กรรมหรือฟ้าดินบันดาล
น่าประหลาดใจ!! ที่บ้านเมืองเราเพิ่งได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน มาสดๆ วงการตำรวจก็เกิดฉาวขึ้นมาอีก คือกำนันนกสั่งลูกน้องฆ่าตำรวจทางหลวงระดับนายพัน ในบ้านของกำนันเอง ซึ่งตอนนั้นมีตำรวจอยู่ในบ้านกำนันถึง 21 นาย จึงมีคำถามขึ้นมาว่า ตำรวจไปทำอะไรกันที่นั่น! ตำรวจคงไม่กล้าตอบความจริงดอก
การที่ผู้เขียนใช้ชื่อบทความว่า กรรมหรือฟ้าดินบันดาล ก็เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมันเปิดทางให้รัฐบาลที่ประชาชนใช้มือแต่งตั้งมา ดำเนินการเกี่ยวกับวงการตำรวจที่สังคมไทยต้องการสามเรื่อง คือ หนึ่ง ปฏิรูปวงการตำรวจ สอง ให้รัฐบาลแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจที่ไม่ต้องเกรงใจใคร สาม ให้โอกาสผู้เขียนได้พูดถึงความไม่ดีของวงการตำรวจโดยที่สามารถลงในสื่อได้ สำหรับในเรื่องแรก การปฏิรูปวงการตำรวจ ซึ่งหลายรัฐบาลทำมาแล้ว ก็ไม่สามารถแก้ความมีคุณภาพของตำรวจได้เลย เท่าที่พอนึกออก ปฏิรูปไปปฏิรูปมา ดูเหมือนมีแต่เพิ่มความยิ่งใหญ่ให้ตำรวจอยู่ตลอด หรือจงใจสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตน เพื่อที่ไม่มีใครกล้าปฏิรูปอีก เช่น แต่เดิมในแต่ละจังหวัดจะมีผู้กำกับใหญ่ที่สุดอยู่คนเดียว ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นผู้การจังหวัด ส่วนโรงพักย่อยๆ ก็เป็นผู้กำกับไป แต่เดิม ตำรวจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เรียกว่าอธิบดีกรมตำรวจ แต่ทุกวันนี้ปฏิรูปให้ชื่อน่าเกรงขามยิ่งขึ้น คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้ใหญ่เหมือนกองทัพ เพราะความฉาวคราวนี้เปิดทางรัฐบาลจะปฏิรูปอย่างไร น่าจะง่ายขึ้น ขอให้รัฐบาลชุดนี้ใจถึงและรีบทำ
สำหรับข้อที่สอง การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจ ขอให้รัฐบาลนี้จงมีความกล้า และรีบค้นหาและทำลายการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจให้ได้ แต่ขอให้คิดว่าการซื้อขายตำแหน่งมิได้มีเฉพาะวงการตำรวจนะ!! มีทุกกระทรวง ข้ออ้างคือหาเงินเข้าพรรค เรื่องนี้ ต้องกำจัดให้หมด โดยเฉพาะพรรคที่มีเจ้าของพรรค นั่นแหละตัวดี
สำหรับความต้องการของประชาชนประเด็นที่สามคือ แก้ความเหลวแหลกของวงการตำรวจที่ชาวบ้านเขาซุบซิบกันว่า หนึ่ง ตำรวจขายยาบ้า ยาเสพติดอื่นๆ ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ โดยอาศัยคนเคยเสพติดบ้าง หรืออาศัยคนเสพติดนั่นแหละเป็นคนขายให้ประชาชน ทุกวันนี้จึงปราบไม่หมด ก็เพราะตำรวจใหญ่นั่นแหละไปประจบประแจงผู้มีอำนาจด้วยการเอาอามิสไปประเคนให้ประจำ เพราะมันเป็นรายได้ที่น่าหอมหวนยิ่งนัก ขอให้รัฐบาลของประชาชนชุดนี้จัดการเรื่องนี้ให้ได้ จัดการอย่างไร? ก็จัดการตำรวจนั่นแหละ!! สอง ตำรวจนี่แหละเป็นตัวการที่ทำให้ค่าครองชีพของประชาชนแพงขึ้นทุกวัน เพราะอะไร? เพราะว่าสินค้าทุกประเภทที่ประชาชนใช้สอยอยู่ประจำวันมันส่งทางถนน เมื่อตำรวจเก็บส่วยทางหลวงร้านค้าก็ต้องขึ้นราคาสินค้า การขึ้นราคาสินค้า พ่อค้าต้องคิดราคาต้นทุน และคิดกำไร ตามลักษณะอาชีพของเขา การคิดต้นทุนของพ่อค้าเขาต้องคิดค่าคนขับรถ ค่าน้ำมัน ค่าส่วยตำรวจ ค่าราคาสินค้า และกำไรที่ขาต้องการ และนั่นคือทำให้สินค้าแพง เหมือนกรณีของกำนันนกที่บังอาจสั่งลูกน้องยิงตำรวจที่ตัวเองเชิญมาที่บ้านของตนเพื่อเจรจาขอให้รถบรรทุกของเขาเพิ่มน้ำหนักบรรทุกได้ แล้วเขาจะจ่ายเงินให้สารวัตรศิวกร แต่สารวัตรศิวกรไม่เล่นด้วย จึงพยักหน้าให้ลูกน้องฆ่าเสีย
ถามว่าเพราะอะไร ส่วยทางหลวงถึงมีเงินหมุนเวียนหลายร้อยหรือพันล้านต่อปี ตอบว่าเพราะเจ้าของรถสิบล้อต้องการขนสินค้า ให้เกินน้ำหนักที่ทางการอนุญาต มันจะได้กำไรเยอะ ตำรวจเห็นรถสิบล้อบรรทุกเกินก็ต้องจับ สมัยก่อนการจับ ตำรวจแบมือเรียกเงินเลย จนมีภาพฟ้องร้องกัน มันน่าเกลียด! ทุกวันนี้จึงแจกสติ๊กเกอร์ เป็นเครื่องหมาย เมื่อผ่านด่านตำรวจก็ให้ผ่านไป เพราะแสดงว่า จ่ายกันเป็นรายเดือนแล้ว น่าสงสัยว่าการกำหนดน้ำหนักรถสิบล้อวิ่งบนถนน ใครเป็นผู้กำหนด กรมทางหลวงหรือตำรวจทางหลวง ถ้าทั้งสองหน่วยปรึกษากัน ขอให้ระวังตำรวจทางหลวงจะแอบกำหนดน้ำหนักให้อ่อนลง เพื่อที่จะได้เกินน้ำหนักง่ายๆ แล้วจะได้หาเงินใช้ได้ ผู้เขียนเคยพบเหตุการณ์ตำรวจกับรถสิบล้อบรรทุกดิน สองเรื่อง เรื่องแรก
รถบรรทุกดินคงมองเห็นตำรวจอยู่ข้างหน้า รถสิบล้อจึงหันรถสิบล้อเข้ามาในซอยหมู่บ้านของผู้เขียน แต่เผอิญซอยนั้นเป็นซอยตัน ทั้งคู่จึงไปจ๊ะเอ๋กันที่จุดนั้น แล้วก็ต้องจ่ายผู้เขียนสงสารคนขับรถสิบล้อ ไม่ทราบว่าจะมีเงินจ่ายหรือไม่!!
เรื่องที่สอง ในหมู่บ้านผู้เขียน ทางการเพิ่งมาลาดยางให้ใหม่ๆ แล้ววันหนึ่งสิบล้อบรรทุกดินมาเต็มคันรถผ่านบ้านผู้เขียน ผู้เขียนเห็นแล้วตกใจ เพราะมันต้องน้ำหนักเกินแน่ๆ จึงรีบโทรศัพท์ไปโรงพักทันทีเพื่อหวังให้ตำรวจมาห้ามบรรทุกเกิน อีกสองวันต่อมาผู้เขียนได้พบเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับบ้านที่ถมดิน จึงถามว่าวันนั้นตำรวจไปจุดที่ถมดินไหม เพื่อนบ้านหัวเราะแล้วถามว่า อาจารย์โทรไปแจ้งตำรวจหรือ? ตอบว่า ใช่ เขาจึงหัวเราะ แล้วพูดว่าตำรวจคงพอใจ
การที่สังคมต้องการให้ปฏิรูปวงการตำรวจก็ดี ต้องการให้แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจที่เด็ดขาดเพื่อขจัดการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจก็ดี ก็เพราะตราบใดที่วงการตำรวจเป็นอย่างนี้ ประชาชนจะถูกตำรวจเรียกไถเงินเป็นประจำ บางคนเขาไม่ผิดเขาก็ไม่ให้ ตำรวจก็เอาถุงดำครอบหัวซ้อม ทรมาน หรือบางทีก็ทำให้หายไปได้ พวกตำรวจจะได้ปลอดภัย เพราะเหตุนี้แหละประชาชนจึงหวังให้รัฐบาลปฏิรูปตำรวจ คราวนี้แหละรัฐบาลที่มาจากฝีมือประชาชนต้องปฏิรูปตำรวจให้มีหน้าที่พิทักษ์ประชาชนให้ได้ ไม่ใช่สูบแต่เงินของชาวบ้าน ถ้าไม่ปฏิรูปก็จะสูญพันธ์ุแน่ๆ ในความเห็นของผู้เขียน ขอให้ตำรวจขึ้นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วกลับมาเป็นกรมตำรวจเหมือนเดิม แล้วให้กรมตำรวจไปขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม เพราะงานตำรวจเป็นเบื้องต้นของความยุติธรรมอยู่แล้ว ภาพของตำรวจจะดีขึ้น ที่ผ่านมาตำรวจอยู่มหาดไทยภาพของมหาดไทยเป็นภาพหมิ่นไปในทางลบ เมื่อมาอยู่กับ นายกฯเป็นภาพทางการเมือง มักหมิ่นไปทางการเมือง ทั้งมหาดไทยและทำเนียบ ต่างใช้ตำรวจมาแวดล้อมตัวเองเพื่อเสริมบารมี แต่เมื่อมาขึ้นต่อกระทรวงยุติธรรม และขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัด นั่นคือ เพิ่มความพิทักษ์ให้ประชาชน นี่เป็นความเห็นส่วนตัวไม่ต้องเห็นตามหรอก แต่ที่แน่ๆ ขอให้รัฐบาลมาจากประชาชน ต้องปฏิรูปตำรวจให้ได้
ถ้าการเมืองรวมกันได้ ทหารยอมประชาชน ตำรวจถูกรัฐบาลของประชาชนปฏิรูป มิให้มาสร้างค่าครองชีพของประชาชนให้สูงอยู่ตลอดเวลา นั่นคือความสงบสุขของคนระดับบน แต่ประชาชนผู้เคยแตกแยกกัน เคยถูกฆ่า ถูกติดคุก เคยลงมือกันเพราะเห็นต่างทางการเมือง แม้กระทั่งคนในครอบครัวเดียวกันความเห็นต่างยังมีอยู่ ขอให้รัฐบาลนี้จงออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด แม้กระทั่งอดีตนายกฯทักษิณ เพราะความผิดดังกล่าวมาจากความเป็นอคติของผู้มีอำนาจทั้งนั้น ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นการกรุยทางไปสู่ความศิวิไลซ์ของประเทศไทยโดยตรง
ทวี ผลสมภพ