจ้ามาพบข้าสักคราได้หรือไม่”

มีหรือที่หลีหยวนจะปฏิเสธ

พลันที่ซุนเซินจวินเห็นหน้าน้องสาวของหลีหยวนก็บังเกิดความพึงใจ หลีหยวนจึงยกให้เป็นภรรยาของซุนเซินจวิน

ไม่นานต่อมาน้องสาวของหลีหยวนก็ตั้งครรภ์

หลีหยวนจึงปรึกษากับน้อง เล่าถึง “แผนการ” อันวางเอาไว้ให้รู้ เมื่อน้องสาวเห็นดีเห็นงามด้วย

น้องของหลีหยวนจึงกล่าวกับซุนเซินจวินว่า

“ฉู่อ๋องรักและไว้พระทัยในตัวท่านมากกว่าพี่น้องแท้ๆ ทว่า ฉู่อ๋องไม่มีโอรส เมื่อสวรรคตราชสมบัติย่อมตกเป็นของอ๋ององค์ใหม่ และย่อมมอบตำแหน่งสำคัญให้แก่คนของตน ท่านย่อมไม่ได้รับความไว้วางใจอีกต่อไป

ท่านเป็นอัครเสนาบดีมา 20 กว่าปีย่อมเคยทำอะไรล่วงเกินต่อพระญาติบ้าง ถ้าบังเอิญผู้ที่ท่านเคยล่วงเกินขึ้นเป็นอ๋อง เขาย่อมต้องหาทางแก้แค้นท่านแน่นอน

นั่นย่อมอันตรายอย่างมาก ท่านว่าใช่หรือไม่”

ซุนเซินจวินรู้สึกว่าที่นางพูดก็มีเหตุผล จึงถามว่า “เจ้ามีแผนการอะไรหรือ” คำตอบจึงปรากฏขึ้นอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ

“ตอนนี้ข้าตั้งท้องลูกของท่าน แต่ยังไม่มีใครรู้

ถ้าท่านยกข้าให้กับฉู่อ๋อง เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งฉู่อ๋องทรงรู้ว่าข้ามีครรภ์ย่อมจะรักใคร่โปรดปรานข้า

ถ้าสวรรค์เป็นใจให้ข้าคลอดลูกเป็นชาย

ต่อไปภายหน้าก็จะได้สืบราชสมบัติเป็นฉู่อ๋อง ถึงตอนนั้นท่านก็กลายเป็นพระราชบิดา แผ่นดินฉู่ย่อมตกเป็นของท่าน

ยังจะต้องกังวลไปไยว่าจะรักษาตำแหน่งอัครเสนาบดีไว้ไม่ได้”

ซุนเซินจวินนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ ด้านหนึ่ง ก็อาลัยอาวรณ์ภรรยาน้อยที่ตั้งครรภ์บุตรของตนอยู่ อีกด้านหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสในสติปัญญาของนาง

สุดท้ายก็เห็นชอบ

จึงนำน้องสาวหลีหยวนไปถวายเข่าเลี่ยอ๋อง ต่อมา นางก็ให้กำเนิดบุตรชายจริงๆ

บุตรของนางได้รับการแต่งตั้งเป็น “รัชทายาท”

น้องสาวของหลีหยวนก็ได้รับการแต่งตั้งเป็น “ฮองเฮา” หลีหยวนเองก็เป็น “พระมาตุลา”

คล้ายกับทุกอย่างจะเรียบร้อย แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่น

ต ามสำนวนของ “จัง ซิง แซ” แห่งหนังสือ “39 Actives for Success” หรือที่เป็นภาษาไทย คือ “อุบายเฉียบ”

เรียกว่า “ทาบกิ่งเพื่อต่อยอด”

นั่นก็คือ ขอเพียงเป็นการใช้วิธีการสับเปลี่ยนโยกย้ายเพื่อให้สถานการณ์พลิกผัน และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตนต้องการ

ก็ถือว่าเป็นยุทธวิธี “ทาบกิ่ง” ทั้งสิ้น

ต่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ ประดิษฐ์ พีระมาน ที่เรียกว่า “ต้นไม้ผลิดอก” เน้นอย่างหนักแน่นและจริงจัง

เป็นอุบายสร้างกองทัพให้น่าสะพรึงกลัว

ทำให้กองทัพข้าศึกหวาดกลัว ตื่นตระหนก มิกล้าสู้รบ แตกหนีจึงถูกโจมตี พ่ายแพ้

สอดรับกับ “ต้นไม้ผลิดอก” ของ บุญศักดิ์ แสงระวี

ใช้แนวรบของมิตรมาสร้างแนวรบที่เป็นประโยชน์แก่เราขึ้น แม้กำลังจะน้อยแต่ก็สามารถทำให้ดูเหมือนใหญ่โต

ยืนสถานการณ์สร้างกระบวนท่า

เล็กแต่ทำใหญ่ นกใหญ่ โผบิน ปีกขนช่วยพาสง่างาม

ประโยคนี้หมายความว่า นกใหญ่เหินฟ้า อาศัยสองปีกอันแข็งแรง บินร่อนซอกซอนไปตามปุยเมฆ

มิมีสิ่งกีดขวาง

มองอีกแง่หนึ่งก็จะเหมือนกับคำว่า “สร้างสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์” หรือ “ยืมมือที่สาม” เมื่อใช้ในการทหารก็เป็นกลยุทธ์ในการยืมกำลังของผู้อื่นมาเสริมกำลังตนให้ดูแข็งแกร่งขึ้น

สยบข้าศึก

กระนั้น เส้นทางของหลีหยวนก็ใช้จะราบรื่น เมื่อเลี่ยอ๋องประชวร จูอิง ที่ปรึกษาเตือนซุนเซินจวินว่า หลีหยวนไว้ใจไม่ได้ แอบเลี้ยง “มือสังหาร” ไว้มากมาย

หากวันใดฉู่อ๋อง “สิ้น” ต้องแย่งชิงอำนาจแน่นอน

จึงเสนอให้ซุนเซินจวินแต่งตั้งตนให้เป็นหัวหน้าองครักษ์ ถึงเวลานั้นหากหลีหยวนมีอะไรไม่ชอบมาพากล

ก็จะได้ช่วยซุนเซินจวินอีกแรงหนึ่ง

แต่ซุนเซินจวินกลับเห็นว่า จูอิงหวาดระแวงมากเกินไป จึงไม่เห็นด้วย จูอิงจึงไปจากแคว้นฉู่

การณ์เป็นไปดังที่จูอิงคาดไว้ทุกประการ

อีก 17 วันต่อมา เข่าเลี่ยอ๋องก็ “ล่วง” หลีหยวนอาศัยฐานะแห่งพระมาตุลาบุกเข้าไปในวังก่อนใคร

เมื่อซุนเซินจวินเข้ามา มือสังหารก็กรูเข้าสังหารทันที

ตัดศีรษะซุนเซินจวินโยนออกนอกประตูวัง คนในวงศ์วานยังถูกประหารครบถ้วน 7 ชั่วโคตร

อำนาจอยู่ในมือหลีหยวน

ที่ว่า “ต้นไม้ผลิดอก” ก็คือ ทำให้ต้นไม้ซึ่งที่แท้ไม่มีดอก สามารถผลิดอกออกสะพรั่งให้เห็น

โดยใช้วิธีเอา “ดอกไม้ปลอม” ไปติดไว้

หากไม่พินิจพิจารณาให้ดี ก็จะไม่รู้ว่าเป็น “ของปลอม” อาศัยสิ่งนี้หมุนเปลี่ยนสภาพการณ์

ให้กลายมาเป็นผลดี

เสถียร จันทิมาธร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image