เวลาไม่คอยท่าสำหรับประเทศกายอานา

ประเทศกายอานาและทวีปอเมริกาใต้

ประเทศกายอานาเป็นเพียงประเทศเดียวใน 12 ประเทศของทวีปอเมริกาใต้ที่พูดภาษาอังกฤษขณะที่อีก 7 ประเทศพูดภาษาสเปนและมีประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกส ภาษาดัตช์อย่างละประเทศและมีจังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศสชื่อเฟรนช์เกียนาที่พูดภาษาฝรั่งเศสอีก 1 ประเทศ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ต่างเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศจากยุโรปที่แล่นเรือข้ามสมุทรมายึดครองและเข้าปกครองนับร้อยๆ ปีนั่นเอง 

สำหรับประเทศกายอานามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสหกรณ์กายอานา เป็นประเทศที่ตั้งอยู่แถบชายฝั่งทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่ประมาณ 215,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศไทย และมีจำนวนประชากรไม่ถึง 8 แสนคน ซึ่งน้อยกว่าไทยถึง 92 เท่า ประเทศกายอานามีพรมแดนด้านตะวันออกจรดประเทศซูรินาเม พรมแดนด้านใต้ติดกับประเทศบราซิล พรมแดนด้านตะวันตกติดกับเวเนซุเอลา และด้านเหนือติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ชื่อประเทศกายอานา มาจากภาษาของชาวเผ่าอินเดียแดงในอเมริกา หมายถึง ดินแดนแห่งน้ำหลาก ประเทศกายอานาเพิ่งได้เอกราชปกครองตนเองมาเพียง 57 ปี เมื่อ พ..2509 นี่เอง

กายอานาประเทศที่ยากจนเพราะอาชีพส่วนใหญ่ของชาวกายอานา คือทำนาและเลี้ยงสัตว์ ถึงแม้ว่าประเทศกายอานาจะอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำจืดธรรมชาติแต่เนื่องจากมีการทำเหมืองทองอยู่ตามป่าต้นน้ำต้องใช้รถไถ รถขุด เครื่องฉีดน้ำแรงสูงและเครื่องดูดทราย เครื่องจักรกลจำพวกนี้มีผลร้ายทั้งในด้านการทำลายป่าได้อย่างรวดเร็วและการก่อให้เกิดการพังทลายของพื้นดินริมสายน้ำทำให้น้ำขุ่นเป็นตมจนนำมาใช้ในการหุงต้มและดื่มไม่ได้ ส่วนทรายที่นักแสวงหาทองคำรู้กันว่ามีแร่ทองปนอยู่ก็ถูกนำเข้าสู่กระบวนการแยกทองต้องใช้สารปรอทและไซยาไนด์เป็นหลักอันทำให้น้ำเสียและสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก

แต่ใน พ..2558 ได้มีการค้นพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในชายฝั่งทะเลของกายอานา และเริ่มมีการผลิตน้ำมันได้ใน พ..2562 ในปัจจุบันมีการค้นพบแหล่งน้ำมันเพิ่มอีก 27 แห่ง ทำให้กายอานามีทรัพยากรน้ำมันสำรองรวมกันกว่า 11 พันล้านบาร์เรล ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศนี้ได้ส่งผลให้กายอานาเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งธนาคารโลกได้ประเมินว่าภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดนี้ มาจากการค้นพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันโดยแท้ เพราะธนาคารโลกได้ชี้หลักฐานที่ประจักษ์ชัดว่าเศรษฐกิจของกายอานาเติบโตอย่างรวดเร็วใน พ..2565 ถึงร้อยละ 49.7 ทีเดียว และกายอานาจะขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งทะเลได้มากกว่านอร์เวย์ภายในทศวรรษนี้อย่างแน่นอน

Advertisement

แต่ประธานาธิบดีแห่งกายอานา นายเออร์ฟราน อาลี (Irfaan Ali) ได้กล่าวภายหลังจากที่เขาลงนาม อนุมัติให้สัมปทานการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง 8 แปลงแก่บริษัทน้ำมันนานาบริษัทว่า

เวลาไม่อยู่ข้างเราเลย อีก 10 ปีข้างหน้าโลกเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหนโดยเฉพาะตลาดน้ำมันโลก

ครับ ! อีก 10 ปีข้างหน้า การขุดเจาะน้ำมันซึ่งอยู่ลึกลงไป 5 กิโลเมตร ของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกของกายอานาจึงจะผลิตน้ำมันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งใน พ.. 2576 ภาวะโลกร้อนก็จะเลวร้ายยิ่งขึ้น  รัฐบาลนานาประเทศต้องพยายามลดการใช้น้ำมันลง และการใช้รถไฟฟ้าที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเลยก็จะขยายตัวไปทั่วโลกใน พ..2578 ทำให้ตลาดน้ำมันโลกหยุดการขยายตัวและเกิดภาวะถดถอยอย่างแน่นอน แน่นอนเมื่ออุปสงค์คือ ความต้องการซื้อสินค้า (น้ำมัน) ลดลง แต่อุปทาน คือความต้องการขายสินค้า (น้ำมัน) ยังคงที่ ราคาก็ต้องตกลงมาอย่างแน่นอน

Advertisement

อีทีนี้ลองเปรียบเทียบปริมาณราคาของน้ำมันสำรองที่จะทำการผลิตขึ้นมานั้น บรรดาประเทศอาหรับที่มีประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำขุดเจาะน้ำมันจากทะเลทราย ซึ่งมีปริมาณมหาศาลและค่าโสหุ้ยในการเอาน้ำมันดิบคุณภาพดีขึ้นมาได้ในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันที่ผลิตจากทรายน้ำมันและหินน้ำมันที่ต้องผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อนและมีราคาแพงที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดาผลิตอยู่ รวมทั้งประเทศที่ขุดเจาะน้ำมันในทะเลลึก เช่น เม็กซิโก บราซิล รัสเซีย และกายอานาอย่างมากมาย

เมื่อซาอุดีอาระเบียสามารถลดราคาน้ำมันดิบลงได้เหลือบาร์เรลละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ส่วนประเทศที่ผลิตน้ำมันจากทรายน้ำมัน หินน้ำมันและจากทะเลลึก หากราคาตกต่ำลงกว่าบาร์เรลละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่คุ้มค่าผลิตเสียแล้ว

ครับ ! ที่ประธานาธิบดีเออร์ฟราน อาลี กล่าวเมื่อไม่กี่วันนี้จึงเป็นการยอมรับความจริงที่น่าเห็นใจไม่น้อย

 

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image